พระพุทธศาสนาสอนเรื่องจิตกับอารมณ์เท่านั้น

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 7 มีนาคม 2011.

  1. ต้นปลาย

    ต้นปลาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    629
    ค่าพลัง:
    +69
    พระพุทธศาสนาสอนเรื่องจิตกับอารมณ์เท่านั้น

    เรื่องศีล ก็สอนนะท่าน
     
  2. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ขอแทรก (รายละเอียดต้องถาม จขกท.)

    ทุกอย่างลงที่จิต ออกจากจิต

    ต้นไม้มีกิ่งก้านสาขาผลิดอกออกผล ก็เพราะราก

    ถ้าเห็นว่าศีลคือการจำกัดด้วยกาย และวาจา นั่นแสดงว่ายังอยู่ฮ่องกง ยังมาไม่ถึงฝั่งไทย

    อาวุโสโอเค
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2012
  3. ต้นปลาย

    ต้นปลาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    629
    ค่าพลัง:
    +69
    ตรงนั้นเป็นส่วนยอด

    ท่านสอน ศีล สมาธิ ปัญญา

    อวิชาสุกเผา
     
  4. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ตรงนี้น่าจะมาจาก คิริมานนทสูตร

    ที่แปลจากภาษาเหนือ มาเป็นภาษากลาง

    สรุปแล้ว พี่ต้นไม้ แกเอาอ้างอิง เพื่อให้เข้ากับทฤษฎีของแก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2012
  5. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ถ้างั้นก็ต้องรักษากุศลกรรมบถ10 ไปเลย :cool:
     
  6. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ถามแล้วช่วยตอบแบบ ใช่หรือไม่ใช่ ให้ชัดเจนว่า ใช่เพราะอะไร? ไม่ใช่เพราะอะไร?
    พระนิพพานเมื่อไม่มีเหตุที่ทำให้ปรากฏขึ้นมา จะปรากฏขึ้นมาเองได้หรือไม่?
    พระนิพพานปรากฏขึ้นมาเพราะอวิชชาดับไปใช่หรือไม่?
    พระนิพพานเป็นสภาวะคือความสิ้นไปแห่งราคะ โทสะ โมหะใช่หรือไม่?
    พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เองบรรลุพระนิพพานใช่หรือไม่?
    พระพุทธองค์ขณะที่ยังทรงดำรงชีพอยู่ด้วยเหตุแห่งรูป-นามใช่หรือไม่?





    จิตมีธรรมชาติออกรู้รับอารมณ์ เพราะอวิชชาครอบงำจิตอยู่ใช่หรือไม่?
    เมื่อจิตรู้รับอารมณ์ได้ ก็สามารถฝึกฝนจิตให้รู้ แตไม่รับอารมณ์เข้ามาใช่หรือไม่?
    การที่จิตรู้ว่าโกรธ แต่ไม่รับอารมณ์ที่ทำให้โกรธเข้าเป็นของจิต ย่อมได้ใช่หรือไม่?
    มีพระพุทธพจน์รับรองไว้ว่า "จิตของเราสิ้นการปรุงแต่ง=วิสังขาระคะตัง จิตตัง"



    อย่ารีบเหมาเอาเองสิว่า ผู้รู้กับสิ่งที่ถูกรู้ เป็นรูป-นาม
    ผู้รู้คือจิต สิ้งที่ถูกรู้คือรูป-นามหรืออารมณ์นั่นเอง
    ร่างกายที่ตายไป ไม่มีจิตครองจะมีจะมีนามขันธ์๔ได้หรือ
    เอารูป-นามขันธ์๕ที่ไหนมาเป็นพระนิพพาน พระนิพพานไม่ใช่อะไรทั้งนั้น
    พระนิพพานคือความบริสุทธิ์ ปราศจากกิเลสคือราคะ โทสะ โมหะ ใช่หรือไม่?



    จิตไม่ใช่นิพพาน นิพพานก็ไม่ใช่จิต อย่าคิดเองสิ ทำพระพุทธพจน์เสียหายหมด
    ถ้าไม่มีผู้ที่พ้นแล้วจากกิเลสมาบอกว่า เราพ้นแล้ว จะรู้มั้ยว่า พระนิพพานมีอยู่จริงใช่หรือไม่?

