หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ขอบคุณครับ...ได้รับภาพใหญ่แล้ว...เดี๋ยวผมโอนเงินไปช่วยค่าสี ค่าผ้านะครับ
     
  2. หมวดซุบ

    หมวดซุบ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +20
    อาบัง ขออนุโมทนาในวันขึ้นบ้านใหม่ ขอให้อาบังและครอบครัวจงมีแต่ความสุข ปรารถนาสิ่งใดก็ขอให้สมหวังทุกประการ ขอให้สว่างทั้งทางโลกและทางธรรม:cool:
     
  3. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 13 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 10 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>มูริญโญ่, IT Man, somlatri </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ท่านสมบัติ ขอโอนวันศุกร์แทนนะครับ
    ผมกำลังพยายามรวบรวมเพิ่มครับ
    คิดว่าคงได้ตามเป้าครับ ........
    ไว้งานใหญ่ๆค่อยทุ่มเต็มที่นะครับ
    งานนี้ผมเพิ่งเริ่มต้น เอาน้อยๆก่อนนะครับ ฮิฮิฮิ
     
  4. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    ผลออกมาแล้วครับว่าเป็นเกศาธาตุสีขาวใส ของท่านเจ้าขรัวแสง
    พระผู้เป็นบูรพาจารย์ของหลวงปู่เจ้าประคุณสมเด็จโตครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2013
  5. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ไม่มีปัญหาครับท่านพี่ หุหุ โมทนาด้วยนะครับ :cool:
     
  6. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 13 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 9 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>IT Man, สมาชิกธรรม+, sittiporn.s+, มูริญโญ่+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    กราบสวัสดีครับท่านพี่ๆผู้อาวุโส...
     
  7. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 11 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 6 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>มูริญโญ่, somlatri, sittiporn.s, chantasakuldecha, สมาชิกธรรม </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สวัสดีครับคุณสิทธิพร ท่านน้องศรุษ
     
  8. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    ได้ข่าวว่าท่านน้องก้าวไปไกลแล้วหรือครับ ...... รอคนแก่หน่อยซิครับ ฮิฮิฮิ
     
  9. Natachai

    Natachai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +937
    pig_cryy2 rabbit_scary
     
  10. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388

    124. พุทโธอัปปมาโน
    (จาก blog ดร.natachai)

    ว่าจะจบเรื่องนี้แล้วนะ แต่เห็นใน blog ท่าน ดร. เปิดซะแทบหมดเปลือก แถมติดรูปโชว์ซะอย่างงั้น :'( หมดกันเลยเรา หุหุ

    "ของจริง เรื่องจริง ไม่ต้องกลัวอะไร"

    ซึ่งคิดว่าหลายๆท่านคงได้ให้ความสนใจอยู่ ทว่าทำไมรีบปิดเรื่องเร็วจัง ก็เพราะเหตุว่า...เรื่องที่พวกเราประสพมามันเกินวิสัยของคนทั่วไปหากยังติด คิด ข้อง อยู่ภายใต้กรอบความคิดแบบโลกธรรม ยากมากที่จะเข้าใจและเชื่อถือ (เรื่อง อดีตชาติ การสัมผัสพลังพระพุทธานุภาพ และการได้รับพระพรสืบต่อพลังแห่งพระพุทธานุภาพอันไร้ขีดจำกัด) ทว่า...หากเข้าสู่กรอบความคิดแบบโลกุตรธรรมแล้ว ย่อมเข้าใจได้ว่ามันเป็นไปได้ แม้จะมีโอกาสน้อยมากๆ

    1. อดีตชาติ : แค่นี้ผู้คนก็ส่ายหน้าหนีแล้ว และยิ่งทราบว่าเป็นอดีตชาติที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้างพระพิมพ์ พระบูชา วังหน้า,วังหลวง ยุค ร.3-4-5 แล้ว ยิ่งไม่น่าเอ่ยถึงเลย อีกทั้งในเรื่องของกฏแห่งกรรม ผมได้เรียนรู้และเข้าใจด้วยตนเองดีแล้ว ทั้งจากมองผ่านไปยังบุคคลอื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้วสะท้อนเข้ามาหาตัวเอง โอ้..หนอ ทำให้เราเห็นใจและเข้าใจคนอื่นมากยิ่งขึ้น ผลที่ได้...สามารถประมวลผลสืบเนื่องจากภพปัจจุบันไปยังภพในอนาคตได้
    2. การสัมผัสพลังพระพุทธานุภาพอันไร้ประมาณ : ก็เหมือนกับการสัมผัสพลังแห่งอิทธิคุณในพระเครื่องทั่วไปนั่นแหละครับ แต่นี่แรงกว่า เข้มกว่า หากเทียบกันกับพระพิมพ์สมเด็จวัดระฆัง 1x + xxxx
      • พระพิมพ์พระคณาจารย์กับพระกรุทั่วไปโดยเฉลี่ย = 0.2x-1.2x
      • พระพิมพ์วังหน้า,วังหลวง ระดับหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรขึ้นไป = 5.3x
      • พระพิมพ์วังหน้า,วังหลวง ไม่แน่ใจว่าเป็นของใคร = 8x
      • พระพิมพ์วังหน้า,วังหลวง ระดับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นไป = 10x - 150x + xxxx
      • พระพิมพ์วังหน้า,วังหลวง ระดับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์รวมกันจนถึงพระองค์ศรีอริยะเมตตรัย = 150x จนถึงไร้ประมาณ

