ปกิณกะพระเครื่อง ธรรมะ และวัดวาอาราม

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 5 ธันวาคม 2014.

  1. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    บ่อน้ำทิพย์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  2. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    แจมด้วยภาพ

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  3. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    พระผงครูบาวงศ์ ผสมเนื้อกวางคำหิน ออกวัดพระธาตุดอยกวางคำ
     
  4. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศากับวัดพระธาตุดอยกวางคำ

    ปู่กับอดีตชาติ

    หลวงปู่เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า วัดพระธาตุดอยกวางคำ มีความเกี่ยวพันกับอดีตชาติของท่านมาก หลวงปู่จึงเรียกดอยกวางคำแห่งนี้ว่า สุสานเก่าของท่าน ผู้เขียนเคยสนทนากับชาวบ้านที่อยู่รอบดอยกวางคำ ซึ่งเป็นกะเหรี่ยงทั้งหมด ทำให้ทราบว่า วัดพระธาตุดอยกวางคำ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดดอยกวางคำ มีความสำคัญต่อหลวงปู่ไม่น้อย โดยจะเห็นได้จาก ในช่วงที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ หลวงปู่จะแวะมาพักที่วัดพระธาตุดอยกวางคำเสมอเมื่อมีโอกาส เช่น เวลารับกิจนิมนต์ข้างนอกที่เป็นทางผ่าน หลวงปู่มักจะแวะมาฉันเพล หรือไม่ก็แวะมาพักผ่อนหลังจากเสร็จกิจนิมนต์แล้ว จึงจะกลับวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

    ผู้เขียนเคยขออนุญาตสร้างพิพิธภัณฑ์บรรจุเนื้อกวางคำ หลังจากที่หลวงปู่ได้เล่าให้ทราบความเป็นมาของพระธาตุดอยกวางคำจากปากของหลวงปู่เอง และหลวงปู่ก็ได้อนุญาตด้วยดี ทั้งนี้โดยมี รองศาสตราจารย์ ณรงค์ อาจฤทธิ์ เป็นเจ้าภาพสร้างถวาย โดยหลวงปู่เป็นผู้แนะนำในการออกแบบ รวมทั้งกำหนดสถานที่ที่จะสร้าง ซึ่งในขณะนี้ก็ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว



    [​IMG]
    ข้อความที่หลวงปู่ให้บันทึกไว้บนเนื้อกวางคำที่เป็นหิน


    จากการที่ได้สร้างพิพิธภัณฑ์บรรจุเนื้อกวางคำ ทำให้ผู้เขียนทราบว่า หลวงปู่มีความเกี่ยวพันกับวัดพระธาตุดอยกวางคำนี้อย่างไร โดยจะเห็นได้จาก ข้อความที่หลวงปู่ให้บันทึกไว้บนเนื้อกวางคำที่เป็นหินดังนี้ (โปรดดูภาพประกอบ)

    “เนื้อพญากวางคำ ที่มาฟังเทศน์มหาเถรเจ้า หมอพรานมายิงกวางคำตาย เมื่อฟังเทศน์จบ ได้เกิดเป็นเทพบุตรกวางอยู่ชั้นดาวดึงส์ ปราสาทสูง 12 โยชน์ กว้าง 12 โยชน์ เทวดามาเป็นบริวารหลายพันองค์

    พรานบ่กล้ากินเนื้อกวาง จึงกองไว้จนกลายเป็นเนื้อหิน ที่เอาบรรจุไว้ที่นี้ทั้งหมด เพื่อเป็นอนุสรณ์ ให้ลูกหลานได้กราบไหว้บูชาภายหน้าต่อไป

    เทวบุตรกวางตัวนี้ได้จุติลงมาเกิดเป็นครูบาเจ้าชัยยะวงศาปัจจุบันนี้ก็บ่แน้แลนาย”


    เรื่องประวัติพระพุทธบาทดอยกวางคำ

    จากหนังสือธรรมปกิณกะ เล่ม 1

    ขอเอาเรื่องของครูบาบางเรื่องมาเขียนไว้ เผื่อลูกศิษย์ใหม่ๆบางคนอาจจะไม่เคยทราบ บางคนทราบเรื่องแล้วก็จะได้ระลึกถึงท่าน ....