    นิพานมีสิ ไม่ใช่เรื่องสูญเปล่า มันคนละเรื่อง

    สรุปสั่นว่า ผู้พ้น ในความหมายธรรมภูติ จิตของผู้พ้นเข้าไปเสวยนิพพาน ถูกไหม

    แต่คำว่า ผู้พ้น ในความหมายนายหลง คือพ้นจากความยึดมั่นแห่งจิต เมื่อนั้นจึงเรียกว่าดับความเป็นผู้พ้น


    เมื่อผู้พ้นก็ไม่มีอยู่จริง ผู้จมปรักในกองทุกข์ก็ย่อมไม่มีเช่นกันใช่หรือไม่?
    พระพุทธพจน์ชัดๆว่า"วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ ตณฺหานํ ขยมฌฺชคาแปลว่า
    จิตของเราสิ้นการปรุงแต่ง บรรลุพระนิพพานเพราะตัณหาแล้ว"
    พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ไม่ให้จิตปรุงแต่งสิ่งใดๆทั้งสิ้น(วิสังขาร)
    คืออย่าให้จิตไปเที่ยวออกไปยึดถืออะไรๆมาเป็นของๆเรา เพราะสิ้นตัณหา(ทะยานอยาก)แล้วใช่หรือไม่?



    อ่านคำถามแล้ว เป็นคำถามซ้ำๆ ที่เคยถามตอบ

    ถ้าจะให้ตอบตามแบบแผน แนะนำไปศึกษาอภิธรรมครับ

    กลัวอะไรนักหนากับคำว่า"เรา" มีไว้ใช้สื่อสารให้เข้าใจกัน ว่าผู้พูดคือใคร คำว่า"เรา"ไม่ใช่มีไว้ให้ยึด

    ประโยคนี้น่าสนใจ เข้าใจว่าผมเคยอธิบายไปแล้ว ไม่ได้หมายถึง ว่าขณะนั้นจิตเที่ยง







    ใครชัดๆสิว่า อะไร/ใคร เป็นสิ่งที่มาดับผ้พ้นอีดทีหนึ่ง? อย่าเบียงประเด็นไปไกลๆอีกล่ะ
    ที่บอกว่าดับด้วยปัญญาหนะ ปัญญามาจากไหน เกิดขึ้นเองลอยๆหรือ?
    สติ สมาธิ ปัญญาล้วนเกิดขึ้นที่ไหน? เอาแบบชัดๆเช่นเคย
    พระพุทธองค์ดับกิเลสหมดสิ้นด้วยปํญญาญาณของพระพุทธองค์ใช่หรือไม่?
    แล้วปัญญาญาณของพระพุทธองค์ทรงตั้งอยู่ที่ไหน? เอาแบบชัดๆเช่นเคย

    ตอบว่าสั้นๆว่า ปัญญา หายย่อยลงไป โพงชงค์ ๗ สาวลงไป สติปัฏฐาน

    สาวลงไป อินทรีย์สังวร สาวลงไปจนพบ

    พบสัตบุรุษ เป็นผู้ได้ยินธรรมที่ดี มีศรัทรา นำไปสู่สัมมาทิฏฐิ

    สัมมาทิฏฐินำไปสู่ ความเห็นถูก ความเข้าใจถูก ระลึกถูก สมาธิถูก ฯลฯ สู่สัมมาวิมมุตติ

    ปัญญาไม่เกิดขึ้นลอยๆ ทั้งหมดนี้เกิดจากเหตุปัจจัย สิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี

    ไม่เพียรมีสติ ปัญญาเกิดไม่ได้

    เอานะ ทุกคำถามที่ตอบไป มันมาสนับสนุน คำตอบนายหลง เรื่อง ความไม่ยึดมั่น ไม่จิตไม่ใช่นิพพาน





    ทุกนิกายในพุทธศาสนา ดีหมด

    ก็ต้องว่ากันตามนิกาย ว่าความเห็นนี้เป็นของนิกายนี้

    ถ้าเอามาโต้เถียงกันมันไม่จบสิ้น

    ก็ฝากคุณธรรมภูติ ศึกษาเรื่อง จิตอมตวาทบ้าง ว่าตนกำลังอยู่ในทัศนะนี้อยู่รึเปล่า ^^

    เจริญ เจริญในธรรม
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  7. ต้นปลาย

    ต้นปลาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    629
    ค่าพลัง:
    +69
    ถ้างั้นก็ต้องรักษากุศลกรรมบถ10 ไป
     
  8. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    นึกขึ้นได้ คำนึง สั่นๆ ไม่ขยายต่อนะ :cool:

    " กิริยาจิต "

    และเรื่องทุกอย่างเกิดจากจิต นั้น

    เขาแก้ว่า สิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ เกิดจากเหตุปัจจัยเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 มกราคม 2012
  9. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ขยาย ใน กุศลกรรมบถ10