        • TOP1,2,3 เดิมๆ = 27x+xxxx , TOP4 เดิมๆ = 62.5x+xxxx
        • ระดับ 62.5x ผมปวดหัวและปรับธาตุขันธ์ 3-4 วัน (ผมรู้มา 2 ปีแล้วและยังประกาศออกไปว่า ไม่มีพระพิมพ์อะไรจะสูงไปมากกว่านี้ (62.5x) อีกแล้ว วันนี้ ผมขอถอนคำพูดที่ว่ามาทั้งหมดนะครับ:'()
        • ระดับ 150x ผมปวดหัวและบริเวณแขวนพระ 2 วัน
        • ระดับ ไร้ประมาณ ผมปวดหัว..หน้าอก 1 วัน (ได้ปรับธาตุขันธ์จากท่าน ดร.นนต์ก่อน 1 วัน)
        • xxxx = แต่ละก๊อกที่รอวันเปิด
      • สิ่งที่กล่าวมานี้คงเต็มไปด้วยเครื่องหมาย ???? เต็มหัวท่านอยู่เป็นแน่แท้ พร้อมกับบ่นๆว่า "โห...ท่าทางจะกู่ไม่กลับนะเจ้าสมบัติเอ๋ย" ...หุหุ
    3. การได้รับพระพรสืบต่อพลังแห่งพระพุทธานุภาพอันไร้ขีดจำกัด
      • เรื่องนี้น่าจะเว้นไว้ให้ท่าน ดร.นนต์ต่อให้ได้
      • สำหรับวันที่อยู่วัดระฆังนั้น ขณะทำพิธีประมาณบ่ายสามกว่า ผมหลับตาลงเห็นเป็นรัศมีเต็มท้องฟ้าสีแดงขององค์สุริยะเทพเป็นวงกว้างไร้ประมาณ ภายในตรงกลางเป็นสีขาวนวลๆเรืองๆและสีทอง (สีทองโดนกลบด้วยสีแดงกับสีขาว หากไม่เพ่งก็จะเห็นเป็นสีขาวอยู่กลางเหมือนโดนัท)
      • พอข้ามฝั่งมาท่าพระจันทร์ ผมไปเจอสร้อยประคำเหล็กไหลไพลดำพลังไร้ประมาณ วางรออยู่ 2 เส้น แบ่งให้ท่าน ดร.นนต์ เป็นคนละเส้น
      • ร้านที่สองก็เจอเส้นใหญ่ 1 เส้น เช็คดูเป็นของภรรยาคุณซึ้งบน ผมก็เดินต่อไป ไม่มีอะไรให้ผมเห็นอีก จึงย้อนกลับมาหาพรรคพวก ปรากฏว่าท่าน ดร.นนต์ได้เส้นใหญ่มาอีก 1 เส้น เห็นบอกว่าจักน้อมถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ - ขอโมทนาสาธุเด๊อ...:cool:
      • จากนั้นไปที่ลานจอดรถ ม.ธรรมฯ เช็คพระกันแบบมึนๆระคนดีใจ ตกใจ ตื่นเต้น อยู่สามคน...พอได้เวลาเคารพธงชาติ พวกเรายืนสงบนิ่ง หลังจากที่ได้รับรู้ว่า ได้รับพระพรพิเศษ (ไม่ได้ติดตัวไปทุกภพทุกชาติ) พวกเราได้ยืนแผ่อธิษฐานกราบขอบพระคุณในพระเมตตาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์สืบไปยังพระองค์ศรีอริยะเมตตรัย ผมได้ยินเสียงแว่วๆเข้ามาว่า "พระพรที่ให้ไปนั้น ให้ไว้เพื่อสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์" จากนั้นผมก็เห็นในนิมิต มีผู้คนเข้ามาแวดล้อมมากมาย ในสายตาแต่ละคนเต็มไปด้วยความหวังในตัวเรา
      • ผมจึงเปรยๆแบบเตือนกันและกันเองต่อท่านสอง ดร. ว่า... "พระพรที่พวกเราได้รับมานั้น ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของตนเอง แต่ไว้เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น"
      • เพื่อเป็นการพิสูจน์คำพูดและเจตนาสงเคราะห์คนอื่นของผมสามคน จงคอยดูนะครับว่า หลังจากวันที่ 9 เดือนที่ 9 ปีที่ 9 (5+4) พลานุภาพพระพิมพ์ 25 พศตว. จักมากขึ้นกว่าเดิม(0.5x) เป็น 10x หรือไม่?
    ปล: ระหว่างที่ผมนั่งพิมพ์และแก้ไขบทความนี้อยู่นี้ เหมือนโดนอะไรกดบนศรีษะด้านซ้ายตลอดเวลาเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2011
  11. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    สิ่งบางอย่างเปิดเผยได้
    สิ่งบางอย่างเปิดเผยไม่ได้

    เพราะจะมีทั้งคำอนุโมทนาและคำปรามาส

    ผู้สัมผัสได้จะอนุโมทนา
    ผู้สัมผัสไม่ได้และอยู่นอกสายจะปรามาส

    คลื่นต่างกัน จะไม่รวมกัน นี่เป็นธรรมชาติของโลก
     
  12. สาวกธรรม1

    สาวกธรรม1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +173
    โมทนาสาธุครับ สิ่งที่ถูกเก็บไว้นานเริ่มเปิดเผยแล้วครับ
     
  13. สาวกธรรม1

    สาวกธรรม1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +173
    ผู้ที่ได้ประสปพบเจอเท่านั้นจึงได้รู้ว่าไช่ หลังจากท่านอาจารย์ปรับธาตุให้ผมแล้วอาการปวดหัวผมหายแล้วครับ
     
  14. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    พรหรือความมหัศจรรย์แห่งจิตและบุญนั้น
    มิได้เกิดขึ้นมาลอยๆ แต่เป็นผลของการบำเพ็ญมาทางนี้หลายภพหลายชาติ แต่ต้องมีบารมีเต็มแล้วเท่านั้น พระเบื้องบนจึงจะเมตตาสงเคราะห์ได้ แต่ก็ต้องใช้บุญบารมีของตัวเองไปสงเคราะห์ต่ออีกทีหนึ่ง...

    สิ่งเหล่านี้ต้องมีพยานรับรู้ จึงจะสามารถพูดออกมาได้... แม้เป็นความจริง แต่ไม่มีพยานรู้เห็น ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเปิดเผย ดั่งเช่นที่พระพุทธเจ้าเห็นเปรต แต่พระองค์ไม่ได้กล่าวกับใคร จนกว่าเมื่อพระโมคลาเห็นแล้ว ท่านจึงตรัสเล่าให้กับสาวกอื่นๆรับรู้ได้ เพราะมีพยานคือ พระโมคลานะ

    ท่านทั้งหลายที่สัมผัสได้ จะไม่สงสัย
    ท่านใดสัมผัสไม่ได้ ก็จะยังสงสัย และอาจกล่าวว่า งมงาย หลง และเกิดอาการวิปัสสนูปกิเลสมันหลอกเอา ดังนั้น จึงต้องมีผู้ที่อยู่เหนือกว่ารับรอง หรือมีพยานประจักษ์ จึงจะสามารถเชื่อถือได้ หรือจิตของท่านจะต้องพิจารณาใคร่ครวญในปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น หลายๆครั้ง จนกว่าจะได้ผลที่เที่ยงแล้ว ค่อยปักใจเชื่อ... อย่าเชื่อตามคำบอกเล่า จงเชื่อจากการปฏิบัติและรับรู้ด้วยตนเองเป็นปัตจัตตัง

    เหตุของการเกิดบุญบาป ความเชื่อ ไม่เชื่อ หรือปรากฏการณ์ต่างๆ เป็นวิถีของแต่ละบุคคล จะเอาผลของตัวเองไปวัดกับผู้อื่นไม่ได้ ปฏิบัติเอง ถึงแล้ว รู้เอง... ความรู้จากพระคำภีร์แม้จะท่องจำได้มาหลายภพหลายชาติแล้วก็ตาม ก็มิได้มีความหมายใดๆเลย หากท่านไม่ได้ลงมือปฏิบัติให้รู้ให้เห็นด้วยตัวเอง...