    ในสมัยพระพุทธเจ้ากกุสันธะ มีพระมหาเถระเจ้าองค์หนึ่ง ธุดงค์ไปตามป่าเขา และไปสถิตอยู่บนยอดดอย (ปัจจุบันนี้เรียกว่าขุนห้วยโป่งแดง) พระมหาเถระเจ้าก็บำเพ็ญเมตตาภาวนาอยู่ในระยะใกล้รุ่ง ท่านก็สวดมาติกาและอภิธรรม ณ ที่นั้น

    ในขณะที่ท่านกำลังสวดอยู่ มีพรานเนื้อกลุ่มหนึ่งไปล่าเนื้อในป่า ก็ไปพบ พญากวาง เมื่อพญากวางตัวนั้น เห็นพรานเนื้อหมู่นั้น ก็กลัวพวกพรานทั้งหลาย จะทำร้ายต่อบริวาร ก็โดดหลอกล่อ ออกไปให้ห่างจากฝูง

    วิ่งขึ้นไปบนจอมเขา พอไปถึงบริเวณที่ใกล้พระมหาเถระสวด พญากวางก็ได้ยินเสียงพระมหาเถระเจ้า ก็ดักนิ่งฟังอยู่ มันเข้าใจว่าคำนี้เป็นคำของพระพุทธเจ้า มันก็ฟังอยู่ถูกใจมาก

    ส่วนพวกพรานเนื้อติดตามเข้ามาไม่ใกล้ไม่ไกลกวางตัวนั้นเท่าไร ก็เห็นกวางตัวนั้น แต่ว่าเขาไม่เห็นพระมหาเถระเจ้า หมอพรานก็ยกธนูยิงกวางตัวนั้น ลูกธนูก็ถูกใส่กวาง ส่วนพญากวางก็ไม่รู้ว่าถูกยิงเพระว่ากำลังฟังเทศน์เพลินอยู่

    เมื่อพระมหาเถระสวดจบ พญากวางก็ลืมตาขึ้นนึกว่า สาธุยินดีซึ่งธรรมะของพระพุทธเจ้า เมื่อรู้ตัวก็เป็นเทวบุตรอยู่ชั้นฟ้าดาวดึงษา อยู่ปราสาทวิมานทองคำสูง 12 โยชน์ กว้าง 12 โยชน์ อยู่เสวยบุญเป็นเทวบุตร ตายจากชั้นฟ้า ก็ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ พยายามสร้างบารมีอยู่จนกว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในภายหน้า

    ในขณะที่หมอพรานยิงกวางตาย พระมหาเถระเจ้าก็เดินไปดูกวางตัวนั้น และทักว่า

    "หมอพรานทั้งหลาย ยิงกวางตัวนี้ทำไม กวางนี้ไม่ใช่กวางธรรมดาสามัญ เป็นพญากวาง กำลังฟังเทศน์อยู่ เจ้าก็มายิงมันตาย เดี๋ยวนี้พญากวางก็ไปเกิดเป็นเทวบุตร อยู่บนชั้นฟ้าดาวดึงษาโน้นแล้ว พวกเจ้าทั้งหลายนี้ ทำไมไม่มีความเมตตา มายิงกวางตัวนี้ตายไป"

    ส่วนพวกกรานทั้งหลายก็นมัสการกราบไหว้พระมหาเถระเจ้า และขอให้พระมหาเถระเจ้ายกโทษแก่พวกเขาทั้งหลาย เพราะความไม่รู้

    โดยบอกว่า "ข้าพเจ้าทั้งหลายก็เป็นหมอพราน ต้องล่าสัตว์เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องอยู่อย่างนี้แหละ"

    พระมหาเถระเจ้าก็เทศน์เรื่องบาปเรื่องกรรมทั้งหลายให้หมอพรานฟัง แล้วก็ให้หมอพรานทั้งหลายรับศีล 5 พวกพรานทั้งหลายก็กลัวบาป กลัวโทษ กลัวกรรม และตั้งใจจะทิ้งธนูเสียหมดทุกคน พร้อมทั้งขอรับศีล 5 กับพระมหาเถระเจ้า แล้วก็ขออนุญาตพระมหาเถระเจ้าว่า

