หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

หลวงปู่แก้ว"แก้วสารพัดนึก"เข้าใจแล้วครับคราวหน้าต้องขอบารมีหลวงปู่บ้าง...เห็นว่าที่เคลือบรักไว้เกรงว่าคนจะขูดเอาเนื้อองค์พระไปใช้ทำเสน่ห์เพราะทราบว่าได้ผลชงัดนัก...ต้องลอง...หึหึ

จะนำไปให้ช่วยติชมนะครับ

 

ด้วยความยินดีครับ พร้อมเมื่อไหร่เดินหน้าเต็มตัวเลยนะครับ.....

 

ทุกครั้งที่ท่านนักรบธรรมนัดกันไปปฏิบัติ ผมรู้สึกปิติและอดตื่นเต้นไม่ได้เหมือนตัวเองจะได้ไปพบปะ และคารวะท่านนักรบธรรมและพ่อแม่ครูจารย์ด้วยยังงั้น แม้ยังไม่มีโอกาสพบกับหลายท่าน ก็รู้สึกสัมผัสได้ในจิตใจดีงามของท่านทั้งหลายที่แสดงผ่านตัวหนังสือมาในกระทู้นี้
คำว่า"งานใหญ่"ที่จะเกิดขึ้นอนาคตข้างหน้า ผมตื่นเต้นกับคำนี้มากครับ มงคลวัตถุที่มายังผมค่อนข้างมากในช่วงนี้ อาจจะเป็นนิมิตหมายว่าคงจะได้ร่วมวิถีธรรมกับพี่น้องนักรบธรรมในงานใหญ่ก็เป็นได้ครับ

 

- เรื่องที่ไปร่วมพระ...ท่านไม่สงเคราะห์ (ทำไมถึงไม่สงเคราะห์ต้องคุยกันลึก)
- อีกทั้งศลียังบกพร่อง
- ณ เวลาั้นั้นกรรมตามมาทัน

 

เพื่อนธรรมหลายๆ ท่านในกลุ่มพวกเรา ต่างชื่นชอบ ในพระกริ่งปวเรศ ปี พ.ศ.2411 หากเป็นพิมพ์มาตราฐานหาแล้วไม่ได้จริง ผมมีมากพอบอกมาครับไม่ต้องเกรงใจ จากที่พบพระกริ่งปวเรศ ระหว่าง ปี พ.ศ.2411 กับ ปี พ.ศ.2434 ในกำมือผม(ไม่ใช่กำมือเซียน) น่าจะเป็นสัดส่วนประมาณ 3:1

และพระกริ่งปวเรศเหล่านี้ ดังคำกล่าวของ อ.นนท์และคุณสมบัติ เคยกล่าวไว้ว่าสมบัติกลับไปหาเจ้าของเดิม เมื่อเป็นเจ้าของเดิม ก็ต้องมีมากคล้ายกับคนบางคนที่เป็นเจ้าของเดิมที่ครอบครองพระสมเด็จนั้นเอง

และบัดนี้ ถึงคิวของพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข ยุคแรกเริ่มบุกเบิก ได้เริ่มออกสู่ตลาดให้ชื่นชมกันแล้ว ผมเข้าใจว่ามีหลายสิบองค์ ใครตาดีได้ แต่ที่แน่ๆ ผมได้มา 1 องค์เข้ากรุส่วนตัวเรียบร้อย (f)

 

คุณ Phoobes ดูพวกเราผ่านลายลักษณ์อักษรได้ พวกเราก็พอจะดูคุณ Phoobes ออกมาทางลายลักษณ์อักษรได้...เช่นกับที่คุณอ๊อดกล่าวถึงนั่นแหละครับ

การเปิดตัวให้พวกเรารับรู้ตัวตนบ้างก็ดีนะครับ คือเป็นพื้นฐานในการคบหากันต่อไปในอนาคต ในกลุ่มก็ได้รับผลตอบรับว่าออกมาดีหรือร้ายอย่างไร หรือควรปรับปรุงเนื้อหาอะไรบ้าง (ของผมดีที่มีกัลยาณมิตรคอยตรวจสอบเสมอๆ)

ผมรู้ว่ามีคนที่หากินกับพระเครื่องเข้ามาดึงภาพในกระทู้นี้บ่อย คำพูดบางครั้งจึงดูเหมือนไม่ค่อยเกรงใจใคร ก็ได้โปรดอโหสิกรรมให้ผมด้วยครับ เพราะเจตนาเพื่อจะขูดกิเลสคนบางจำพวก ก็เท่านั้นเอง

โมทนาสาธุและขอบคุณครับในการติดตาม

 

คุณ wiwek โชคดีนะที่ได้พระปัญจสิริองค์สวยนี้ไป เพราะผมสุ่มหยิบออกมาจากกล่อง พอแกะดู...โอ๊โฮ...สวยมาก แต่ลืมถ่ายรูปเอาไว้

