หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    เคยสร้างสมบารมีคู่กันมาตลอด ภพนี้ก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้นกระมัง หรือคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญครับ
     
  2. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181
    ขอบพระคุณนรธ.ทุกท่านที่ให้กำลังใจครับ ความรู้สึกฉันท์พี่น้องที่มีทั้งความอบอุ่นและความปรารถนาดีคงอยู่ชั่วนิรันดร์ทุกภพชาติ เมื่อพบเจอกันจึงอยู่เหนือคำพูดใดๆ ด้วยใจถึงใจที่เรารับรู้สัมผัสได้

    สำหรับเรื่องการเคลื่อนย้ายไปยังเชียงใหม่ อันเริ่มจากความคิดและความรู้สึกภายในนั้นมีมาก่อนซึ่งขณะนั้นยังมองไม่เห็นความเป็นไปได้เป็นรูปธรรมเลยสักนิดเดียว แต่เมื่อถึงวาระเวลาอันเหมาะสม หลายสิ่งหลายอย่างได้อำนวยเหมือนถูกจัดวางไว้ให้ ความเป็นไปได้เริ่มมองเห็นเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ผู้ใกล้ชิดมั่นใจและคล้อยตาม ก็คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกนั่นแหละครับ ทำให้ได้เห็นว่าสิ่งต่างๆเริ่มต้นที่ใจเป็นหลัก การมีจุดหมายและความตั้งใจมั่น นำพาให้เราสำเร็จสมประสงค์ และยังมีองค์ประกอบอื่นที่เรามองไม่เห็น และหยั่งรู้ได้ มีส่วนช่วยอำนวยให้เราเข้าถึงเป้าหมายดังที่ตั้งใจไว้ด้วย


    อาจมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่ต้องย้ายไปที่นั่น สำหรับผู้อื่นอาจดูเป็นเรื่องเล็กๆธรรมดาๆเรื่องหนึ่ง แต่สำหรับผมเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชีวิตก็ว่าได้ จะด้วยเหตุผลใดตาม
    เชียงใหม่จะเป็นสถานที่หนึ่ง ที่จะได้ต้อนรับพีน้องนรธ.หากได้สัญจรไปเยือนภาคเหนือนะครับ
     
  3. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ chantasakuldecha [​IMG]
    เรียนท่านดร.นนต์
    เมื่อซักครู่ ผมได้โอนเงินร่วมบุญสร้างบ่อกักน้ำแล้วครับ
    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ

    ;aa49
     
  4. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    ขอประทานโทษครับ ...... ผิดพลาดทางเทคนิค

    ขอโมทนาบุญกับคุณศรุตและท่านอื่นๆทุกประการครับ
     
  5. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    โมทนาสาธุครับ...
    สำบายดีน่อ...?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2013
  6. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ "นนต์" [​IMG]
    เมื่อคืน ผมได้นิมิต(แยกจากความฝัน) ว่า มีภาพเหตุการณ์ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เห็นเป็นภาพแผนที่โลก แถบย่านออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อินโดนีเชีย เรื่อยมาถึงประเทศไทย เป็นวาตภัย มีทั้งคลื่นลม สึนามิ แผ่นดินไหว พื้นพสุธาโยกไปมา โดยเฉพาะในประเทศไทย ผมเห็นภาพพายุพัดกระหน่ำในเมือง(ไม่รู้ที่ไหน) แผ่นป้ายขนาดใหญ่ หลังคา สิ่งก่อสร้างและสิ่งของปลิวกระจัดกระจาย ช่างน่ากลัว ไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อใด และอีกนานไหม ผมเองเคยมีจิตผุดรู้เกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งใหญ่ของประเทศหลายครั้ง และนิมิตเห็นน้ำท่วมหนักที่มีคนตายจำนวนมาก ส่วนใหญ่ก็จะเกิดขึ้นภายในไม่เกินสามวันหลังจากนิมิต แต่ในครั้งนี้ หากเป็นไปได้ ผมขออย่าได้บังเกิดขึ้นในที่ใดๆเลย ขอให้เป็นแค่ความฝันนะครับ


    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์
    28 พฤศจิกายน 2554
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เมื่อวานก็เกิดเหตุการณ์พายุฝนกระหน่ำประเทศนิวซีแลนด์ที่อยู่ใกล้กับออสเตรเลียอย่างหนักหน่วง รุนแรงและเสียหายมากที่สุดในรอบหลายสิบปีของนิวซีแลนด์ทีเดียว อันนี้ก็เป็นนิมิตล่วงหน้าที่ปรามาสไม่ได้เช่นเดียวกันครับ

    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์
    16 ธันวาคม 2554
     
  7. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ครับผม...มุ่งสร้างต่อไปตามภาระหน้าที่...