    ต้องรู้จักกุศล อกุศล เมื่อรู้ว่าขณะนี้เป็นกุศล หรือ อกุศล ย่อมเป็นผู้มีปกติเจริญสติ

    เมื่อมีสติระลึกรู้ กุศลเนืองๆ ได้ชื่อว่าเป็นผู้เจริญกุศล ละอกุศลเนืองๆ

    จึงเป็นผู้มีปกติศีล เป็นผู้มีสุจริต ๓ ในกุศลกรรมบถ ๑๐

    เป็นผู้เจริญ สัมมาวาจา สัมมาอาชีวะ สัมมากัมมันตะ

    และเป็นผู้ หยั่งมรรคที่ยังไม่เกิดให้เกิด
     
  10. มังคละมุนี

    มังคละมุนี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +608
    ขอถามท่ามธรรมภูต อีกครั้ง

    <table id="post5588166" class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%" align="center"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175">ธรรมภูต
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2008
    ข้อความ: 2,941
    พลังการให้คะแนน: 409 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_5588166" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มังคละมุนี [​IMG]
    ถามคุณธรรมภูต ผู้บรรลุอมตะธรรมแล้ว หลังจากเสียชีวิตแล้ว
    จิตของเขา จะดำรงอยู่ต่อไปอีกหรือไม่ หรือดับลง หรือเป็นอย่างอื่นๆ หรืออย่างไร

    ขอขอบคุณล่วงหน้าในคำตอบ
    กระผมจะได้รับรู้ความคิดเห็นของท่านต่อไป และจะได้เทียบเคียงกับความรู้ที่กระผมเรียนมา
    ขอบคุณอีกครั้งครับ
    </td> </tr> </tbody></table>
    เดี๋ยวๆๆๆ อย่าเพิ่งข้ามขั้นตอนไปไกลกว่านี้
    เอาแค่เข้าใจเรื่องจิตให้ถูกต้องตามพระพุทธพจน์ก็ยากอยู่แล้ว

    มีพระพุทธพจน์รับรองชัดเจนว่า
    "จิตไม่ดับตายหายสูญไปไหน ต้องวนเวียนเข้าไปในภพน้อยใหญ่(วัฏฏะ)
    อันยาวนานนับไม่ถ้วนนั้น เพราะไม่รู้จักอริยสัจ๔ตามความเป็จริง"

    การเวียนว่ายเข้าไปในภพภูมิต่างๆนั้น คงไม่ใช่เอาร่างกายที่เป็นสิ่งปฏฺกลู ตายเน่าเข้าโลงได้
    ไปเวียนว่ายเข้าไปในภพน้อยใหญ่แน่นอน จึงมีแต่จิตของตนเท่านั้นที่เป็นผู้เข้าไปรับวิบากกรรมที่ทำนั้น

    เมื่อจิตเกิดดับ เสียแล้ว เรื่องของกรรมที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้ก็เสียหายหมดใช่หรือไม่?
    มีพระพุทธพจน์ชัดเจนว่า "ใคร(จิต)ทำกรรมใดไว้ ต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้น เหมือนรอยที่เกิดขึ้นเกวียน ที่ตามรอยเท้าโคนั้นไป"
    มีที่ไหนสอนกันว่า จิตดวงที่ทำกรรมดับไป ดวงที่เกิดใหม่มารับแทน แบบนี้ยุติธรรมหรือ?

    ลงมือปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนาไปด้วยจะดียิ่งขึ้น ทำให้กระจ่างได้มากขึ้น
    เจริญในธรรมทุกๆท่าน



    __________________
    ดูจิตแบบธรรมภูต
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px"> [​IMG] [​IMG] [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px; border-top: 0px" align="right"> [​IMG] [​IMG] [​IMG]</td></tr></tbody></table>
    มีพระพุทธพจน์รับรองชัดเจนว่า
    "จิตไม่ดับตายหายสูญไปไหน ต้องวนเวียนเข้าไปในภพน้อยใหญ่(วัฏฏะ)
    อันยาวนานนับไม่ถ้วนนั้น เพราะไม่รู้จักอริยสัจ๔ตามความเป็จริง"

    ขอรบกวนถามท่านธรรมภูตอีกครั้งว่า
    จิตของผู้ที่รู้อริยสัจ๔ตามที่เป็นจริง
    เมื่อท่านผู้นี้ เสียชีวิตแล้ว จิตของเขาผู้นี้จะเป็นเช่นไร
    เพราะพวกเราทุกคนย่อมตาย เราจึงควรรู้ว่าผลของการปฏิบัติจะช่วยเราได้อย่างไร?
    ขอขอบคุณยิ่งในความกรุณา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2012
  11. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ู^
    ^
    คุณลองเอาพระพุทธพจน์ที่เป็นหัวใจพระพุทธศาสนามาวางเทียบเคียงก็จะเห็นชัด

