ประกาศชี้แจง เรื่องหลักธรรมะ

เอ่อ หนูสีอานจ๊ะ
เขาถามกันกระทู้ที่ #15ว่า

เป็นอย่างที่หนูว่านะ หนูสีอาน คือไม่มีใครเขาถามกันอย่างนั้น
คือเขาถามว่าเกิดขึ้นมาได้ยังไง
ไม่ได้ถามว่ามาจากไหน

ตก การอ่านเอาเรื่อง
มั่ว เรื่องการทำความเข้าใจ

 

หาตั้งนาน นึกว่าโดนไปที่หลุมดำ ^_^

 

กายทิพย์เป็นอย่างไรเจ้าก็ไม่รู้ แต่เจ้าเปล่งฉัพพรรณรังสีได้
สรีระร่างกายโปร่งแสงได้เพราะอะไรเจ้าก็ไม่รู้ แต่เจ้าบัญญัติหลักศาสนาขึ้นใหม่ได้(หลักของพระศรีอาริย์ตามที่เจ้าอ้าง)
ตบท้ายก็บิดเบือนเรื่องของนิพพานให้ศาสนามัวหมอง
ทำอะไรไปรู้ตัวไหม เด็กอมมือสีอานเอ๋ย

เขียนยาวแค่ไหนก็ไม่รู้เรื่อง
นิวเคลียสบ้าบออะไร
ถามไปตั้งนานแล้วว่า เทวดา กายละเอียดอย่างกายทิพย์นั่น มีนิวเคลียสเหรอ ก็ไม่ตอบ
ในเซลล์ผิวหนังก็มีนิวเคลียส เซลล์เส้นผมก็มีนิวเคลียส ถ้าอย่างนั้น ผิวหนังมีจิตและใจหรือเปล่า เพราะมีการรวมตัวกันของนิวเคลียสแต่เป็นระดับเซลล์

ตอบไม่ได้ เลยแถกแถไปอย่างนี้ นี้คือสีอานสไตล์

โอ้แม่จ้าวววว จิตและใจ เป็นอวัยวะในร่างกายเรา
อยู่ตรงไหนล่ะสีอาน ผ่าร่างกายออกดูจะเจอไหม เอกซ์เรย์ดูจะเจอไหม
มันอยู่ตรงไหน ตำแหน่งใดในร่างกาย หา สีอาน

วกวน มั่ว อธิบายเปะปะ

ความคิดถูกเก็บไว้ในรูปแบบของคลื่น ???
คลื่นนั้นมีความถี่เท่าไร แอมปลิจูดเป็นยังไง ???
เป็นคลื่นแสง คลื่นเสียง หรือคลื่นอะไร ???
หัวใจส่งคลื่นไปยังสมอง ??? แถมเกิดเสียงหรือสัญญาณขึ้นด้วย
โอ้แม่จ้าวววว การแพทย์ยุคพะสีอาน

 

ดีมากหนูสีอาน
ยอมรับมาอย่างนี้ดีแล้ว
วันหน้าวันหลัง อย่ามามั่วอีก

อ้อ อย่าลืมกินยาจิตเวช ก่อนมาอ่านหรือโพสต์ข้อความทุกครั้งนะหนูนะ


จ๊ากกกกก.....ตูนี้หรือ เฮอะๆๆ คือพะสีอาน........อะจ๊ากกกกกกกกกกกกก

 

ธรรมะอยู่ที่ตัวเราและรอบกายเรานี้เอง..ผู้ใดใช้สติปัญญารับรู้ได้ก็เข้าถึง..
ผู้ใดขาดสติปัญญาก็จะหลงทาง..ผู้ใดมีสติปัญญาดีก็ต้องช่วยนำทาง..