    [​IMG]

    การอัญเชิญพระพิมพ์ของ นรธ. ส่วนใหญ่จะสอดคล้องกัน คือจักมีพระพิมพ์ที่ตัวเองชื่นชอบในสายวัง 1 องค์และพระพุทธปฐวีธาตุประจำตัวอีก 1 องค์
    ตัวอย่างรายละเอียดในพระพิมพ์ตามภาพดังนี้

    1. พระกริ่งรัชกาลที่ 3 สร้างในปี พ.ศ.2382: โดยมีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลดาวัลย์ กรมหมื่นภูมินทรภักดี (พระราชโอรสในรัชกาลที่ 3)
    รงถวายงานเป็นนายช่าง-กรมช่างสิบหมู่ ตั้งแต่ยุคนั้นจนถึงยุคต้นรัชกาลที่ 5
    การอัญเชิญพระกริ่งองค์นี้ก็เพื่อ...
    - เป็นพุทธานุสติถึงองค์พระไภษัชยคุรุสัมมาสัมพุทธเจ้าแลองค์พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่ทรงแผ่พระเมตตาให้พระกริ่งมีพลานุภาพไร้ขีดจำกัดตั้งแต่ดั้งเดิม
    - เพื่อเป็นสังฆานุสติถึงสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี พระผู้ทรงอธิษฐานจิต อัญเชิญสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแผ่พระฉัพรรณรังสีมาประดิษฐานในองค์พระกริ่งนี้
    - เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 3 พระผู้ทรงโปรดเกล้าให้สร้างพระกริ่งนี้ขึ้นมา
    - เพื่อเป็นการระลึกนึกถึงพระคุณความดีของกรมหมื่นภูมินทรภักดี พระผู้ทรงเป็นกำลังสำคัญในการสร้างพระพิมพ์ พระบูชาและวัดสำคัญต่างๆในพระพุทธศาสนา

    2. พระพุทธปฐวีธาตุเอตะทัคคะบารมี รุ่นแก้วจักรพรรดิมณีนาคา:
    ถือกำเนิดในลุ่มแม่น้ำโขง จากการหล่อหลอมของธาตุทั้ง 5 จนเกิดเป็นพระธาตุใสมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีพญานาคดูแลรักษาทุกองค์
    พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช เล็งเห็นคุณค่าที่กล่าวมาข้างต้น จึงได้นำมาบรรจงเขียนเป็นรูปพระพุทธเจ้าที่เคารพบูชาสูงสุด
    พร้อมทั้งแผ่เมตตาอธิษฐานจิตให้มีพลานุภาพไม่มีประมาณและมอบให้ศิษย์เพื่อ...
    - เป็นพุทธานุสติถึงพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์จวบจนพระองค์ในอนาคต เช่น พระศรีอริยเมตตรัย เป็นต้น
    - เป็นธรรมานุสติ: การที่ผู้อัญเชิญจักเห็นธรรมได้แจ่มแจ้ง จักต้องขัดเกลากิเลสให้เบาบางจนใสสะอาดเหมือนปฐวีธาตุ จึงจักเข้าถึงพระธรรม แลเข้าถึงองค์พุทธะตามลำดับ
    - เป็นสังฆานุสติถึงพ่อแม่ครูอาจารย์พ.สุรเตโช พระผู้บรรจงสร้าง: ในทุกยามที่อัญเชิญ จิตจักมุ่งทำความเพียร มีสัมมาสติ สัมมาสมาธิ เป็นอาทิ แลมีพละกำลังที่กล้าแกร่งแข็งเหมือนปฐวีธาตุเสมอๆ