    ๑.ละชั่ว คือละอารมณ์ความรู้นึกคิดในทางอกุศลออกไปจากจิต

    ๒.ทำดี คือ สร้างอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดในทางกุศลให้เกิดขึ้นที่จิต

    ๒ข้อแรก นี้เป็นการควบคุมกาย วาจา ให้เข้าที่เข้าทางเป็นคนดีของสังคม คือศีล

    ๓.ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์หมดจดจากเครื่องเศร้าหมองจิตทั้งหลาย

    ข้อสุดท้าย ควบคุมจิตใจให้มีสติสงบเป็นสมาธิ ย่อมก่อให้เกิดปัญญาได้.

    ไม่ว่าเรื่องไหนที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสั่งสอนนั้น ล้วนเกี่ยวข้องเรื่องจิตกับอารมณ์ทั้งสิ้น...

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  12. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ^
    ^
    ใช่ครับ เพราะจิตมีอวิชชาครอบงำอยู่ จึงเกิดความโลภ โกรธ หลง

    จิตจึงชอบที่จะส่งออกไปแสวงหาอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดต่างๆ

    มาเพื่อสนองตอบต่อความทะยายอยากของตน

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  13. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ^
    ^
    หลงเอ๋ยหัดตอบชัดๆสิ กล้าๆหน่อย

    ทำจนเป็นนิสัยถาวร เลี่ยงที่จอบไปเสียแล้ว

    พระพุทธพจน์ที่ยกมาให้หลงอ่านนั้นชัดๆทุกพระสูตร

    ใครหรืออะไร ที่พ้นจากความยึดมั่นแห่งจิต?

    ใครหรืออะไร ดับความเป็นผู้พ้น?

    คำว่าดับเฉยๆไม่มีในโลก ต้องรู้สิว่าอะไรดับ จึงบอกว่าดับได้ใช่หรือไม่?

    อย่าบอกว่าไม่มีจริงอีกนะ

    พระพุทธศาสนาจะกลายเป็นเรื่องชวนหัวโกหกพกลมไป..

    มีพระพุทธพจน์ที่รจนาโดยอรรถกถาจารย์(อาจาริยวาท) ชัดๆว่า

    "ดูกรสารีบุตร ภิกษุเป็นผู้มีจิตหลุดพ้นแล้วอย่างนี้แล
    ดูกรสารีบุตรเรากล่าวว่า เป็นมหาบุรุษ เพราะเป็นผู้มีจิตหลุดพ้นแล้ว
    เราไม่กล่าวว่า เป็นมหาบุรุษ เพราะเป็นผู้น้อมจิตเชื่อ
    เพราะฉะนั้น จึงตรัสว่า "เราย่อมเรียกภิกษุนั้นว่า มหาบุรุษ".

    หลงเอ๋ย หลงกำลังมีจิตคน้อมเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น

    ลงมือปฏิบัติเพื่อพิสูจน์บางสิ อย่าเอาจแต่ำมากๆไม่ได้ช่วยอะไรเลย...

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  14. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ^
    ^
    หลงอย่าทำนิสัยถาวรแบบนี้สิ จะทำให้ผู้ศึกษาใหม่สับสน

    ถ้าตอบแล้วต้องมีหลักฐานสิว่า ใช่เพราะอะไร? ไม่ใช่เพราะอะไร?

    นี่เล่นตอบแบบลากไปไหนก็ไม่รู้สามว่าสองศอก

    มีตัวอย่างให้เห็นชัดๆเลยนะ


    หลงเอ๋ย หลงรู้จักตำราอภิธรรมมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
    ถึงได้แนะนำว่าให้ไปศึกษา เพราะศึกษามาจึงเลือกที่จะเชื่อรู้มั้ย?
    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2012
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ^
    ^
    หลงเอ๋ย หลงก็ดูสิว่าหลงตอบตรงคำถามหรือเปล่า?

    คำตอบหลงฯ มีแต่อะไรก็ไม่รู้ลอยไปลอยมาเต็มไปหมด

    ชอบอ้างจัง"ทั้งหมดนี้เกิดจากเหตุปัจจัย สิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี"

    แล้วเหตุปัจจัยที่ว่าหนะ สิ่งนี่มี สิ่งนี้จึงมี ตั้งอยู่ที่ไหน?