    หรือแม้ท่านผู้ใดผู้หนึ่งจะบรรลุธรรมระดับใดระดับหนึ่ง นั่นก็เป็นวิถีปฏิบัติตามจริตของตัวเอง จะเอาไปเป็นแนวมาตรฐานให้ผู้อื่นเดินตามทั้งหมดนั้น ก็ไม่สมควร นั่นเพราะเบื้องหลังของแต่ละบุคคลนั้นสร้างสมบารมีมาต่างกัน บางท่านในอดีตชาติไม่เคยสร้างพระสร้างถาวรวัตถุ หรือไม่เคยอธิษฐานบารมีมาในด้านนี้ หากรู้ไม่เท่าทัน ก็จะกล่าวตำหนิผู้ที่สะสมพระเครื่องได้ว่า เป็นผู้ที่หลงงมงาย ทั้งที่จริงแล้วจริตและบุญของเขาสร้างสมมาทางด้านนี้ และอธิษฐานอะไรไว้ เจ้าตัวเขาจะรู้เอง ดังนั้น หากจะตำหนิผู้อื่น ก็จงพิจารณาที่ตัวเองก่อนว่า เราก็ไม่เหมือนใคร แล้วจะให้ใครมาเหมือนเราได้อย่างไร (อันนี้ผมกล่าวไว้ล่วงหน้า...เพราะจะมีผู้เข้ามาทดสอบอยู่เรื่อยๆ เพื่อนักรบธรรมจะได้ตามทัน)

    ผู้ที่มีแนวทางเดียวกันและสร้างสมบุญบารมีมาด้วยกัน ก็จะไปด้วยกันได้ และรับรู้ได้เองโดยอัตโนมัติ... คลื่นเดียวกันแผ่ไปถึงกันได้ ปิดไว้ก็ไม่อยู่...ขอจงพิจารณาเอาเองเถิด


    ความจริง ไม่กลัว ความไม่จริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2011
  15. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ตี 3!... มาเยี่ยมซะดึกเชียว หุหุ
     
  16. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]

    วงในสีแดง-ทอง-ขาวนวล แบบนี้แหละครับที่เห็นเนืองๆเวลาหลับตา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2013
  17. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    127. สุดยอดของพระกริ่ง
    (พระกริ่งที่ทำให้มีพระกริ่งปวเรศในวันนี้)

    จากการเริ่มต้นเขียนบทความในกระทู้ต่างๆมากมาย ผู้เขียนพบพระกริ่งมานับไม่ถ้วน ผลสรุปที่ได้หากเป็นพระกริ่งฯ ที่มีพิธิกรรมและการอัญเชิญพระเบื้องบนมาเมตตาสงเคราะห์ทำให้ ผู้เขียนขอแบ่งความแรงของพุทธคุณองค์พระที่ได้อธิฐานจิตดังนี้​

    - พระกริ่งความแรงระดับมาตราฐานของพระกริ่งสายวังหน้า, วังหลวง 5 แรง ถึง 10 แรง ( เท่า, X ) เหมาะสำหรับบุคคลทั่วๆไป
    - พระกริ่งความแรงระดับขั้นกลางถึงขั้นสูงของพระกริ่งสายวังหน้า, วังหลวง ตั้งแต่ 32 แรง ถึง 150 แรง( เท่า, X ) เหมาะสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมทั่วๆไป
    - พระกริ่งความแรงระดับไร้ขีดจำกัด ของพระกริ่งสายวังหน้า, วังหลวง เหมาะสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมที่ต้องการความหลุดพ้น(ตั้งความหวังพระนิพพานในชาติปัจจุบัน)

    วันนี้ขอนำภาพของพระกริ่งฯสร้างในยุคของ รัชกาลที่ 3 ในวาระ พ.ศ.2382 ที่สมเด็จโตร่วมอธิฐานจิต มีพลังพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัด (พลังเดิมๆที่ไม่ได้ปิดล๊อค หรือ ปิดก๊อกเอาไว้ตั้งแต่สมัยเริ่มแรกที่สร้างเสร็จ) พระกริ่งฯในสมัย ร.3 หากสร้างก่อน พ.ศ.2382 ที่ได้พบ พลังพุทธานุภาพมีความแรงเพียง 10 เท่า เนื่องจากว่าสมเด็จโตไม่ได้ร่วมอธิฐานจิต​

    ข้อสังเกตุ
    - พระสมเด็จจิตรดาที่มีคนอยากได้กันนักหนาที่พบมีพลังพุทธานุภาพ 0.8 เท่า ยังห่างไกลในเรื่องความแรงเมื่อเทียบกับพระกริ่งความแรงระดับมาตราฐานของพระกริ่งสายวังหน้า, วังหลวง
    - พระ 25 ศตวรรษ สร้างกันมากมายในอดีตหลายสิบล้านองค์ เกจิอาจารย์มากันทั่วประเทศ ที่พบมีพลังพุทธานุภาพ 0.5 เท่า ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้เขียนกล่าวสั้นๆว่่า "ถึงแล้วจะรู้เอง" พระ 25 ศตวรรษ ในอดีตหากสังเกตุจะพบว่าไม่มีข่าวใดๆที่เป็นผลบวกทั้งๆที่สร้างมากมายมหาศาล พระ 25 ศตวรรษ หากผ่านวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2554 จะมีพุทธานุภาพเพิ่มขึ้นเป็น 10 แรง ( เท่า, X ) ดังนั้นอนาคตจะมีข่าวทางด้านบวกเกิดขึ้น​
    กลับมาเข้าเรื่องพระกริ่งที่เป็นสุดยอดของพระกริ่งที่มีพุทธานุภาพเดิมๆระดับ พลังไร้ขีดจำกัด

    1261001 พระกริ่งพลังพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัด พ.ศ.2382
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    1261002 พระกริ่งพลังพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัด พ.ศ.2382
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    1261003 พระกริ่งพลังพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัด พ.ศ.2382
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    1261004 พระกริ่งพลังพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัด พ.ศ.2382
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    1261005 พระกริ่งพลังพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัด พ.ศ.2382
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2011
  18. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    ลองทำความเข้าใจกับเรื่องอจินไตยในช่วงกึ่งกลางพระพุทธศาสนา จากข้อเขียนของ ดร.ณัฐชัย เลิศรัตนพล....

    ....................................................................................

    วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554


    124. พุทโธอัปปมาโน

    พุทโธอัปปมาโน : บารมีและพระคุณของท่าน หาที่สุดมิได้!!!.....


    กระทู้ที่ 124 นี้เป็นเรื่องยาวที่จะมาเล่า(คุย)สู่กันฟัง หากท่านใดไม่เชื่อ โปรดได้กรุณาวางเฉย คิดว่า "เคยอ่านพบ หรือเคยได้ยินมา"

    เรื่องที่จะเล่านี้ผู้เขียนได้บันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นไว้ในสมุดขบันทึกของผู้เขียน ได้สอบถาม ขอพระเบื้องบน...เมตตาสงเคราะห์ว่าจะเขียนลงกระทู้ในบล๊อกฯนี้ดีหรือไม่...ได้รับคำตอบว่าได้ ผู้เขียนจึงเขียนเพื่อให้ทราบว่า "เรื่องนี้ก็มีด้วยนะ" ถ้าไม่เชื่อโปรดวางเฉย... และเพื่อให้คนที่เชื่อในเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ได้มีกำลังใจในการสร้างกรรมดี ลด ละ เว้นจากในเรื่องไม่ดีทั้งหลาย ไม่มีเจตนาโอ้อวดหรือคุยโม้ใดๆทั้งสิ้น เพราะเรื่องนี้มีผู้รู้และอยู่ในเหตุการณ์มากมาย

    เรื่องนี้ประกอบด้วยเนื้อเรื่องเหมือนนิยาย 3 ตอน

    ตอนที่ 1 มหัศจรรย์แห่งพุทธคุณ

    ตอนที่ 2 สนทนาธรรมบอกเล่าเหตุการณ์ล่วงหน้า...

    ตอนที่ 3 พุทโธอัปมาโน




    บันทึกความจำ วันจันทร์ที่ 5 ก.ย. 2554

    ตอนที่ 1 มหัศจรรย์แห่งพุทธคุณ

    มีญาติธรรมสองท่าน คนหนึ่งมาจากโคราช อีกคนหนึ่งมาจาก จ.ตาก ได้นัดที่จะมาพบผู้เขียนแต่มีเหตุต้องเลื่อนออกไป 1 สัปดาห์ แล้วได้ทำการนัดใหม่เป็นวันเสาร์ที่ 3 ก.ย. 2554 เพื่อขอพบญาติผู้ใหญ่ในอดีตชาติที่กลับชาติมาเกิด...