    3. สร้อยประคำปล้องอ้อยเพชรตาเสือ:
    มีคุณค่าและความศักดิ์สิทธิ์ในตัว ทั้งป้องกันภัย รักษาธาตุขันธุ์ภายใน เกิดดวงตาที่สามง่ายขึ้น และเพื่อเป็นการระลึกนึกถึงวาระธรรมะสัญจรครั้งที่สอง ที่พ่อแม่ครูอาจารย์และคณะฯมาโปรดถึงถิ่นฐานบ้านเรือน
    ท่านยังเมตตาสงเคราะห์ให้สร้อยประคำเส้นนี้มีพลานุภาพไร้ขีดจำกัด ไม่ได้ด้อยไปกว่าธาตุใดๆในใต้หล้า จนอาจเรียกได้ว่า...เป็นเจ้าแห่งป่าเขา ส่วนปฐวีธาตุนั่นเล่า...เป็นเจ้าแห่งสายน้ำ

    4. เม็ดกริ่งเหล็กไหล(ประจุไว้แต่เดิม)และเหล็กไหลตาน้ำ(ประจุในภายหลัง 2 องค์) โดยพ่อแม่ครูอาจารย์ฯประจุ 1 , ผมประจุปิดอีก 1 :
    นับเป็นการเชื่อมโยงเติมภาคอดีตที่ยังพร่องอยู่(เพราะเป็นรูบุ๋มเข้าใปในองค์พระ)ให้เต็มสามในภาคปัจจุบัน เพื่อยังให้เกิดผลดีงามในกาลอนาคต

    5. ปิดฐานพระ/ด้านหลังพระด้วยทองคำเปลวบูชาพระพุทธบาท 4 รอย แห่งพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ในภัทรกัปป์นี้
    ประดิษฐานบนยอดเขาสูง มีเทวดาผู้แหงนมองขึ้นท้องฟ้าพิทักษ์รักษา (เจ้าแห่งนภากาศ) ณ.แม่ริม เชียงใหม่:มอบให้โดยพ่อแม่ครูอาจารย์ฯ
    - เพื่อเป็นพุทธานุสติถึงพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ในภัทรกัปป์-พุทธกัปป์ปัจจุบัน
    - เพื่อเป็นการระลึกนึกถึงเหตุการณ์ปีติในพระธรรมสัวเวช อย่างสุดซึ้งในวาระแรกที่ได้ร่วมเดินทางแสวงบุญมา ณ ที่สำคัญแห่งนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1240425.jpg
      P1240425.jpg
      ขนาดไฟล์:
      269.3 KB
      เปิดดู:
      8,909
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2013
  8. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583

    สบายดีครับท่านน้อง ........ ช่วงนี้ว่างหน่อยครับ
    แล้วท่านน้อง ...... ? ( เป็นไงบ้างละครับ )
     
  9. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    สบายดี อากาศดีครับท่านพี่...
     
  10. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    ยินดีด้วยครับกับโครงการณ์ย้ายถิ่นฐานใหม่.....ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ท่านภูเบศวร์สำเร็จลุล่วงในสิ่งที่มุ่งหวังนะครับ

    ผมเคยปราถนาจักไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย อ.แม่ริม เชียงใหม่ สักครั้งหนึ่งในชีวิตเมื่อถึงเวลานั้นคงได้แวะเยี่ยมเยือนท่านภูเบศวร์กันนะครับ.....
     
  11. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    เป็นชุดที่สุดยอด.....และครบเครื่องครบถ้วนสมบูรณ์แบบจริงๆครับ หึหึ :cool: ยินดีด้วยคร๊าบ.....
     
  12. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    แวะตามรอยธรรมสัญจร#2 ณ แม่สอดก่อนก็ได้นะครับ หุหุ
     
  13. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]

    ขอบคุณครับ...
    ตอนแรกผมว่าจะเขียนถึงองค์ดำ/สร้อยประคำ
    เพื่อนอบน้อมถึงพระคุณท่านเจ้าขรัวแสง แต่ท่านนนต์กล่าวถึงเรียบร้อยแล้ว เป็นว่าชมแต่รูปละกันเนาะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1220541.jpg
      P1220541.jpg
      ขนาดไฟล์:
      190.4 KB
      เปิดดู:
      7,899
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2013
  14. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]
    ขอโมทนาสาธุในบุญกุศลที่ครูร่วมชาติและครอบครัว ขึ้นเขาสูง...
    เพื่อกราบสักการะพระพุทธบาทสี่รอย ตําบลสะลวง อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่.