สำหรับวัตถุธาตุจากภูดานไหนั้น ก็คือสิ่งเดียวกันกับที่ท่านส่งมาให้ผมนั่นแหละครับ ผมอยากเติมเต็มให้ในสิ่งที่ท่านขาดหายไปนาน ก็เท่านั้นเอง (คิดต่อเองนะครับ) ยินดีด้วยนะครับ เพราะผมยังไม่เคยมอบให้ใครทั้งสิ้น

 

น่านซีครับ สุดยอดเลย

พักหลัง...ผมมีจิตระลึกถึงขรัวตาแสงอยู่เสมอๆเลย อาจเพราะปีติในพระองค์ดำ
ช่วงที่กลุ่มของท่านนนต์พบเจอพระกรุนี้ ก็น่าจะจะเป็นช่วงที่กลุ่มวังหน้าตื่นตัวกัน ในเรื่องประวัติ-พระพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับขรัวตาแสง (ปีเศษ)
และพี่ท่านหนึ่งในคณะก็มีส่วนในการทำประวัติขรัวตาแสงอันสมบูรณ์ด้วย

แน่นอนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคณะหลวงปู่ใหญ่บรมครูเทพโลกอุดรครับ

โมทนาสาธุครับ

 

อย่าลองเลยครับ เดี๋ยวปวดแสบปวดร้อนตามตัวไม่รู้ด้วยนะ หุหุ (แค่องค์พระก็สุดยอดแล้ว)

รู้สึกเจตนาในการเคลือบรัก ท่านคงต้องการรักษาเนื้อในองค์พระ ให้อยู่นานๆจนถึงลูกหลานเหลน เป็นร้อยๆปีอ่ะครับ

 

ยินดีด้วยนะครับ...
ขอบพระคุณครับที่ให้ความกระจ่างในหลายๆด้าน
หากท่าน ดร.พบเจอ พิมพ์พิเศษ ก็กรุณาอัญเชิญเผื่อเพื่อนธรรมทางไกลบ้างก็ดีนะครับ ผมอยากอัญเชิญไว้เพื่อการศึกษาและสืบทอดพระศาสนาต่อไป

ไม่ต้องส่งมานะครับ กระผมยินดีเข้า กท. ไปเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

 

ผมขออนุญาตแสดงความคิดเห็นสักนิดหนึ่ง เมื่อวานผมได้พาพ่อแม่ครูอาจารย์ไป ซื้อเครื่องเสียงชุดใหม่เพื่อมาแสดงธรรมต้อนรับนักรบธรรมทั้งหลาย ผมได้มีโอกาสกราบเรียนท่านเกี่ยวกับเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ ของพระเครื่องบางคนมีพระดีทำไม่ท่านไม่คุ้มครอง ท่านได้เมตตาแนะนำว่าแม้เราจะมีพระเครื่องดีขนาดไหน ทุกคนก็ไม่สามารถพ้นกรรมไปได้ ท่านจึงให้เราพิจารณาอยู่เนืองๆ ว่าเรามีกรรมเป็นของๆ ตน เราจะล่วงพ้นกรรมของตนไปไม่ได้ ฉะนั้นเรื่องที่ท่านเรากำลังประสบอยู่ให้พิจารณาเป็นธรรม สิ่งต่างๆ มีเหตุและผลซึ่งของมันกรรมจึงเป็นตัวเราลิขิต และขอให้เรารักษาจิตเราให้ดี จิตฝึกดีแล้วจะนำสุขมาให้ ครับ 12 ส.ค. 54 เจอกันที่ภูดานไหน ณ ครับ แล้วค่อยกราบเรียนท่านอีกที.......

 

ผมว่าในเรื่องของกฏแห่งกรรมนั้น ยากนักที่เราจะไปหยั่งรู้ของใครๆเขาได้ (แม้กระทั่งตัวเองก็ยังงงๆ)
อยากให้รู้แต่เพียงว่า...ทำกรรมใดไว้ ไม่ว่าภพไหนๆ ก็ได้รับผลกรรมนั้นๆ ไม่ว่าจะหนีไปเกิดในภพไหนๆ (เว้นไว้แต่ภพพระนิพพาน)
ทั้งนี้ก็ต่างวิธีการที่จะได้รับผลงาน(กรรมเก่า) ดังกล่าวมา ตามยุคสมัย ภพชาติที่เราเกิด

เรื่องนี้ทุกคนคงรับทราบกันดีอยู่แล้ว (อย่าว่าผมสอนนะ เพราะมันต้องยกขึ้นมากล่าวอ้าง) เพราะต่างเริ่มสำนึก
ระลึกถึงกรรมเก่าของตัวเองที่เคยกระทำมา กรรมหลายกรรมส่งผลข้ามภพข้ามชาติ หลายชาติทีเดียว (เพราะไม่มีการอโหสิกรรมกัน)
กรรมบางกรรมเป็นเพียงเศษกรรม เมื่อหลุดจากเศษกรรมแล้ว ไปภพใหม่...ขึ้นไปเป็นพรหมเลยก็ยังมีมากมาย
ผมจึงคิดอยู่เสมอว่า (ไม่สงวนลิขสิทธิ์)