    ประมาณเวลา 9:33 น.(ดูจากโทรศัพท์ที่ได้โทรพูดคุยกัน)

    ดร.นนต์: สวัสดีครับ ด๊อกเตอร์ เวลานี้ผมได้อยู่กับคุณสมบัติที่แถวๆสะพานควาย ขอสอบถามสถานที่นัดที่จะไปพบคุณลุง...จะเดินทางไปพบที่ไหน

    ผู้เขียน: จากสะพานควายให้ตรงไป....



    ดร.นนต์: ครับๆๆแล้วพบกันตามที่นัดครับ
    ดร.นนต์: "เวลา 10:04" ด๊อกเตอร์ ใช่ทางนี้...ใช่ม๊ย
    ผู้เขียน: ไปทางนี้...
    สมบัติ: (หุ หุ หุ หลงทาง ต่างจังหวัดเข้ากรุง สรุปไปไม่ถูก) ช่วยคุยกับคนขับถึงสถานที่จะไปอยู่ตรงไหน...
    ผู้เขียน: รู้จัก วัดสร้อยทองม๊ย
    คนขับ : รู้จัก สรุปว่าไปถูก
    ผู้เขียน: โล่งออก นึกในใจ สงสัยถูกเท็กซี่พาชมเมือง
    เวาลา 10:18 น.
    ผู้เขียน: สวัสดีครับ ถึงไหนแล้ว...
    สมบัติ: นั่งอยู่ข้างๆ รถตาสามแฉก ด้านข้างสถานที่นัด

    ---เมื่อผู้เขียนไปถึง ได้พบเห็นทั้งสองท่านนั่งรออยู่ริมรั้วมองมาที่รถผู้เขียน เมื่อผู้เขียนได้ลงมาจากรถกล่าวทักทาย... จึงได้พาไป...กุฏิ(ห้อง)...พบว่ามาเร็วกว่าเจ้าบ้าน...จึงได้นั่งรอ แต่นั่งยังไม่ทันก้นร้อนก็ได้รับเชิญให้เข้าไปนั่งรอในห้องแทน พอเข้าไปในห้องนั่งเข้าที่เข้าทางหยิบวัตถุมงคลขึ้นมาคุยกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน คุยกันกำลังออกรสชาด เจ้าของห้องเดินทางมาถึง ผู้เขียนจึงแนะนำผู้มาเยี่ยมเยื่อนให้รู้จัก สักพักคุณลุง(ญาติผู้ใหญ่ในอดีตชาติ)..พร้อมคุณปิเตอร์เดินทางมาถึง ผู้บันทึกจึงได้กล่าวแนะนำให้รู้จักกันอีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งขอให้ญาติธรรมทั้งสองแนะนำตนเองว่าเป็นใครในอดีตชาติและปัจจุบันอยู่ที่ใด ต่างฝ่ายต่างพบเห็นเกิดความปิติยินดีปีดา แรกพบเห็นหน้าคล้ายกับเคยพบเห็นและมีความสนิทที่เคยคบหากันประจำ(แต่จำไม่ได้)

    สรุป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้เนื้อหากระชับ
    - ความแรงของพุทธานุภาพระดับ 150 แรง( เท่า หรือ X, ) ที่ญาติธรรมที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ที่เคยอ่านในบล๊อกฯของผู้เขียน ได้มาพบในพระกรุของวังหน้า(พระปิ่นเกล้า)ในอดีตสืบทอดต่อๆกันมาจนถึงทายาทรุ่นปัจจุบัน
    หมายเหตุ ความแรงของพุทธคุณของพระสมเด็จเนื้อผงที่สมเด็จพุฒจารย์โต(วัดระฆัง) อธิฐานจิตทั่วๆไป มีความแรงเทียบค่าเท่ากับ 1 เท่า หรือ 1 X
    - ระดับความแรงของพุทธคุณ 150 เท่า ในวันนี้ไม่ได้พบเพียง 1 หรือ 2 องค์ แต่มีมากจนญาติธรรมทั้งสองที่มาจากต่างจังหวัดได้พบเห็นสัมผัสด้วยตนเองแล้วทึ่งในพลังความแรง
    - ระดับความแรงของพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัด อีกเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนเคยเขียนในกระทู้ก่อนหน้านี้ เมื่อผู้เขียนส่งพระสมเด็จเนื้อผงพิมพ์พิเศษด้านหลังฝังพระทนต์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน องค์นี้ไม่ใช่องค์เดิมที่ผู้เขียนเคยนำรูปถ่ายโชร์ แต่เป็นพระทนต์ที่มีขนาดเล็กกว่า ดร.นนต์ ได้สัมผัสและสอบถามและพูดว่า

    ดร.นนต์: มีพุทธนุภาพไร้ขีดจำกัด
    ผู้เขียน: อาจารย์ช่วยอธิฐานขอพระเบืองบน...ขอชมบารมีดูซิว่าความแรงระดังพลังพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัดเป็นเช่นไร พูดจบ ผู้เขียนสังเกตุสีหน้า ดร.นนต์ กำลังคุ่นคิดว่าจะดีหรือ ของแรงอะไรทำนองนี้ ผู้เขียนจึงพูดต่อว่า ไม่เป็นไร "ขอท่านชมบารมี"
    ดร.นนต์: นั่งอธิฐานจิตหลับตาอยู่นานสองนาน
    ผู้เขียน: หันไปมองสักพัก จึงน้อมจิตถึงพระเบื้องบน...ช่วยอธิฐานขอพระ...เมตตาสงเคราะห์ให้ญาติธรรมในที่นี้ได้ชมบารมีเพื่อจะได้มีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เมื่ออธิฐานจบสักครู่
    -ดร.นนต์ เริ่มสัมผัสถึงพระพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัด พลังอันมหาศาลที่เกิดขึ้นสั่นไหวกระเทือนไปทั้งห้อง มู่ลี่ด้านหลังห้องและด้านหน้าห้องสั่นไหวดังสนั่น
    -ผู้บันทึกสัมผัสถึงพลังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากดจนมีนศรีษะ และเมื่อหลังตามองในขณะที่เกิดพลังสั่นไหวพบแสงสว่างสีขาวสว่างทั้งห้อง


    [​IMG]


    ***เมื่อได้เวลาอันควร ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกต่างฝ่ายต่างแยกทางกันกลับ
    - ในวันนี้ญาติธรรมทั้งสองที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ตกลงว่าในวันรุ่งขึ้น วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน 2554 จะเดินทางไปสนทนาธรรมกับอาจารย์ฯของผู้เขียนเวลาประมาณ 8:30 น. นัดพบกันที่ สถานนี้ตำรวจสุทธิสาร

    บันทึกความจำ วันจันทร์ที่ 5 ก.ย. 2554
    ตอนที่ 2 สนทนาธรรมบอกเล่าเหตุการณ์ล่วงหน้า...