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nutman
ทางสายเอก ของพระพุทธศาสนา ก็คือ
มหาสติปัฎฐาน 4 ซึ่งแปลว่า เห็นตามจริง
หลักการปฎิบัติ ก็คือ ให้รู้ กาย เวทนา จิต ธรรม
ผลของการปฎิบัติ คือ มีสติ อุปมาว่า เป็นการฝึกสติ หรือ สะสมสติให้มีมาก

คำของท่านเทวดา ที่กล่าวว่า "จิตหรือใจอะไรนั่น เพราะจริงแล้ว ไม่รู้ก็ได้ จะรู้ก็ได้"
ผมขอแย้ง ประโยคนี้ ครับ

ตอบ........คุณจะแย้งอะไรหรือขอรับ แย้งเรื่อง การรู้เรื่อง จิต หรือใจ ที่ข้าพเจ้ากล่าวว่า จะรู้ก็ได้ ไม่รู้ก็ได้
ทีนี้คุณลองตอบคำถามของข้าพเจ้าบ้างซิว่า คุณจะรู้เรื่องจิตหรือใจ ไปเพื่ออะไร มันประโยชน์อย่างไร ลองตอบมาซิขอรับ ข้าพเจ้าก็อยากรู้เหมือนกันว่า ถ้ารู้เรื่องจิตหรือใจแล้ว มันจะทำให้เกิดปัญญาเห็นธรรมได้หรือ

ก็เพราะว่าผม อ่านกระทู้แรกแล้วไม่เข้าใจไงครับ
ก็เลย จะถามเป็น ข้อๆ ทีละเรื่อง

ข้อแรก ก็คือ ทุกข์ ในความหมายของ พระศรีอารย์ นั่นแหละ ที่ผมยังไ่ม่เข้าใจ

ตอบ,,,ก็ตอบให้แล้ว อะไรกันแล้วคุณจะเอาคำอธิบายขนาดไหนกันถึงจะเข้าใจ ทุกข์
ก็คือความยากลำบาก ทางกาย อันก่อให้เกิด อารมณ์ ความรู้สึก หรือสภาพสภาวะจิตใจในรูปแบบต่างๆ เช่น เจ็บ ปวด เศร้า โศก ดีใจ ร้องไห้ ฯลฯ เข้าใจไหม
คำว่าทุกข์ มนุษย์อยู่ที่ไหน ประเทศใด มันก็มีการเกิดทุกข์ที่เหมือนกันหมด ไม่มีข้อแตกต่าง แต่จะแตกต่างกันที่ตัวบุคคลว่า จะเกิดทุกข์แบบไหน เช่น ทุกข์อันเกิดจากปัจจัย 4 ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความคิด
ถูกกระทำให้เกิดความเจ็บปวด ก็เป็นทุกข์ และเป็นทุกข์ที่เกิดจากความคิดผสมกับการประพฤติ ฯลฯก็เท่านั้น
คำถาม ต่อไป
เราจะต้องปฎิบัติยังไง ให้บรรลุ ธรรม ครับ ^_^

คำตอบ,,,,,,,,,เอ้าเขียนอีกครั้งหนึ่งนะ

การที่คุณจะบรรลุธรรมได้ คุณก็ต้อง
1.รู้จักเอาใจจดจ่อในสิ่งนั้น หรือรู้จักเอาใจฝักใฝ่ในสิ่งนั้น หรือเอาใจไปผูกอยู่ในสิ่งนั้น
2.ความรู้
3.การแปลงความรู้ ให้เป็นการปฏิบัติ หรือการแปลงความรู้ให้เป็นพฤติกรรม

คงไม่เข้าใจอีก ถ้าไม่เข้าใจก็บอกจะได้อธิบายอีก ถ้าเข้าใจแล้วก็จบ

 