    "ข้าพเจ้าได้ยิงกวางตายเสียแล้ว ข้าพเจ้าขออนุญาตเอาชิ้นเนื้อกวางไปกิน แต่ว่าต่อไปจะไม่ทำอีก"

    พระมหาเถระเจ้าก็ว่า "ตามใจเถอะ"

    หมอพรานทั้งหลายก็ปาดเนื้อกวางตัวนั้นออกเป็นชิ้นๆ แล้วก็ปันให้แก่พรรคพวกเดียวกัน คนละชิ้น ส่วนเขากวางและกระดูกกวาง พระมหาเถระเจ้าก็ขอเอาไปบรรจุไว้ในอุโมงค์หลุมลึก 4 ศอก ที่ข้างวัดนั้น

    ต่อมาวัดนั้นก็เรียกว่า วัดพระธาตุดอยกวางคำ จนถึงปัจจุบัน




    [​IMG] [​IMG]
    มณฑปที่สร้างครอบชิ้นเนื้อกวางคำที่กลายเป็นหิน


    ส่วนชิ้นเนื้อพญากวางที่หมอพรานหาบไป ต่างคนต่างคิดว่าเราจะทำอย่างไร กวางนี้เขาฟังเทศน์เราจะกินเนื้อเขาก็ไม่ดี เราเอามาบรรจุรวมไว้เป็นจุดเป็นกองเสีย ในเนินดอยที่นี่ดีกว่า

    ดังนั้นพวกหมอพรานต่างคนต่างเอาชิ้นเนื้อกองไว้ ชิ้นเนื้อนั้นก็เป็นหินมาจนถึงทุกวันนี้

    บริเวณบนจอมเขานั้น หมอพรานก็ขอพระมหาเถระเจ้าให้ประทับรอยพระบาทไว้ พระมหาเถระเจ้าก็เหยียบรอยพระบาทไว้ให้พวกพรานทั้งหลายได้ไหว้และสักการบูชาต่อไปจนถึงในยุคปัจจุบันนี้

    ใน พ.ศ. 2521 อาตมา (พระชัยยะวงศา) ได้แนะนำพวกกระเหรี่ยงให้ขึ้นไปที่จอมเขานั้น ก็เห็นรอยพระบาทมหาเถระเจ้า และได้ชวนกันสร้างตึกครอบพระบาทไว้เพื่อเป็นที่กราบไหว้ และสักการบูชา

    พ.ศ. 2522 พวกกระเหรี่ยงบ้านหัวขัว และโป่งแดง พร้อมใจกันนิมนต์อาตมา เป็นประธานก่อสร้างพระเจดีย์ไว้จอมดอยที่นั้นซึ่งเป็นที่ฝังหัวกวาง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2015
  5. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    พระสมเด็จโคตรเศรษฐี ครูบาวงศ์ ออกวัดดอยกวางคำ



    [​IMG]



    ขอขอบคุณเจ้าของภาพคำสอนครูบาวงศ์ด้วยครับ
     
  6. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    พบกายเนื้อครูบาชัยยะวงศาพัฒนา หลังจากมรณภาพ

    BY: NOOKFUFU2



    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณปี 2543 หรือ 44 จำไม่ได้แล้ว เป็นงานบุญของวัด
    พระธาตุห้าดวง อ.ลี้ จ.ลำปาง


    เริ่มแรกมีเพื่อนธรรม 3 คนชวนไปร่วมงานบุญกัน ตอนนั้นก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว อยู่ว่างๆเงินไม่ค่อยมี เขาก็ไม่ได้เรียกร้องให้ช่วยลงขันหารค่าน้ำมันรถ บอกแค่ว่า ถ้าอยากไปด้วยก็ตามมา ก็เลยตกลงไปขอตามไปด้วย ช่วงนี้ดวงตกมาก รู้สึกอยากไปทำบุญ มีอาการแน่นหน้าอกบ่อยๆ เหมือนหัวใจโดนบีบ ถ้าเป็นมากตัวจะเกร็งจนขยับไม่ได้ หน้าซีดปากซีด หัวใจเต้นแรงและเต้นเร็วมาก จนหายใจไม่ทัน เจ็บหัวใจมากความรู้สึเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบกำหัวใจแรงๆ เคยไปให้แพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนตรวจให้ หมอบอกว่า ร่างกายแข็งแรงดีหัวใจแข็งแรงปกติทุกอย่างไม่ได้เป็นอะไร เพราะปกติเป็นคนชอบเล่นกีฬา