    ประมาณเวลา 8:05 น.(จากข้อมูลในโทรศัพท์ที่ได้พูดคุยกัน) วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน 2554
    สมบัติ: สวัสดีครับ...ขณะนี้กำลังเดินทางกำลังติดไฟแดงอยู่แยกสะพานควาย
    ผู้เขียน: ครับ สักครู่จะตามไปพบที่ สน.สุทธิสาร...
    เวลา 8:29 น.
    ผู้เขียน: มาถึงแล้วยัง...อยู่ที่ไหน...
    สมบัติ: นั่งอยู่ด้านข้าง สน. บริเวณที่จอดรถ...
    ***ญาติธรรมทั้งสองท่านขึ้นรถของผู้เขียนเดินทางไป ซอยงามดูพลีตามนัดที่ได้คุยไว้เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2554 ว่าจะไปกราบอาจารย์ฆราวาสธรรมของผู้เขียน มีอายุ 84 ปี เพื่อร่วมฟังการสนทนาธรรม
    ***ระหว่างทางที่เดินทางผู้เขียนได้กล่าวโดยสรุปว่า ไปถึงท่านเห็นฯ ท่านต้องทราบอย่างแน่นอนว่าญาติธรรมทั้งสองคนที่ไปพบเป็ฯใคร พร้อมทั้งพูดอย่างหนักแน่ว่า "ลองดู" ว่าจริงม๊ย ไปถึงสถานที่ีสนทนาธรรม...ประมาณ 9:00 น.(ลืมดูเวลา)
    ---ขณะที่อยู่ด้านหน้าของอาจารย์ฯผู้เขียน
    อาจารย์ฯผู้เขียน: จ้องหน้ามองคุณสมบัติก่อนที่จะผู้เขียนจะแนะนำ ผู้เขียนพบว่าท่านมองแล้วยิ้มและมองแบบไม่คาดสายตา สักพัก ดร.นนต์ ที่ขอตัวเข้าห้องน้ำเข้ามาสบทบ ท่านฯก็จ้องมอง ดร.นนต์ สลับคุณสมบัติ
    ผู้เขียน: สวัสดีครับอาจารย์...วันนี้ผมได้พาเพื่อน 2 ท่าน เป็นญาติโยมเก่ามาให้รู้จักและมาร่วมฟังสนทนาธรรมด้วยครับ
    อาจารย์ฯผู้เขียน: เป็นคนเคยรู้จักกันมาก่อนทั้งนั้น เวียนว่ายเกิดดับมาหลายชาติ (เป็นการยืนยันเรื่องที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ว่า ท่านฯทราบว่าใครเป็นใคร)

    ผู้เขียน: ได้นั่งฟังการสนทนาธรรมในระหว่างฟังการสนทนา ผู้เขียนสัมผัสถึงพลังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากดจนมีนศรีษะเหมือนเมื่อวาน(วันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2554 อีกครั้งหนึ่ง) จึงโน้มจิตสอบถามพระเบื้องบน...สรุปว่าใช่ จึงได้บอกกับคุณสมบัติว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน(TOP4)เสด็จมา ในเวลาไล่ๆกัน คุณสมบัติได้สอบถามสนทนาธรรมกับ อาจารย์ฯผู้เขียน 2 ครั้ง ผู้เขียนได้ฟังกล่าวได้ว่าท่านตอบปัญหาธรรมได้ตรงประเด็นและเข้าใจได้ง่าย บริเวณลานบ้านที่สนทนาธรรมมีญาติธรรมมาวันนี้มากหน้าหลายตามีเกือบร้อยคน การสนทนาธรรมที่ทำให้หลุดพ้นมีลักษณะพูดคุยผสมแนวคิด ผู้ฟังๆได้สาระของธรรมฯและมีเสียงหัวเราะปิติเป็นระยะๆ


    <TABLE style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN-LEFT: auto; MARGIN-RIGHT: auto" class=tr-caption-container cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center" class=tr-caption>
    ญาติธรรมที่มาร่วมฟังการสนทนาธรรม
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อาจารย์ฯผู้เขียน: ช่วงหนึ่งกล่าวสรุป "ธรรมเป็นสิ่งสมมุติ" เมื่อถึงแล้วจะรู้เอง เช่น ถ้าจะไปวัดระฆัง ไปนั่งเรือจากท่าพระจันทร์เพื่อเดินทางไปวัดระฆัง เมื่อขึ้นเรือ เรือเหมือนกับพระธรรมนำพาเราไปให้ถึงฝั่ง เมื่อถึงฝั่งแล้วมีใครแบกเรือเอาไปด้วย เมื่อถึงแล้วจะรู้เอง...

    ***ขณะที่พักเที่ยงได้สนทนากันในกลุ่มรวมทั้งผู้ตามมาภายหลังรวม 4 คน สรุปว่าหลวงพ่อฤาษี และพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันได้มาร่วมในการสนทนาธรรมครั้งนี้ ท่านได้อยู่จนถึงพักเที่ยงแล้วก็เสด็จกลับ ที่ผมสัมผัสได้เพราะอาการกดศรีษะทำให้คล้ายกับมึนหัวได้หายเป็นปกติ

    ตอนที่ 3 พุทโธอัปมาโน

    เมื่อรัปทานอาหารเสร็จตกลงกันว่าจะไปที่ ม.ธรรมศาสตร์ โดยคุณสมบัตินั่งรถไปกับญาติธรรมที่มาใหม่และ ดร.นนต์ นั่งรถไปกับผม โดยผมเป็นผู้ขับรถนำคันหลังตาม ตลอดทางผมสังเกตุเห็นว่ารถอีกคันได้ตามมาตลอด แต่เมื่อผู้เขียนได้ขับเข้ามาใน ม.ธรรมศาสตร์จอดรถเป็นที่เรียบร้อย
    สมบัติ: อาจารย์ไปไหน ทำไมไม่เลี้ยวซ้ายผู้เขียน: "เริ่มงง" ตอบกลับไปว่า ผมจอดรถเรียบร้อยแล้วอยู่ด้านหน้าธรรมศาสตร์แล้วคุณจอดอยู่ตรงไหน
    สมบัติ: อ้าว...ตามรถมาผิดคัน ไม่ได้มาวัดระฆังหรือ?
    ผู้เขียน: ไปทำไมวัดระฆัง ก็ไหนว่ามีญาติธรรมมานัดกันที่ ม.ธรรมศาสตร์ กลับรถมาเลย จอดที่ ม.ธรรมศาสตร์
    สมบัติ: มีคุณสัน...ได้มารอที่ร้าน...
    ผู้เขียน: ผมไม่รู้จัก ช่วยโทรฯบอกให้มาที่ศาลาที่ข้างสนามหญ้า ม.ธรรมศาสตร์ให้หน่อยและก็กลับรถมาที่ธรรมศาสตร์
    สมบัติ: ครับ