    นี่หล่ะหนอ...ถ้าจะไป หมื่นไพรีก็ไม่กลัว :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2013
  15. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    <CENTER>วัดพระพุทธบาทสี่รอย</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>

    สมัยพุทธกาลองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในศาสนาปัจจุบัน ได้เสด็จาริกประกาศธรรมมายังปัจจันตประเทศ (ประเทศไทยในปัจจุบัน) ได้เสด็จมาถึงทางตอนเหนือของประเทศ ชื่อเขา "เวภารบรรพต" ได้เสด็จมาพร้อมกับพุทธสาวก ๕๐๐ องค์ และได้แวะฉันจังหันอยู่บนเขาเวภารบรรพตแห่งนี้ เมื่อฉันจังหันแล้วก็ทราบด้วยญานสมบัติว่าบนเทือกเขาแห่งนี้ มีรอยพระพุทธบาทเจ้าประทับอยู่แล้วถึง ๓ พระองค์ พระสารีบุตรได้ทูลถามว่า พระพุทธองค์ทรงเล็งดูด้วยเหตุใด จึงตรัสตอบว่า ในอดีตกาลมีพระพุทธเจ้าประทับรอยพระบาทไว้แล้วในที่เดียวกัน ๓ พระองค์ ดังนั้นพระองค์จะประทับไว้เป็นรอยที่สี่ และต่อไปแม้นว่าพระพุทธเจ้าศรีอาริยเมตไตรย์จักเสด็จมาอีก จะมาประทับรอยพระบาทไว้ ณ สถานที่แห่งนี้อีก แต่จะประทับแล้วจะลบรอยทั้ง ๔ รวมทั้งรอยที่ ๕ ลบให้เหลือเพียงรอยเดียว เมื่อตรัสแล้วพระพุทธองค์ก็เสด็จไปประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทที่ประทับอยู่แล้ว ๓ รอยนั้นรวมเป็นสี่รอยด้วยกัน

    รอยพระพุทธบาททั้ง ๔ รอย ต้องถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เพราะประทับอยู่บนแผ่นศิลาซึ่งโผล่พ้นดินขึ้นมาสูงทีเดียว ดั้งเดิมต้องปีนขึ้นไปดู แต่ปัจจุบันมีบันไดขึ้น มีวิหารสร้างครอบเอาไว้เรียบร้อยแล้ว พระพุทธบาทนั้นไม่ใช่สักแต่ว่ามีรอยพระบาท จะต้องมีรูปธรรมจักรปรากฏด้วย ไม่ใช่ไปเจอหินที่ไหนมีหลุมลึกยุบลงไปก็โมเมว่าเป็นรอยพระพุทธบาทหมด

    รอยพระพุทธบาทสี่รอยประกอบด้วย
    1. พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ รอยที่ ๑ ยาว ๑๒ ศอก (๖ เมตร)
    2. พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ รอยที่ ๒ ยาว ๙ ศอก
    3. พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากัสสปะ รอยที่ ๓ ยาว ๗ ศอก
    4. พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ รอยที่ ๔ ยาว ๔ ศอก

    พระพุทธเจ้าได้ทรงอธิษฐานว่า เมื่อเราคถาคตนิพพานไปแล้ว เทวดาทั้งหลายจักนำเอาพระธาตุของเราตถาคตมาบรรจุไว้ที่รอยพระพุทธบาทนี้ และเมื่อเราตถาคตนิพพานไปแล้ว ๒,๐๐๐ ปี พระพุทธบาทสี่รอยนี้จักปรากฏแก่ปวงชนและเทวดาทั้งหลาย ก็จักได้มากราบไหว้บูชา เมื่อทรงอธิษฐานแล้ว ก็เสด็จไปยังเชตวันอาราม ในเมืองสาวัตถี