อะโห.....โจรที่จ้องกำลังจะปล้นทรัพย์ วัน ๆ เอาแต่มองหาเหยื่อ หาวิธีที่จะปล้น เช่น ปล้นร้านทอง ปล้นธนาคาร
อย่างนี้ โจรผู้ปล้น มีโอกาสบรรลุธรรม
หรือ คนที่มีควาอาฆาตมแค้น ต้องการจะฆ่าคนอื่นเพื่อล้างแค้น วันๆ เอาแต่คิดหาวิธีฆ่าให้สะใจ อย่างนี้ คนๆ นี้มีโอกาสบรรลุธรรม
หรือ คนที่มีความต้องการจะข่มขืนใคร วันๆ ก็ต้องการแต่จะจ้องหาโอกาสข่มขืนคนอื่น อย่างนี้ คนๆ นี้มีโอกาสบรรลุธรรม
ดังนั้น ไอ้ที่ว่าในสิ่งนั้น น่นน่ะมันคืออะไร
คือสิ่งดี หรือไม่ดี หนูสีอานไม่ได้ระบุ นะจ๊ะ

ความรู้ในเรื่องอะไรจ๊ะหนูสีอาน ไม่ระบุ
โจรที่มีความรู้ในการปล้น ยักยอกทรัพย์ นั่นก็มีโอกาสบรรลุธรรมหรือจ๊ะ
หนูสีอาน เขียนมั่วหรือเปล่าจ๊ะ

วาว.......โจรก็ทำได้นะจ๊ะหนูสีอาน
เขียนอะไรให้มันถูกต้อง ครอบคลุมสักนิดเถอะ หนูสีอานเอ๊ย





ข้อสังเกต สีอานไม่กล้าตอบแสดงความเห็นของก้านคอคลับ
เพราะจนด้วยหลักฐานและเหตุผลในทุกประการ
จบข่าว

 

จิต กับ ใจ ต้องรู้ครับ เพราะมันคนละตัว
ผมก็ได้ อธิบายไปแล้ว ว่า จิต คืออะไร และ ใจคือ อะไร

คนถ้าไม่ได้ฝึกสติจะแยกจิตกับใจไม่ออกครับ ถ้าคุณ เทวดา ยังยืนยันว่า จิตกับใจ คือสิ่งเีดียวกัน
ก็แปลว่า คุณ ยังไม่ผ่านการฝึกสติ มาก็เท่านั้นเอง

ส่วน การอธิบายของคุณนั้น ผมอาจจะโง่เองที่เข้าใจอะไรยาก เพราะคุณได้กล่าวคำว่าทุกข์ ของคุณนั่น 4 คู่ 8 ข้อ อะไรนั่น

ซึ่งตามหลัก อริยสัจ 4 ของพระพุทธองค์
การที่คุณ ได้เขียนกระทู้ตั้งแต่ต้นมา คำกล่าวของคุณ มีไม่ครบ องค์ ทั้ง 4
นั่นแปลว่า คำสอนของคุณ ไม่สามารถที่จะ พ้นทุกข์ ได้ ผมขอฟันธง

ระดับจิตของคุณ อาจจะอยู่แค่ ปฐมฌาณ เท่านั้นเอง ซึ่งจังหวะนี้คนที่ สติน้อย มักจะ
ตู่ว่าคนเป็น ผู้มีปัญญามาก ซึ่งอันตรายมาก

ถ้าคุณจับคำถามของผม หรือ อ่านแล้ววิเคราะห์อย่างละเอียด คุณจะสามารถเข้าใจตนเองได้มากขึ้น

ยกตัวอย่าง

การที่คุณจะบรรลุธรรมได้ คุณก็ต้อง
1.รู้จักเอาใจจดจ่อในสิ่งนั้น หรือรู้จักเอาใจฝักใฝ่ในสิ่งนั้น หรือเอาใจไปผูกอยู่ในสิ่งนั้น
มันก็จะมีคำถามต่อว่า สิ่งนั้น มีอะไรบ้าง
2.ความรู้
ความรู้ ?????
3.การแปลงความรู้ ให้เป็นการปฏิบัติ หรือการแปลงความรู้ให้เป็นพฤติกรรม
การพัฒนา ความรู้ เมื่อยังไม่รู้ว่ารู้อะไร จะพัฒนาอย่างไร