    ***วันนี้มาถึง ม.ธรรมศาสตร์ ผู้เขียนเองไม่ได้ตากแดดมา แต่มีอาการมึนหนักศรีษะเป็นอย่างมาก ได้บอกให้ ดร.นนต์ รออยู่ใน ม.ธรรมศาสตร์ ผู้เขียนจะไปรับพระที่ได้นัดไว้ 10 องค์ อีกสักครู่จะกลับมา ผู้เขียนได้ไปรับพระกริ่งจำนวน 10 องค์มามีอาการมึนศรีษะอย่างแรงมากกว่าเดิม เพราะจากการสอบถามเบื้องต้นจากพระเบื้องบนพระกริ่งเหล่านี้มีพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัด เมื่อมาถึงที่ญาติธรรมนั่งคุยกัน ผู้เขียนสังเกตุเห็นว่ามีจำนวนทั้งหมด 9 คนรวมทั้งผู้เขียน พร้อมทั้งนำพระกริ่งวางไว้บนโต๊ะแล้วส่งให้ ดร.นนต์ 1 องค์สอบถามว่า พระกริ่งชุดนี้มีพุทธนุภาพเหมือนกันหมด อาจารย์ช่วยสอบถามพระ...ซิว่ามีพลังกี่แรง ( X )
    ดร.นนต์: รับพระฯแล้วหลับตาอธิฐานอยู่พักหนึ่งลืมตาขึ้น ทำตาโตพูดว่า "พลังไร้ขีดจำกัด" ทีนี้คนรอบข้างต่างสนใจขึ้นมาทันที ในทำนอง "โอโหพระกริ่งอะไรแรงขนาดนี้"
    ผู้เขียน: ใช้ไม่ผิด พลังไร้ขีดจำกัดมีเพียง 10 องค์ ผู้เขียนเห็นแต่ละคนหันมาสนใจกันหมด จึงพูดว่า "เดี๋ยวจะเล่นปาหี่ให้ดู" ใครเข้าก็ดี ไม่เชื่อก็เฉยๆไว้ มาดูว่าใครเคยเป็นเจ้าของพระกริ่งเหล่านี้ หรือ เคยร่วมทำบุญสร้างกันมาบ้าง? ผู้เขียนจึงทำการสอบถามชื่อและถามเพิ่มว่าอดีตตนเองเป็นใครเคยมีใครเล่าให้หรือคุยให้ฟังบ้าง? สรุปครั้งนี้ มีผู้ได้ไป 5 องค์

    ***เมื่อเสร็จจากพูดคุยกัน ตกลงมีคนบอกว่าจะไปวัดระฆัง ผู้เขียนจึงกล่าวว่า จะเดินทางไปทำไม ใช้มโน(นึก)ว่าเราเข้าไปในโบสถ์แล้วก็กราบพระในโบสถ์ ผมนึกนี้ก็กลับมาแล้วสรุปทั้งกลุ่มจะเดิมทางไปไหว้พระที่วัดระฆัง ผู้เขียนนึกขึ้นได้ว่าจะไปสอบถามดูที่ตั้งโต๊ะประรำพิธีของสมเด็จโตอยู่บริเวณใด จึงไปตอบไปว่า"อ้าวไปเป็นเพื่อนด้วย"

    ***เริ่มเดินทางทางเรือ จากท่าพระจันทร์ไปขึ้นที่ท่าเรือศิริราชโดยเดินเท้าต่อเลี้ยวซ้ายไปที่วัดระฆัง เมื่อใกล้จะถึงวัดระฆังประมาณ 100 เมตร

    ดร.นนต์: พระเบื้องบน...ท่านมารอรับพวกเราที่วัด
    ผู้เขียน: ระหว่างทางมึนศรีษะตลอดทางในใจคิดว่าเป็นพระกริ่งพลังไร้ขีดจำกัด แต่พอได้รับคำพูดของ ดร.นนต์ ทำให้ได้รับพลังกดศรีษะอาการมึนศรีษะยิ่งมากกว่าเดิม ทำให้สัมผัสได้ว่ามีพระเบื้องบนมารอรับ จึงกล่าวไปว่า "ใช่มีพระเบื้องบนมารออยู่ที่วัดระฆัง อาการมีศรีษะมึนมากกว่าเดิม" เมื่อเข้าประตูวัด ผู้เขียนเห็นเจดีย์ทางซ้ายมือจึงฉุดนึกขึ้นได้ว่า ปูโตอยู่ที่วัดระฆังต้องมีเถ้ากระดูกของท่านอยู่ที่นี่ จึงได้หยุดเดินหลับข้างประตูสอบถามพระ...ว่า...เถ้ากระดูกหลวงปู่โตอยู่ที่ไหน...ซ้ายมือหรือขวามือ สรุปอยู่ซ้ายมือ ผู้เขียนได้มองหา ดร.นนต์ เมื่อพบแล้วจึงบอกว่า อาจารย์มาทางนี้ พาออกไปทางขวามือเดินวนหนึ่งรอบด้วยอาการมึนศรีษะอย่างแรง ระหว่างทางก็ชวน ดร.นนต์ ให้สอบถามว่า อยู่เจดีย์องค์ไหน ถามไปไม่ใช่ทั้งหมด จนกระทั้งวนกลับมาครบ 1 รอบ ผู้เขียนเห็นเจดีย์องค์ใหญ่อยู่ด้านหน้าจึงได้สอบถามพระ...ทราบว่าอยู่เจดีย์หลังใหญ่ จึงบอกกับ ดร.นนต์ ว่า "อาจารย์เจดีย์องค์ใหญ่ สอบถามดูไม่ผิด" ผู้เขียนเห็น ดร.นนต์ หลับตา จึงได้มองไปที่เจดีย์องค์ใหญ่เห็นด้านบนมีเป็นชั้นๆ จึงได้สอบถามจากชั้นที่อยู่ด้านบนว่า ชั้นที่ 1 ใช่หรือไม่? สอบถามไปถึงชั้นที่ 4 ได้รับคำตอบว่าเถ้ากระดูกของหลวงปู่โตอยู่ที่ชั้นนี้ จึงหันมาจะบอก ดร.นนต์
    ดร.นนต์: กลับพูดขึ้นมาก่อนว่า "ใช่อยู่เจดีย์ข้างหน้า"
    ผู้เขียน: อาจารย์สอบถามดูว่าตรงกันม๊ย ชั้นที่ 4 นับจากชั้นบนขี้นไป 1 ,2 ,3 และก็อยู่บนชั้นที่ 4 นับขึ้นไปชั้นบนเป็นชั้นที่ 6
    ดร.นนต์: ใช่ชั้นที่ 4 พระสังฆราชศรีและหลวงปู่โตอยู่ตรงกลางของชั้นนี้
    ผู้เขียน: เมื่อข้อมูลยืนยันไม่ผิดแน่นอน จึงได้เรียกอีก 6 คนที่มาด้วยกัน บอกต่อๆกันไปว่า พระสังฆราชศรีและหลวงปู่โตอยู่ชั้นที่ 4 ให้ใช้วิธีโน้มจิตแล้วนึกว่าเราลอยขึ้นไปกราบท่านข้างบน




    [​IMG]


    ผู้เขียน: จึงโน้มจิตขึ้นไปกราบเบื้องบนชั้นที่ 4 แล้วมองเห็นเป็นสีเหลืองเต็มไปหมดสุดลูกตา เมื่ออธิฐานกันเป็นที่พอใจแล้ว มีหลายคนจะไปห้องน้ำ ผู้เขียนจึงอยากจะไปบ้าง แต่พอมองไปทางห้องน้ำกลับพบว่านอกรั้วของวัดระฆังเป็นพื้นที่ของโรงเรียน... และทราบมาก่อนหน้านี้ว่า ปูโตได้ตั้งประรำพิธีอธิฐานจิตเชิญ(เรียก)เหล็กไหลมาทางอากาศที่บริเวณนี้ เมื่อออกนอกรั้วจึงสอบถามพระเบื้องบนไปหลายตำแหน่ง ผลสุดท้ายทำให้ทราบว่า อยู่ทางเดินไปห้องน้ำด้านข้างอาคารหนึ่งหนึ่ง บริเวณใกล้กับตู้โทรศัพท์ ดังรูป



    [​IMG]


    ***เมื่อทำธุระเข้าห้องน้ำเสร็จ ดร.นนต์ ชวนรวมพล จะอธิฐานขอพระ...เมตตาสงเคราะห์คณะญาติธรรม ให้มารวมตัวกันบริเวณด้านข้างรั้ววัดระฆัง ด้านหน้าเจดีย์องค์ใหญ่ เวลาประมาณ15:30-16:00 น.