    หลงเอ๋ย ไม่แปลกใจจริงว่าทำไม่จึงได้หลงแล้วหลงเลยกู่ไม่กลับ

    เพราะอะไรๆก็ไม่มี อะไรๆก็ไม่ใช่ ที่ใช่ก็ไม่มี ที่มีก็ไม่ใช่

    แม้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หลงฯเองยังเชื่อว่าไม่มีอยู่จริงใช่หรือไม่?

    แล้วพระนิพพานที่มีอยู่จริงหละมาจากไหน?

    อย่างบอกหละว่าเพราะมีเหตุปัจจัยทำให้พระนิพพานปรากฏ

    แล้วเหตุปัจจัยที่ว่ามีขึ้นมาได้ยังไง? ในเมื่ออะไรๆก็ไม่มี อะไรๆก็ไม่ใช่?

    มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จึงมีพระนิพพานใช่หรือไม่? (สิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี)

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  16. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ^
    ^
    หลงฯเอ๋ยก็ชอบแบบนี้อะนะ

    คือตอบแบบไม่ตอบเพราะกลัวเสียหน้า

    ทั้งๆที่การเสียหน้าเป็นเพียงอาการของจิตที่เนื่องด้วยอารมณ์ ไม่มีอยู่จริงอันนี้แน่นอน

    ไปตอบเรื่อง"สิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี" ให้เคลียร์ก่อนเถอะ

    ค่อยมาว่าเรื่อง "สิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ" อย่าคิดเองเออเองสิ

    เพราะมีพระพุทธพจน์รับรองไว้ชัดเจนว่าคืออะไร?

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน

     
  17. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ู^
    ^
    เมื่อมากล่าวถึงจิตของผู้รู้เห็นอริยสัจ๔ตามความเป็นจริง

    ในที่นี่ก็ต้องเป็นของพระพุทธองค์และอริยสงฆ์เจ้าทั้งหลาย

    เมื่อเสียชีวิตแล้วเป็นเช่นไร? คำตอบที่มีพระพุทธพจน์รับรองไว้

    ว่า กลายเป็นอมตะธรรม อมตะธาตุ ธรรมธาตุ เป็นผู้คงที่ไม่เปลี่ยนแปลง หมดกิจแล้ว

    ส่วนผลของผู็ปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนา เดินตามรอยของพระบรมครูแล้วนั้น

    ย่อมเป็นผู้ที่มีปัญญา จิตรู้เห็นตามความเป็นจริง เนื่องจากจิตที่ฝึกฝนอบรมมีสติ สบง ตั้งมั่นดีแล้ว

    นี่ทุกข์ควรกำหนดรู้ เพราะทุกข์ที่เกิดขึ้นนั้นเราเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้

    มีแต่ต้องละเหตุแห่งทุกข์นั้นให้ได้ เท่านี้จึงจะปลอดภัยจากทุกข์

    เมื่อดับเหตุแห่งทุกข์นั้นได้แล้ว ย่อมดับ(นิโรธ)เย็น

    ทางที่จะส่งเรา(ผู้ปฏิบัติ) ให้ไปถึงความดับเย็นเป็นนิโรธ

    ก็คือทางอันเอกทางนี้เท่านั้น เพื่อความหลุดพ้น ทางนี้คือ อริยะมรรคมีองค์๘

    ต้องเริ่มต้นที่หมวดสมาธิ อันมี สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ

    ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ล้วนมีพระพุทธพจน์รับรองไว้ชัดๆไม่ต้องตีความใดๆทั้งสิ้น...

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2012
  18. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    ผมไม่รู้ว่าเขาจะเป็นเช่นไรนะแต่ที่แน่ๆ เมื่อเขารู้และเห็นอริยะสัจธรรมตามเป็นจริงมีศรัทธาในธรรมนั้นๆไม่คลอนแคลน ภพทั้งหลายมันก็จะลดน้อยลง มันก็จริงไม่ใช่เหรอ มันมีของให้ยึดติดน้อยลง ส่วนพระฃีณาสพเจ้าท่านไม่มีอะไรให้ยึดติดจะเอาภพอื่นใดมาจากไหนหรือให้ไปก็ไม่มี มีแต่พระนิพพานเท่านั้น เพราะความจริงกุญแจของจิตก็อยู่ที่ ปฎิจจสมุปปาท นั่นแหละ แต่รายละเอียดแต่ละส่วนที่ดำเนินไปนั้น มากมายเหลือเกิน มันไม่ได้ง่ายเหมือนกับที่เราอ่านเราเขียนกันหรอก
    สาธุคั๊บ
     

แชร์หน้านี้

Loading...