เพียงแค่นี้ ก็เทียบกับ อริยสัจ 4 ของพระพุทธองค์ ไม่ได้แล้ว
คำตอบของพระพุทธเจ้า ส่วนใหญ่ จะต้องเครียไม่มี ข้อติได้ ทุกคนยอมรับ
ดู อริยสัจ 4
1. ทุกข์ = สิ่งที่แปรปวน ไม่แน่นอน
2. สมุทัย = เหตุให้เกิดทุกข์
3. นิโรธ = การดับทุกข์
4. มรรค = วิธีการดับทุกข์ ซึ่งก็คือ มรรค 8

ถ้าศึกษา จาก อริยสัจ 4 ทุกอย่างครบองค์ แก้ไขอะไรไม่ได้ เป็น สัจธรรม

 

โอว คุณ ก้านคอคลับ ตอบพร้อมกันเลย

(ไม่ได้ลอกกันนะครับ ^_^)

 

เห็นด้วยกับ nutman ที่สุด
หนูพะสีอาน มั่วซั่ว ที่สุด

 

คำของท่านเทวดา ที่กล่าวว่า "จิตหรือใจอะไรนั่น เพราะจริงแล้ว ไม่รู้ก็ได้ จะรู้ก็ได้"
ผมขอแย้ง ประโยคนี้ ครับ

ตอบ........คุณจะแย้งอะไรหรือขอรับ แย้งเรื่อง การรู้เรื่อง จิต หรือใจ ที่ข้าพเจ้ากล่าวว่า จะรู้ก็ได้ ไม่รู้ก็ได้
ทีนี้คุณลองตอบคำถามของข้าพเจ้าบ้างซิว่า คุณจะรู้เรื่องจิตหรือใจ ไปเพื่ออะไร มันประโยชน์อย่างไร ลองตอบมาซิขอรับ ข้าพเจ้าก็อยากรู้เหมือนกันว่า ถ้ารู้เรื่องจิตหรือใจแล้ว มันจะทำให้เกิดปัญญาเห็นธรรมได้หรือ

ผมขอตอบว่าใช่ครับ ถ้าเรารู้จักจิต หรือรู้จักใจ ยอมรู้เหตุของการเกิดทุกข์ เพราะอะไร เพราะถ้าเราเอาจิตส่งไปนอกกายก็เป็นทุกข์ เช่น ถ้าเรามีรถอยู่หนึ่งคัน แล้ววันหนึ่งรถหาย เราก็เกิดทุกข์เพราะรถหาย แต่ความจริงทุกข์เพราะเราเอาจิตไปผูกติดกับรถ ก็เลยทุกข์ ดังนั้นทุกข์เกิดที่ตรงไหน เกิดที่กาย ที่จิต หรือ ที่ใจ ก็ต้องรู้ด้วยตัวเอง ต้องใช้สติ ปัญญา ใตร่ตรอง ครับ

การที่คุณจะบรรลุธรรมได้ คุณก็ต้อง
1.รู้จักเอาใจจดจ่อในสิ่งนั้น หรือรู้จักเอาใจฝักใฝ่ในสิ่งนั้น หรือเอาใจไปผูกอยู่ในสิ่งนั้น
2.ความรู้
3.การแปลงความรู้ ให้เป็นการปฏิบัติ หรือการแปลงความรู้ให้เป็นพฤติกรรม
เท่าที่ผมรู้ว่าการบรรลุธรรมนั้นไม่มีกฏที่ตายตัวครับ มันเป็นสิ่งที่เราต้องรู้ได้ด้วยตัวเองมากกว่า ว่าเราติดตรง ราคะ โมหะ โทสะ หรือ อะไรอื่นๆ เราต้องรู้ได้ด้วยตัวเอง จะรู้ได้ด้วยการสังเกตุตัวเอง มีสติกับปัจจุบันตลอด และใช้ปัญญาพิจารณา เองครับ

 

อันคนโง่นั้น ย่อมอวดฉลาดเกือบจะทุกคน หลักธรรมศรีอาริย์ ไม่ได้มีไว้เพื่อแข่งกับศาสนาใดว่า ของใครดีกว่าใคร มันขึ้นอยู่กับสมองสติปัญญาของคน