    หมอตกใจนิดหน่อยแค่เรื่องหายใจยาวมาก และหายใจเบาเกินไปจนหมอแทบไม่ได้ยินเสียงหายใจ หมอต้องบังคับบอกให้หายใจแรงๆกว่านี้ถึง 3 รอบ ถึงจะได้ยินเสียงเราหายใจชัดขึ้น อันนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับอาการป่วยเพราะเป็นคนชอบทำสมาธิ หายใจยาวถือเป็นเรื่องปกติ หายใจเบาเป็นปกติ สรุปคืออาการป่วยแปลกๆแบบนี้หมอหาสาเหตุไม่ได้ แนะนำแค่ให้นอนพักผ่อนมากๆ ให้ยามาทานพอเป็นพิธี เลยเข้าใจว่าคงจะเป็นโรคกรรมมากกว่า

    วันงานบุญตอนเช้าก็ไม่ได้เป็นอะไรปกติทุกอย่าง ตอนสายพิธีสำคัญๆในวัดห้าดวงไม่มีแล้ว ก็ไปช่วยเขายกโต๊ะใหญ่เก็บเข้าโรงทาน ต้องยกสองคนหัวท้ายเพราะเป็นโต๊ะยาว ยกโต๊ะช่วงแรกๆไม่มีอะไร เดินสบายๆ ถนัดเรื่องใช้กำลังมากกว่าใช้สมอง สังเกตเห็นพระสงฆ์แก่องค์หนึ่งเดินเข้ามาในเขตลานพิธี พระสงฆ์องค์นั้นใสแว่นตาดำกลม ดูเท่ไม่หยอก สวมหมวกไหมพรมถัก น่าเลื่อมใส รู้สึกสะกิดใจ ต้องเป็นพระดีไม่ธรรมดาแน่ๆ

    ตั้งใจว่ายกโต๊ะไปเก็บแล้วที่โรงทานจะรีบเอาเงินไปทำบุญใส่ย่ามท่านให้ได้
    กระเป๋าเงินอยู่ในห้องพักลืมเอาออกมาด้วย มีผู้ชายตัวใหญ่ร่างท้วมผิวขาวเนื้อเต็มสูงมาก เดินตามหลังพระแก่องค์นั้นมาด้วย แต่งชุดผ้าไหมแบบชาวล้านนามีสไบพาดไหล่ เดินยิ้มให้เรามาแต่ไกล ท่าทางใจดี เข้าใจว่าคงเป็นโยมอุปัฏฐากพระสงฆ์แก่องค์นี้ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ ดูยังไงพระองค์นี้ต้องเป็นครูบาเจ้าฯที่ไหนแน่ๆ ทำไมไม่มีใครรีบวิ่งเอาร่มมากางให้ท่าน ทำไมถึงให้ท่านเดินตากแดดเข้ามา

    ยกโต๊ะเดินไปทางท่านพอดี จ้องหน้าท่านแต่ไกล ในงานมีครูบาเจ้าหลายองค์ที่ทางวัดพระธาตุห้าดวงนิมนต์มาร่วมพิธี กลัวจะจำไม่ได้ เดี๋ยวกลับมาใส่ย่ามผิดองค์ ตอนนั้นอาการเจ็บหน้าอกเริ่มปรากฏ หน้าเริ่มซีด ก้าวขาเดินไม่ออก พี่ผู้ชายที่ยกหัวโต๊ะเริ่มเป็นห่วงถามว่าไหวไหม เราก็ปากแข็งบอก ไหวๆพี่ ฝืนพูดไปแบบนั้น ความจริงตอนนั้นหายใจไม่ออกแล้ว หัวใจเต้นรัว จนเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น นิ้วเกร็งจนหงิกเลย พระสงฆ์แก่เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ผู้ชายตัวใหญ่ที่เดินตามพระสงฆ์แก่มารีบวิ่งแซงมาช่วยยกโต๊ะแทนให้ บอกว่าจะช่วย ยิ้มให้เรา แต่จริงๆคือแย่งถือท้ายโต๊ะแทนให้เลยเสร็จสรรพ ยกโต๊ะเดินไปเก็บที่โรงทานให้