    ๒,๐๐๐ ปีล่วงไป เทวดาประสงค์ให้พระพุทธบาทปรากฏแก่ตาปวงชน จึงนิมิตพญาเหยี่ยวบินลงมาจากภูเขาเวภารบรรพต อันเป็นที่ตั้งของพระพุทธบาทสี่รอย ให้ลงไปเอาลูกไก่ของชาวบ้านที่อยู่เชิงเขาแล้วบินกลับขึ้นไปบนภูเขา พรานประจำหมู่บ้านโกรธมาก จึงตามขึ้นไปบนเขาเพื่อฆ่าเหยี่ยวแต่หาไม่พบ แต่กลับไปพบรอยพระพุทธบาทสี่รอย อยู่บนพื้นหินใต้การปกคลุมของพืชพันธุ์ไม้ พรานเชื่อว่าเป็นรอยพระพุทธบาทจึงทำการสัการะบูชาแล้วกลับลงมาจากเขามาบอกชาวบ้าน ชาวบ้านก็พากันไปกราบไหว้บูชาและได้ชื่อว่า "พระบาทรังรุ้ง" (รังเหยี่ยว)

    มาถึงสมัยพระยาเม็งรายเสวยราชสมบัติในเมืองเชียงใหม่ (ไม่แน่ใจว่าองค์เดียวกับที่สร้างเชียงใหม่หรือไม่ ) ได้เสด็จขึ้นไปนมัสการพร้อมด้วยราชเทวีและข้าราชบริพาร และต่อจากนั้นมาผู้สืบราชสมบัติ ก็ถือเป็นประเพณีว่า เมื่อขึ้นครองราชย์ที่เชียงใหม่แล้ว จะต้องขึ้นไปนมัสการพระพุทธบาทรังรุ้ง เลยได้นามใหม่ว่า พระพุทธบาทสี่รอย

    มาถึงสมัยพระยาธรรมช้างเผือกผู้ครองนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยบริวาร ๕๐๐ คน ได้ขึ้นไปนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย จึงได้สร้างวิหารครอบพระพุทธบาทสี่รอยไว้เป็นการชั่วคราว และได้สร้างแท่นนั่งร้านขึ้นรอบรอยพระพุทธบาท เพื่อไม่ให้ต้องปีนบันได และทำให้ฝ่ายหญิงได้ขึ้นไปมองเห็นนมัสการได้ และสร้างหลังคาชั่วคราวมุงเอาไว้

    เจ้าดารารัศมี ได้เสด็จขึ้นไปนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย และมีพระราชศรัทธาก่อสร้างวิหารเป็นการกราบบูชาพระพุทธบาท (ปัจจุบันคือหลังที่อยู่ตรงทางขึ้นบันได พอพ้นบันไดก็ถึงวิหารหลังนี้) ได้เสด็จขึ้นไปสร้างไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑

    พ.ศ. ๒๔๗๒ ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ได้ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอยและได้รื้อวิหารที่พระเจ้าธรรมช้างเผือกสร้างไว้ชั่วคราวนั้นออกเสีย เพราะผุพังหมดแล้วและได้สร้างวิหารครอบรอยพระพุทธบาทขึ้นใหม่ แล้วฉาบปูนครอบรอยพระพุทธบาทไว้เพื่อรักษาให้อยู่ค้ำชูพุทธศาสนาไปชั่วกาลนาน

    จากสานส์สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงบันทึกไว้ว่า "พระพุทธบาทสี่รอยแห่งนี้เป็นพระพุทธบาทที่เก่าแก่ที่สุดของไทย" ครูบาอาจารย์ พระธุดงค์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่นภูริทัตโต หลวงปู่แหวน หลวงปู่ชอบ หลวงปู่สิม เป็นต้น ล้วนแต่ขึ้นไปนมัสการมาแล้วทั้งสิ้น