หลักธรรมศรีอาริย์ นั้นในหมวดนี้ แบ่งเป็น 2 บท คือ
บทธรรม อย่างหนึ่ง
และบทปฏิบัติ อีกอย่างหนึ่ง

เรื่องจิตและใจนั้น ที่ข้าพเจ้ากล่าวว่าจะรู้ก็ได้ไม่รู้ก็ได้ ในที่นี้ หมายถึงสิ่งทีคุณถามมาในตอนแรก ว่า"จิตกับใจต่างกันอย่างไร" อย่าหลงประเด็นและหลงผิดคล้อยตามไอ้พวกประเภทสมองหมาปัญญาควาย ชอบอวดฉลาดแท้จริงแล้วโง่สุดสุด
เพราะข้าพเจ้าไม่ได้หมายความว่า ไม่ให้คุณไม่สนใจเรื่องจิตเรื่องใจ หรือห้ามไม่ให้คุณรู้เรื่องจิตใจของคุณ แต่เรื่องที่คุณถามมานั้น จะรู้ก็ได้ไม่รู้ก็ได้
ที่นี้มากล่าวถึงหลักธรรมศรีอาริย์อีกครั้งหนึ่งว่า

หลักธรรมศรีอาริย์ บทแรก คือ บทธรรมะ หรือบทแห่งความรู้ข้อหลัก ได้แก่
เครื่องดิ้นรนแห่งสรรพสิ่งอันมีองค์ 8 ล้วนเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิด สภาพสภาวะจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึก ในทางที่เรียกว่า ความทุกข์ หรือความสุข และสภาพสภาวะจิตใจในรูปแบบต่างๆ อันจักสามารถขจัดคลื่นแห่งสภาพสภาวะจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึก ที่เรียกว่า ความทุกข์ หรือความสุขได้
ซึ่ง เครื่องดิ้นรนแห่งสรรพสิ่งประกอบไปด้วย
1. ทาน 2. การครองเรือน
3. กตัญญู 4. เจรจา
5. สรรพอาชีพ 6. ประพฤติ
7. ระลึก 8. ดำริ
ทั้ง 4 คู่ 8 ข้อ คือ หลักธรรม หรือหลักความรู้ เรียกว่า หลักธรรมศรีอาริย์
เมื่อคุณอ่านแล้วไม่เข้าใจก็กลับไปอ่านอีก และคิดพิจารณาให้ดี
และหลักธรรมศรีอาริย์นี้ ตอนแรก ข้าพเจ้าเคยอนุญาตให้นำไปบันทึกไว้เป็นหลักการทางศาสนาพุทธ แต่เนื่องจาก อำนาจเงินหรืออำนาจใดใด มีค่ามากกว่า "ข้าพเจ้าจึงยกเลิกคำอนุญาต ไม่อนุญาตให้นำไปบันทึกไว้ เว้นแต่จะติดต่อกับข้าพเจ้า และต้องตอบแทนค่าทำวิจัยให้กับข้าพเจ้า (นี้เขียนตรงๆนะขอรับ)
หลักธรรม ในหมวดนี้ บทที่ 2
คือหลักปฏิบัติ อันนับเข้าใน ข้อ ประพฤติ ได้แก่
1. การเอาใจจดจ่อในสิ่งนั้น หรือการเอาใจฝักใฝ่ในสิ่งนั้น หรือการเอาใจไปผูกอยู่ในสิ่งนั้น เพื่อให้เกิดความรู้สึกตัว และระลึกได้ (สมาธิ)
2. ความรู้ หมายถึง ความรู้ในทางหลักธรรมศรีอาริย์ และความรู้อื่นๆอันเกี่ยวข้องกับหลักธรรมศรีอาริย์
3. การแปลงความรู้ให้เป็นการปฏิบัติ หมายถึง การแปลงความรู้อันประกอบด้วย ความรู้สึกตัว และระลึกได้ (สมาธิ) ให้เป็นพฤติกรรม หรือสามารถขจัด คลื่นแห่งสภาพแห่งสภาวะจิตใจ ในรูปแบบต่างๆ หรือคลื่นแห่งอารมณ์ ความรู้สึก ให้ออกจากสรีระร่างกายได้