    พอผู้ชายคนนั้นช่วยยกโต๊ะให้แล้ว ตอนนั้นเราเข่าทรุดนั่งกองกับพื้นตรงนั้นเลย หายใจเร็วมากจนหายใจไม่ทัน มองพระสงฆ์แก่เดินมาใกล้มากขึ้น เดินสวนกันห่างกันไม่ถึงเมตร เรามองท่านตลอด ท่านเดินผ่านไปช้าๆ พอท่านเดินสวนพ้นเราไป อาการแน่นหน้าอกทุเลาลง หัวใจเริ่มเต้นเป็นปกติ นิ้วที่งอหงิกเริ่มคลาย
    อาการหัวใจเกร็งลดลง

    พยายามหันหลังมองตามดูว่าท่านเดินไปทางไหน จะได้รีบกลับไปเอาเงินมาใส่ย่ามให้ได้ ตอนนั้นก็ไม่เห็นท่านแล้ว ฝืนลุกเดินกลับที่พัก
    ทั้งแบบนั้น เดินหาท่านทั่วงาน หาเท่าไหรก็ไม่พบ ผู้ชายตัวใหญ่แต่งชุดล้านนาที่เป็นโยมอุปถากคนนั้นก็หายไปเลย งานทั่วงานไม่เจอ ถามเด็กในวัดไม่มีใครพบ

    สุดท้ายไปถามเจ้าอาวาสวัดพระธาตุห้าดวง อยากรู้ว่าครูบาเจ้าที่นิมนต์มาทั้งหมด มีรูปไหนใส่แว่นดำกลมๆเล็กๆบ้าง ที่จริงลักษณะแบบนี้ไม่น่าจะหายาก เพราะครูบาเจ้าทุกองค์ที่นิมนต์มาไม่มีองค์ไหนใส่แว่นดำ


    เจ้าอาวาสถามกลับ บอกรายละเอียดลักษณะทั่วไปของพระแก่องค์นั้น เราก็บอกใช่หมด เป็นพระสงฆ์แก่ น่าจะเป็นครูบาเจ้าฯจากวัดไหน เดินหลังค่อมหน่อยเพราะอายุท่านมาก เวลาเดินเอามือไขว่หลัง ใส่แว่นดำเท่ๆ รูปร่างผอม ผิวคล้ำ สวมหมวกถักไหมพรม จีวรสีเข้ม คราวนี้เจ้าอาวาสเอารูปให้ดู ถามว่าที่เห็นน่ะองค์นี้ใช่ไหม เราก็ดู บอกว่าใช่แน่นอน มองท่านมาแต่ไกล จนเดิน
    สวนกันก็มองตลอด จำติดตาจำได้แม้แต่ท่าทางการเดิน ท่านเจ้าอาวาสวัดพระธาตุห้าดวงถึงได้เฉลยว่าองค์นี้คือ หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศ์พัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน ท่านมรณภาพไปนานแล้ว ถ้าไม่เชื่อก็ไปกราบท่านที่วัดได้ ศพของท่านไม่เน่าไม่เปื่อย ท่านนอนอยู่ในโลงแก้ว ท่านคงอยากมาสงเคราะห์



    หลังจากกลับมา เล่าเหตุการณ์ให้พ่อฟัง พ่อบอกว่าอาจารย์ที่สอนกรรมฐานให้เรา เคยพาเรามาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่าน พ่อจำได้แม่นเพราะพ่อก็ไปด้วย ตอนนั้นเราลืมไปแล้ว มันนานหลายปีตั้งแต่สมัยที่ท่านครูบาเจ้าฯยังมีชีวิตอยู่ แล้วอาจารย์ฆราวาสก็พาตระเวนไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับพระดีทางเหนือหลายองค์ จนจำไม่ได้ว่าองค์ไหนบ้าง ไปกันเป็นหมู่คณะใหญ่ พ่อเล่าอยู่นานเราจนเริ่มนึกออก เริ่มรู้สึกสลดใจ ครูบาอาจารย์ท่านไม่เคยลืมศิษย์ มีแต่ศิษย์ที่จะลืมครูบาอาจารย์...สาเหตุที่นำเรื่องนี้มาพิมพ์ลงไว้ เพราะวันก่อน(วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2553)ฝัน
    เห็นผู้ชายผิวขาวแต่งตัวแบบล้านนาคนเดิมมาหา จึงนึกถึงเหตุการณ์นี้ได้อีกครั้ง....