    <TABLE style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN-LEFT: auto; MARGIN-RIGHT: auto" class=tr-caption-container cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center">[​IMG]

    </TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center" class=tr-caption>บริเวณด้านหน้านอกรั้วที่เป็นจุดรวมพล</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ***ผู้เขียนยืนอยู่ซ้ายมือสุด ดร.นนต์ ยืนอยู่ขวามือผู้เขียน และคุณสมบัติยืนต่อจาก ดร.นนต์ และญาติธรรมยืนอยู่บริเวณซ้ายมือถัดไปและยืนอยู่บริเวณด้านหลัง กระจัดกระจายตามพื้นที่ทำเลที่ตนเองชอบใจ

    ***ผู้เขียนได้อาราธนาบารมีพระเบื้องบน พร้อมทั้งขอพระท่านเมตตาสงเคราะห์ให้คณะญาติธรรมมีความคร่องตัวทุกประการ เพื่อเป็นประจัยให้เข้าสู่พระนิพพาน... ในขณะที่อธิฐานได้มองเห็นสีเหลืองเต็มไปหมด(ไม่ได้นึกอะไร...ฉลาดไปหมดครั้งที่ 2) และสึกอึดใจจากสีเหลืองที่เห็นเปลี่ยนเป็นสีขาวแสงสว่างมากแบบแสงนีออน ขาวไปทั่วบริเวณมองอะไรไม่เห็น หูได้ยินเสียงคุยกันดังจากคณะญาติธรรม สักครู่แสงสีขวาหายไป ผู้เขียนจึงลืมตาขึ้นหันมองไปทางญาติธรรมที่เดินทางมาด้วยกันแล้วนึ่กในใจ "นี่ละหนามนุษย์"

    ดร.นนต์: เมื่อกี้นี้ขณะที่อธิฐานมองเห็นแสงสีแดงเป็นวงแล้วหมุนเป็นวงแล้วก็เปลี่ยนสี จนสุดท้ายเห็นเป็นสีขาวทั้งหมดหนามากจนมองอะไรไม่เห็น คนที่มาวัดระฆังในวันนี้นับว่าโชคดีโดยไม่รู้ตัว อย่างช้าจะเข้าพระนิพพานในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย

    สมบัติ: ขณะที่หลับตามองเห็นวงกลมเป็นแสงสีแดงหมุนๆแล้วก็เปลี่ยนสีเช่นกัน

    ***เมื่่อเหมาะสมกับเวลา จึงได้เดินทางกลับ ก่อนจะออกจากประตูวัดระฆังเพื่อไปที่ท่าเรือ ผู้คนที่เดินอยู่ด้านหน้าหยุดเดิน ทำให้ผู้เขียนต้องหยุดเดินไปด้วยเช่นกัน มองไปทางประตูเห็นพระสงฆ์อายุน้อยเดินนำเข้ามามีหลายองค์ ผู้เขียนได้ยกมือไหว้ พระสงฆ์ที่อยู่แถวหน้าเดินผ่านไปปกติ พอมาถึงสององค์สุดท้ายพอผู้เขียนยกมือไหว้ ท่านรีบยกมือไหว้ตอบ พร้อมทั้งเดินก้มตัวลง ทำให้ผู้เขียนงง อยู่นานสองนาน ภายหลังได้สอบถามพระเบื้องบน ทำให้ทราบว่า พระสงฆ์ทั้งสองรูปได้ไหว้พระเบื้องบนที่ปกติผู้เขียนมักจะอาราธนาขอพระท่านเมตตาสงเคราะห์คุมกาย คุมจิต และคุมกระหม่อม

    ***นั่งรถจากวัดระฆังกลับมาที่ท่าเรือมหาราช ระหว่างทางเดินกลับมีแผงพระฯมากมายวางเรียงรายกัน ผู้เขียนมั่วแต่มองหาพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐมว่่ามีหรือไม่? จึงไม่ได้สนใจวัตถุมงคลอื่นๆ ขณะที่เดินนำไปก่อนหมู่คณะญาติธรรม มีญาติธรรมท่านหนึ่งบอกว่า ดร.นนต์ เรียกหา
    ผู้เขียน: เห็น ดร.นนต์ กำลังหยิบวัตถุมงคลขึ้นมาสอบถามแล้วทำหน้าตื่นๆ
    ดร.นนต์: วัตถุมงคลชิ้นนี้มีความแรงพุทธคุณไร้ขีดจำกัด
    ผู้เขียน: มองแล้วพูดว่า "อะไรเป็นไปไม่ได้"
    ดร.นนต์: ทั้งหมดที่มีไม่ว่าจะเป็นพระฯหรืออะไร มีพลังไร้ขีดจำกัดทั้งหมด
    ผู้เขียน: นึกในใจ "เกิดอะไรขึ้น" ได้ทดสอบหยิบจับ วัตถุมงคลทั้งของตนเองและผู้อื่น ล้วนมีพลังพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัด ซึ่งแปลกมากที่ดั่งเดิมพลังมีน้อยกว่านี้ เช่น 32, 62, 150 เท่า แต่กลับกลายเป็นพลังไร้ขีดจำกัด
    ดร.นนต์: พูดขึ้นว่าพระเบื้องบนทำให้ น่าจะตอนที่อยู่วัดระฆัง
    ผู้เขียน: เมื่อเดินทางกลับมาถึงที่รถที่ได้จอดอยู่ใน ม.ธรรมศาสตร์
    ---เข้าไปในรถหยิบพระเครื่องฯต่างๆที่สมเด็จโตอธิฐานจิตล้วนแล้วแต่มีพลังพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัดทั้งสิ้น จึงได้โน้มจิตถึงพระเบื้องบน...สรุปพระท่านทำให้
    ---เกิดความสงสัยว่าถ้าเช่นนั้น ตลาดพระที่ท่าพระจันทร์หากเป็นพระที่สมเด็จโตอธิฐานจิตก็มีพลังพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัด จึงได้สอบถามพระเบื้องบน...สรุปว่าไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนเดิม
    ---จึงสอบถามไปว่าพระฯของญาติธรรมอีก 5 คนที่ร่วมเดินทางไปที่วัดระฆังก็มีพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัดใช่หรือไม่ สรุปว่าเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