อ่านแล้วคิดพิจารณาให้ดี และที่สำคัญคุณไม่ต้องเอาหลักการของข้าพเจ้าไปเทียบกับศาสนาอื่นๆ เพราะหลักธรรมศรีอาริย์นี้ เป็นหลักธรรมชาติแห่งจักรวาล หมายความว่า ทั่วทั้งจักรวาล ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน มีสภาพสรีระร่างกายเป็นอย่างไร ต้องมีต้องเป็นอย่างนั้น ไม่มีสิ่งใดหลีกพ้น

 

ขอบคุณครับ ที่กรุณา กับคนโง่อย่างผม

เนื่องจากผมได้ พิจารณาแล้วว่า สัจธรรมที่ผมรู้นั่น ก็ยังเป็น สัจธรรมอยู่ ยังหาอะไรที่มาแทนหรือ
มาเสริมมิได้

^_^

 

อนาถ อนาถ

 

ข้าพเจ้าก็ไม่ได้บังคับใครหรือบังคับคุณให้มาเชื่อในหลักธรรมของข้าพเจ้า
หลักธรรมนี้ เป็นหลักธรรมที่ได้จากการค้นคว้า ศึกษา และวิจัย คำว่า วิจัยหมายรวมถึง การได้ปฏิบัติ จนได้ผล สำเร็จตามวัตถุประสงค์
คุณจะยึดถือศาสนาใด ก็เรื่องของคุณ
เพราะหลักธรรมศรีอาริย์ ยังไม่ได้เป็นหลักธรรมทางศาสนา เพราะข้าพเจ้ายังไม่ได้ตั้งเป็นศาสนาศรีอาริย์
ดังนั้น หลักธรรมศรีอาริย์ ในขณะนี้ ก็เป็นเพียง ความคิดเห็นอย่างหนึ่ง ก็เท่านั้น

 

ดี ดี เขียนได้ดี ยอมรับได้ดี
ดีมากหนู ยอมรับอย่างนี้ ดี

 

มา มาดูกัน จากความคิดเห็นของไอ้หนูสีอาน จากกระทู้นี้ที่ว่า
"ภาวะโลกร้อนจริงหรือ หรือว่าเกิดจากอะไร"
http://palungjit.org/newreply.php?do=newreply&p=792963

ถ้าต้องการอย่างนั้น
รบกวนหนูสีอานทบทวนความคิดเห็นของตัวเองหน่อย
ที่กระทู้ "ประกาศชี้แจงเรื่องหลักธรรมะ"
http://palungjit.org/showthread.php?t=97670

พิจารณาดูสักนิดนะหนูสีอาน ว่าที่กล่าวมาว่า
พระศิวะ พระพิฆเณศน์ พระนารายณ์ พระองค์อุมาเทวี พระศรีอาริยเมตไตย นั้น หนูสีอานว่า
ทั้ง 5 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้า ในทางศาสนาพุทธ
แต่ ทั้ง 5 พระองค์ ก้คือ พระเจ้า หรือเทพเจ้า ในทางศาสนาอื่นๆ
นั้น มันมั่วเพียงใด

เอาง่ายๆ ตรงนี้
พระศิวะ คือ พระพุทธเจ้า ?
พระพิฆเนศวร์ คือ พระพุทธเจ้า ??
พระนารายณ์ คือ พระพุทธเจ้า ???
พระองค์อุมาเทวี คือ พระพุทธเจ้า ????
พระศรีอาริยเมตไตร คือ พระพุทธเจ้า ????? (ยังไม่ได้ตรัสรู้ เป็นพระโพธิสัตว์)
มีที่กล่าวอย่างนี้ที่ไหนในพระไตรปิฎก ????
มีที่กล่าวอย่างนี้ที่ไหนในพุทธศาสนา ????
อย่าว่าแต่ของหินยานเลย ของมหายานก็ยังไม่มี ที่ว่า พระศิวะคือพระพุทธเจ้า ฯลฯ
มั่วไหม ยำพุทธศาสนาจนเละไหม