    ขอบคุณเจ้าของบทความด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2015
  7. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]



    วันมาฆบูชา

    ตรงกับวันขึ้น ๑๕ค่ำเดือน๓

    "มาฆะ" เป็นชื่อของเดือน ๓ มาฆบูชานั้น ย่อมาจากคำว่า"มาฆบุรณมี" แปลว่าการบูชาพระในวันเพ็ญ เดือน ๓ วันมาฆบูชาจึงตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ แต่ถ้าปีใดมีเดือน อธิกมาส คือมีเดือน ๘ สองครั้ง วันมาฆบูชาก็จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ เป็นวันสำคัญวันหนึ่ง ในวันพุทธศาสนา คือวันที่มีการประชุมสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพุทธศาสนา ที่เรียกว่า "จาตุรงคสันนิบาต" และเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดง โอวาทปฎิโมกข์ แก่พระสงฆ์สาวกเป็นครั้งแรก ณ เวฬุวันวิหาร กรุงราชคฤห์ เพื่อให้พระสงฆ์นำไปประพฤติปฏิบัติ เพื่อจะยังพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป

    โอวาทปาฏิโมกข์

    โอวาทปาฏิโมกข์ หลักคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา หรือคำสอนอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่ พระพุทธพจน์ ๓ คาถากึ่ง ที่พระพุทธเจ้าตรัสแก่พระอรหันต์ ๑,๒๕๐ รูป ผู้ไปประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ พระเวฬุ วนาราม ในวันเพ็ญเดือน ๓ ที่เราเรียกกันว่าวันมาฆบูชา (ถรรถกถากล่าวว่า พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ นี้ แก่ที่ประชุมสงฆ์ตลอดมา เป็นเวลา ๒๐ พรรษา ก่อนที่จะโปรดให้สวดปาฏิโมกข์อย่างปัจจุบันนี้แทนต่อมา), คาถา โอวาทปาฏิโมกข์ มีดังนี้ (โอวาทปาติโมกข์ ก็เขียน)



    สพฺพปาปสฺส อกรณํกุสลสฺสูปสมฺปทา
    สจิตฺตปริโยทปนํเอตํ พุทธาน สาสนํฯ
    ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา
    นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา
    น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี
    สมโณ โหติ ปรํ วิเหฐยนฺโตฯ
    อนูปวาโท อนูปฆาโต ปาติโมกฺเข จ สํวโร
    มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ ปนฺตญฺจ สยนาสนํ
    อธิจิตฺเต จ อาโยโค เอตํ พุทฺธาน สาสนํฯ


    แปล : การไม่ทำความชั่วทั้งปวง, การบำเพ็ญแต่ความดี, การทำจิตของตนให้ผ่องใส นี้เป็นคำสอนของ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขันติ คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง, พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่านิพพาน เป็นบรมธรรม, ผู้ทำร้ายคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต,ผู้เบียดเบียนคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ การไม่กล่าวร้าย, การไม่ทำร้าย, ความสำรวมในปาฏิโมกข์, ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร, ที่นั่งนอนอันสงัด, ความเพียรในอธิจิต นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ที่เข้าใจกันโดยทั่วไป และจำกันได้มาก ก็คือ ความในคาถาแรกที่ว่า ไม่ทำชั่ว ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ผ่องใส


    กล่าวคือมีเหตุการณ์พิคำว่า "จาตุรงคสันนิบาต" แยกศัพท์ได้ดังนี้ คือ "จาตุร" แปลว่า ๔ "องค์" แปลว่า ส่วน "สันนิบาต" แปลว่า ประชุม ฉะนั้นจาตุรงคสันนิบาตจึงหมายความว่า "การประชุมด้วยองค์ ๔"เศษที่เกิดขึ้นพร้อมกันในวันนี้ คือ