    ภายหลังสอบถามพระเบื้องบนขอพระท่านเมตตาสงเคราะห์ สรุปได้ดังต่อไปนี้
    - สิ่งที่ได้พบภายหลังกลับจากวัดระฆัง วัตถุมงคลที่อธิฐานโดยสมเด็จโต ไม่ว่าจะเป็นวัตถุมงคลลักษณะใดสร้างในวาระอะไร จากอดีตที่เคยสอบถามมีตั้งแต่ 1X ไปถึง 150X วัตถุมงคลที่ครอบครองโดยผู้เขียน ดร.นนท์ และคุณสมบัติ ทั้งหมดมีพลังพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัด เกิดจากพระเบื้องบนได้เปิดล๊อกวัตถุมงคลที่ได้ปิดล๊อคไว้เฉพาะ 3 คนเท่านั้น
    - เวลา 18:00 น. เพลงชาติดังขึ้น ยามลดธงชาติที่หน้า ม.ธรรมศาสตร์ลง ผู้เขียนนึกขึ้นได้ว่า โอ้บรรพบุรุษไทย จึงได้อธิฐานอุทิศส่วนกุศล หูได้ยินเสียงดังไปหมด ภายหลังคุณสมบัติบอกว่า ขณะที่ยืนเคารพธงชาติได้ยินเสียแว่วมาว่า "พรที่ได้รับไม่ได้ให้ไ้ว้เพื่อตนเอง แต่มีไว้เพื่อใช้สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้อื่น" ผู้เขียนจึงได้สอบถามพระเบื้องบนทันที...สรุป ใช่ ผู้ที่ได้รับพรนี้มีเพียง 3 คนคือ ผู้เขียน ดร.นนต์ และคุณสมบัติ ส่วนญาติธรรมที่เดินทางไปด้วย 5 ท่านไม่ได้รับ
    - พรที่ว่านี้ ณ เวลานี้ยังไม่ทราบลายละเอียดมากนัก แต่ที่ทราบคือ ถ้าหากเป็นวัตถุมงคลที่อธิฐานโดยสมเด็จโต หากคนหนึ่งคนใดใน 3 คนนี้สัมผัสและตั้งใจ วัตถุมงคลดังกล่าวจะมีพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัด

    +++ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ อาจารย์(ฆารวาส)ของผู้เขียนได้กล่าวไ้ว้ล่วงหน้าในช่วงเช้า เกี่ยวกับการสนทนาธรรมนั่งจากท่าพระจันทร์ไปที่วัดระฆัง ถึงแล้วจะรู้เอง

    +++ ก่อนหน้านี้มีญาติธรรมนำวัตถุมงคลมาให้ผู้เขียนตรวจสอบสัมผัส และหลายท่านได้รับพระฯจากผู้เขียน ก่อนหน้าวันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน 2554 มีพุทธานุภาพเท่าเดิม เพราะยังไม่ได้รับพรจากพระเบื้องบน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2011
  19. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]

    แสงสวยๆ (ขอให้คิดเพียงเท่านี้) ระหว่างการถ่ายภาพพระกริ่งองค์ต้นญาน
    ที่สร้างยุค ร.3 ปี 2382 (มีเหตุการณ์สำคัญๆมากมาย ค้นได้ตามประวัติศาสตร์ยุค ร.3) เชิญชม...

    [​IMG]

    ปล: แสงนี้คุ้นเคยมาก ณ กุฏิพ่อแม่ครูอาจารย์ วาระวันแม่แห่งชาติที่ผ่านมา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • แสง.jpg
      แสง.jpg
      ขนาดไฟล์:
      198.2 KB
      เปิดดู:
      4,030
    • แสง2.jpg
      แสง2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      143.2 KB
      เปิดดู:
      4,023
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2013
  20. naicharty

    naicharty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +394
    หลักการและเหตุผลของพ่อแม่ครูอาจารย์ในการสร้างพระพุทธปฐวีธาตุ...ซึ่งพ่อแม่ครูอาจารย์ได้มอบต้นฉบับให้ผมเป็นผู้นำมาลงเพื่อให้เหล่านักรบธรรมและผู้สนใจได้รับรู้และศึกษา...

    ๗ กันยายน ๒๕๕๔<O:p</O:p

    พระพุทธปฐวีธาตุ<O:p</O:p

    (รุ่นแก้วจักรพรรดิมณีนาคา)<O:p</O:p

    วัตถุประสงค์ เพื่อบูชาคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดามารดาฯ และเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติธรรม มีไว้เพื่อภาวนาไม่ได้มีไว้เพื่ออวดใคร เราไม่ได้ทำเพื่อ อยากให้เกิดความขลัง, วิเศษ, ศักดิ์สิทธิ์ และเชื่อเสียง แต่เราหวังประโยชน์ในการภาวนา ให้ลูกหลานชาวพุทธรู้จักภาวนา ระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ เรียกพุทธานุสสติ การได้ระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ เป็นบุญเป็นกุศล พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน ความเป็นมงคล ความสุข ความเจริญ ความร่มเย็นเป็นสุข อยู่ที่นั้น ความเป็นอัปมงคลย่อมพินาศหายไป และเทวดาย่อมรักษาผู้ประพฤติเช่นนั้น ให้เอาพระภายนอก น้อมเข้ามาภายใน แล้วใจเราจะเป็นสุข ถ้ามีพระอยู่ภายในพระภายนอกจะแขวนหรือไม่แขวนก็ไม่เป็นปัญหา แต่เรื่องของใจเป็นนามธรรม ไม่สามารถมองเห็นด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ พระภายนอก (วัตถุมงคล) ซึ่งเป็นรูปธรรมจึงถูกสร้างขึ้นมาแทนพระภายใน เพราะมองเห็นได้ด้วยตา สัมผัสได้ด้วยมือ รับรู้ได้ด้วยใจ ให้เราได้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า เพื่อนำเอาธรรมะของพระพุทธเจ้ามาดำเนิน เดินตามรอยบาทของท่าน เจตนาของเราที่สร้างพระพุทธปฐวีธาตุขึ้นมาก็เพื่อเหตุนี้ พวกเธอทั้งหลาย คุณของพระพุทธเจ้าไม่มีประมาณ วิสัยของพระพุทธเจ้าเป็นอจิณไตย อย่าไปคิดให้มาก เพราะคิดเท่าไหร่ก็หาคำตอบไม่ได้ สุดวิสัยของสาวกภูมิทั้งหลายจะรู้ได้ มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่รู้คำตอบ อีกอย่างหนึ่งที่สร้างพระพุทธปฐวีธาตุขึ้นมา เพื่ออุทิศบุญกุศล ให้เหล่าพญานาคผู้เป็นใหญ่ในบาดาล ผู้มีคุณอันหาประมาณไม่ได้ ในพระพุทธศาสนา เขาพากันพิทักษ์ รักษา ปกป้องพระพุทธศาสนา ด้วยความรัก ศรัทธา และเทิดทูน ทุกๆ พระศาสนาของพระพุทธเจ้า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทุกๆ พระองค์ เขาสมควรได้รับการยกย่อง พวกเธอทั้งหลายแม้ชาติหนึ่ง ก็เคยเกิดเป็นลูกหลานพญานาคเช่นกัน สิ่งใดที่มีบุญคุณกับพระพุทธศาสนา สิ่งนั้นก็มีบุญคุณกับเราเช่นกัน จงจำไว้ (เพราะเราคือ ลูกพระพุทธเจ้า)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เจริญพร<O:p</O:p

    พ.สุรเตโช


    .....ผมก็ขออนุโมทนาสาธุในความเมตตาของท่านด้วย...ข้าพเจ้าขอน้อมรับก้มกราบแทบเท้าพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยใจอันบริสุทธิ์...สาธุ...กราบ...กราบ...กราบ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...