    ความสำเร็จในการพัฒนาให้ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้มาจากพระภิกษุหนุ่มที่ถือว่าต้องทรงวิทยาคุณเป็นอย่างสูงคือพระพรชัย ปิยวัณโณ ซึ่งท่านเกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๐ นี่เอง นับถึงวันที่ผมเขียนก็มีอายุเพียง ๓๔ ปี นับว่าหนุ่มมากสำหรับพระที่กล้าไปอยู่องค์เดียว ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมแบบนี้ และอยู่เป็นเวลานานถึง ๙ ปี คือเป็นเณร ๑ ปี เป็นพระอีก ๑๘ ปี ท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๓ ปี พออายุ ๑๖ ปี ก็สอบนักธรรมเอกได้ ธุดงค์มาพักอยู่ที่วัดรางสันป่าตึง วัดพระเจ้าตนหลวง ตำบลสันป่ายาง ที่เชิงเขาพระพุทธบาทสี่รอย ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ อยู่ได้สัก ๒ เดือน ได้นิมิตเห็นปราสาทหลังใหญ่โตงดงามมากอยู่บนเขาสูง ได้ขึ้นบันไดไปก็พบรอยพระพุทธบาทอยู่ในปราสาท เมื่อวันรุ่งขึ้นออกบิณฑบาตเล่าให้โยม ๆ ฟังก็บอกว่าบนเขามีรอยพระพุทธบาท มีวัดแต่มักจะเป็นวัดร้าง เพราะพระเณรมักอยู่อาศัยไม่ได้ท่านจะขึ้นไปชาวบ้านก็ห้าม สุดท้ายพอเวลาตีสองท่านก็ขึ้นไปยังพระพุทธบาทสี่รอย เดินไปเป็นระยะทางประมาณ ๒๒ กม. และไปอยู่ประจำองค์เดียว ๑ ปี เป็นเณร ๘ ปี เป็นพระจนปีที่ ๘ จึงเริ่มมีพระมาจำพรรษาด้วยมากถึง ๑๑ รูป ต่อจากนั้นท่านก็เลยเริ่มบูรณะวัด เริ่มตั้งแต่วิหารเจ้าดารารัศมี เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๖ สร้างกุฏิทรงล้านนา สร้างมหาเจดีย์ สร้างอุโบสถที่งดงามหลังโตเหมือนปราสาทที่ท่านนิมิตนั่นแหละ

    ท่านต้องต่อสู้กับความวิเวก กับสัตว์ป่าด้วยการแผ่เมตตา สู้กับความอดอยากสารพัดที่จะสู้ทุกรูปแบบ ถ้าไม่ไปเห็นกับตาคงไม่เชื่อว่าพระภิกษุอายุเพียงเท่านี้จะทำได้ขนาดนี้ และท่านถือว่าไม่ต้องไปบอกบุญใคร อาศัยพระบารมีของพระพุทธบาท อธิษฐานขอจากปวงเทพเทวาว่าจะสร้างโบสถ์ ให้เป็นไปตามหน้าบุญ "มีก็ฉัน ไม่มีก็ไม่ฉัน มีก็เอา ไม่มีก็ไม่เอา ใครจะมาทำบุญก็มา" แล้วอธิษฐานขอจากครูบาศรีวิลัย เทพเทวา ไม่วุ่นวาย ไม่ยึดติด
    ดังนั้นทั่วบริเวณวัดจึงมีแต่ความเงียบสงบ น่าเลื่อมใส ใครไปก็จะไปนั่งสวดมนต์ภาวนาที่วิหารที่สร้างครอบพระพุทธบาทเอาไว้ นั่งสวดมนต์ด้วยความสงบ ด้วยใจที่เป็นสุข


    http://www1.mod.go.th/heritage/nation/tour/prabat4.htm<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2011
  16. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181
    ขอบคุณครับได้หลายกำลังใจละ หมื่นไพรีก็บ่ยั่น และเมื่อถึงเวลานั้นจักได้ไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอยนำกันครับ และแวะไปแอ่วแม่สอดโตย หุหุ..
     
  17. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181
    นิมิตของท่านดร.นนท์คงเป็นอีกแรงกระตุ้นหนึ่งของผมกระมังครับ
     
  18. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181
    สำหรับพระประจำตัวต้องขอโอกาสอัญเชิญมาให้ชมบ้างละครับ

    องค์แรกพระพุทธปฐวีธาตุ กับสร้อยประคำเหล็กไหล

    องค์ที่สองพระพญาเหล็ก(เหล็กไหล)หลวงปู่หวล อัญเชิญจากถ้ำแถบกำแพงเพชร เป็นพิมพ์สมาธิพระชัยวรมัน

    ส่วนองค์สายพระวังต้องขอคัดสรรก่อนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181
    พระพญาเหล็ก ที่น้อมนำมาสู่ สายพระวังและ กลุ่มพี่น้องนรธ. โดยคำแนะนำของพี่อ๊อด (somlatri)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. Jokky

    Jokky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +154
    โมทนาบุญด้วยครับพี่(kiss)
     

แชร์หน้านี้

Loading...