โอ้ มายสีอานก๊อด มันยอดมั่วเลย ยอดเละเลย


ดังนั้น คำกล่าวของหนูสีอานที่ว่า

ก็คงจะเป็นจริงอย่างที่หนูสีอานว่าจริงๆ นั่นแหล่ะ
เพราะบอกอะไรไป หนูสีอานก็ชี้แจงไม่ได้ ตอบกลับไม่ได้
เป็นเพราะหนูสีอานไม่เข้าใจภาษาไทย ไม่เข้าใจภาษาคน นั่นเอง
ใครเป็นสุนัข ใครมีสันดานสุนัข(ขอภัยที่ต้องอ้างอิงคำกล่าวของหนูสีอาน) ใครเป็นโรคจิต ใครโง่แล้วอวดฉลาดเพื่อกลบเกลื่อน
มาถึงตอนนี้ ก็คงเข้าใจได้ไม่ยากแล้ว ว่าเป็นใคร

แงๆๆๆ.....หนูบอกแล้วว่าหนูคือพะสีอ๊านพะสีอาน ทะมายม่ายมีใครเชื่อหนูเยย..........แงๆๆๆๆ ว๊ากๆๆๆๆๆๆ

 

ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ไอ้หนู(สัตว์) ก้านคอคลับ

เอ็งนั่นไม่รู้จักที่ควรหรือไม่ควรจริงๆ เอ็งไม่รู้ความหมายของภาษา เอ็งยังเขียนมั่วอีก
เอ็งแหกตาดูซิว่า ข้าพเจ้าเขียนเกี่ยวกับหลักการของข้าพเจ้าไว้อย่างไร
เอ็งเอาหลักธรรมศรีอาริย์ไปมั่วกับศาสนาพุทธเอง แล้วเอ็งยังมีหน้ามาว่าข้าพเจ้ามั่ว
สมควรแล้วที่ข้าพเจ้าบอกว่า อย่าง ไอ้หนู(สัตว์) ก้านคอคลับ นั้น มันก็แค่ไอ้สุนัขขี้เรื้อน ที่อยากให้คนคนสนใจคนหนึ่งก็เท่านั้น
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

อะโห......
เอาหลักธรรมศรีอาริย์ไปมั่วกับพุทธศาสนาเอง อย่างนั้นหรือ
งั้นที่หนูกล่าวว่า

โอ.....ตอนแรกหนูสีอานบอกว่า พระศรีอาริย์เป็นพระพุทธเจ้าในทางศาสนาพุทธ
แต่หนูสีอานกลับบอกในตอนนี้ว่า การเอาหลักธรรมพระศรีอาริย์ไปยุ่งเกี่วกับศาสนาพุทธนั้นเป็นการ มั่ว
หนูสีอาน
หนูสับสนอะไรไปหรือเปล่าจ๊ะ

อะโห....หนูช่างด่าได้สะใจ เหมือนเห็นตัวหนูเองอยู่ตรงหน้าเลยนะหนูสีอาน



แงๆๆๆๆ...หนูบอกแย้ว ว่าหนูคือพะสีอาน ก็ม่ายมีครายเชื่อ.....ฮือๆๆๆๆ ว๊ากๆๆๆๆ

 

อ้าว แล้วเอ็งว่าพระพุทธเจ้าที่เอ็งกล่าวถึงเป็นใครกันละ ไอ้ควาย ทำไมเอ็งไม่ตอบด้วยละว่า พระพุทธเจ้าที่เอ็งกล่าวถึง เป็นใคร

เอ็งมันก็โง่แล้วอวดฉลาดเหมือนเดิมนั่นแหละ
แต่เอ็งก็ดีนะ ทำให้กระทู้ของข้าพเจ้าขึ้นมาไม่ตกไป ดีมากเลยนะไอ่สัตว์ เอ๋ย ไอ้หนู (มันก็สัตว์อยู่ดีละนะ)