    ๑. เป็นวันที่ พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า จำนวน ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกันที่เวฬุวันวิหารในกรุงราชคฤห์ โดยมิได้นัดหมาย
    ๒. พระภิกษุสงฆ์เหล่านี้ล้วนเป็น "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" คือเป็นผู้ที่ได้รับการอุปสมบทโดยตรงจาก พระพุทธเจ้าทั้งสิ้น
    ๓. พระภิกษุสงฆ์ทุกองค์ที่ได้มาประชุมในครั้งนี้ ล้วนแต่เป็นผุ้ได้บรรลุพระอรหันต์แล้วทุก ๆองค์
    ๔. เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงกำลังเสวยมาฆฤกษ์
     
  8. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปกราบหลวงปู่โต๊ะ ที่วัดถ้ำสิงโตทอง ซึ่งเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่หลวงปู่โต๊ะท่านใช้เป็นที่ปฏิบัติพระกรรมฐาน ตามประวัติของวัดกล่าวว่า "เมื่อปีพ.ศ.๒๕๐๙ พระมานิตย์ได้พบกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯและได้ชักชวนหลวงปู่โต๊ะมายังถ้ำสิงโตทอง หลวงปู่เล็งเห็นว่าสถานที่นี้สงบเงียบเหมาะสำหรับเป็นที่ปฏิบัติธรรม จนกระทั่งมีลูกศิษย์รวบรวมทุนทรัพย์ซื้อที่ดินถวายและก่อสร้างวัดถ้ำสิงโตทองแห่งนี้"





    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  9. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    กุฏิหลวงปู่และหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่โต๊ะ
     
  10. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ถ้ำแก้วอันเป็นที่เจริญพระกรรมฐานของหลวงปู่
     
  11. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    ภายในถ้ำแก้วและพระโพธิสัตว์กวนอิม หน้าปากถ้ำ
     
  12. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]



    เจดีย์พระอัฐิธาตุหลวงปู่และหุ่นขี้ผึ้ง
     
  13. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ในวัดถ้ำสิงโตทอง
     
  14. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    น้อมกราบพระรัตนตรัย
    น้อมกราบ...หลวงปู่โต๊ะ



    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
     
  15. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]



    วันที่๕ มี.ค. ครบรอบวันมรณภาพหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และหลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน
     
  16. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    [​IMG]
     
  17. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    วัดประดู่ฉิมพลี


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    อุโบสถที่ตอนนี้กำลังรอการบูรณะ(อยู่ในขั้นตอนการขออนุญาตจากกรมศิลปากร) พระประธานภายในโบสถ์ และบาตรน้ำมนต์เดิมมีสองใบแตกแตกไปใบหนึ่ง แต่ก่อนบาตรน้ำมนต์นี้ตั้งไว้ในโบสถ์มักมีมือดีมางัดเอาพระไป ปัจจุบันทางวัดได้นำบาตรนี้ไปเก็บรักษาไว้แล้ว


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    เจดีย์รอยพระพุทธบาทจำลอง


    [​IMG]


    [​IMG]


    น้อมกราบหลวงปู่โต๊ะ -/\-
     
  18. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    สุสานทุ่งมน


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    กุฏิหลวงปู่หงษ์


    [​IMG]


    กุมารทองด้านหน้ากุฏิ จะมีลูกศิษย์มาบนบานกันอยู่เสมอๆ


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    ปราสาทเพขรที่เก็บสังขารหลวงปู่หงษ์
     
  19. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    เหรียญบาตรน้ำมนต์ครูบาวงศ์ ปี ๒๕๓๖ ขนาด ๔ เชนติเมตร สองด้านเหมือนกัน



    [​IMG]


    ขอขอบคุณเจ้าของภาพคำสอนครูบาวงศ์ด้วยครับ
     
  20. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    [​IMG]

    ยังติดตามอ่านเรื่องราวดี ๆ ครับพี่ปู
     

แชร์หน้านี้

Loading...