"หากผมเคยทำกรรมไม่ดีใดๆมา ก็อยากจะรับผลของกรรมต่างๆเหล่านั้น ภายในภพนี้,ชาตินี้
เพื่อที่เราจะได้ไม่เสียเวลาชดใช้กรรรมต่างๆในภพ,ชาติต่อๆไป เพราะนานนะ กว่าเราจะเรียนรู้กฏแห่งกรรมได้เข้าใจเช่นนี้

หากภพต่อไปเราไปสู่อบายภูมิ มันจะลำบากยากแค้นยิ่งกว่านี้มากๆ เพราะไม่มีโอกาสทำกรรมดีเพื่อชดเชยกรรมเลว
(การโดนกระสุนนัดเดียวในภพนี้จึงถือว่าจิ๊บๆ)

ดังนั้น หากยังมีกรรมร้ายอันใดๆ ก็ให้มาลงในภพนี้ ชาตินี้ เมื่อเราพบเจออุปสรรค ปัญหา หรืออุบัติเหตุต่างๆ
เราจะได้ไม่เที่ยวโทษสิ่งอาศัยภายนอก (รวมทั้งวัตถุมงคล ซึ่งท่านไม่เกี่ยวข้องกับกรรมเราเลย)
โทษได้อย่างเดียวก็คือตัวเราเท่านั้น"

 

ผมขออนุญาตแสดงความคิดเห็นอีกนิดหนึ่งครับ เมื่อวานผมได้กราบเรียนถามเรื่องนี้กับพ่อแม่ครูอาจารย์ ท่านให้ความเมตตาดังนี้ว่า การที่เราได้รับหรือมีพระเครื่องดีๆ ที่คนหลายๆ คนกำลังหาอยู่ และเราได้มาโดยง่ายๆ เพราะเหตุดังนี้
1. สมบัตินั้นกลับไปหาเจ้าของเดิม
2. สมบัตินั้นเราเคยร่วมสร้างในสมัยนั้น
3. สมบัตินั้นเราเคยร่วมอธิฐานจิตด้วยในสมัยนั้น
4. สมบัตินั้นเราเคยมีส่วนร่วมอย่างใดอย่างหนึ่ง
5. สมบัตินั้นต้องการเปลี่ยนเจ้าของ และเทวดาเห็นว่าผู้นี้สมควรได้รับ เพราะเป็นผู้มีศิล มีธรรม เทวดาจึงดลใจให้เราได้นำมา หรือมีผู้นำมาให้เรากราบไหว้บูชา และเทวดาที่อารักษ์ อยู่ที่นั่นก็จะได้ร่วมกราบไหว้บูชาด้วย
นี้คือข้อความที่พ่อแม่ครูอาจารย์ ท่านได้เมตตาแนะนำ ดังนั้น เราทั้งหลายก็พิจารณาเป็นธรรมเองว่าเราน่าจะเกี่ยวข้องในลักษณะใด... ครับ... ผมก็ของแสดงความยินดีด้วยที่ทุกท่านได้วัตถุมงคลอันล้ำค่า แสดงว่าท่านต้องเป็นผู้มีศีล มีธรรม แน่นอน ของให้มีความเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปนะครับ....

 

พระสมเด็จวัดระฆังชุด "เปิดบารมีธรรม" อันมีหลากสี เนื้อหา มวลสาร สัณฐาน ธรรมชาติ และความสวยงามดั่งนี้ จะสถิตย์อยู่กับผู้ที่จะมีบารมีธรรมในอนาคต เพราะไม่ได้ยึดอยู่ในหลักของวงการพระเครื่อง แต่ยึดหลักพุทธบารมี ธรรมบารมี และสังฆบารมี ความสวยงามที่ปรากฏอยู่ภายนอกองค์พระ (Physical & complete) และความงามที่อยู่ภายในคือพลานุภาพ (Power of mind) ของพระชุดนี้ จึงสงวนไว้กับเหล่าผู้มีบุญบารมีเท่านั้น และถูกกำหนดให้เปิดเผยมากขึ้นในลำดับต่อๆไป ผู้คนจำนวนมากอาจแลดูเป็นพระยี่เกหรือพระนอกวงการ ก็ขอให้เป็นไปตามวาระจิตของผู้นั้น เพราะบางสิ่งยากที่ปุถุชนหรือแม้แต่สามัญชนจะเข้าถึงและเข้าใจนั่นเอง
ปล. ธรรมชาติเช่นนี้ ความเก่า มวลสาร แลดูง่ายมากที่สุดแล้วนะครับ เพียงแต่บางคนอาจสงสัยว่า "พระแบบนี้ก็มีด้วยหรือ???"

 

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ เนื้อแดงกวนอู สร้างวาระปี 2411 พิธีใหญ่ดังที่ท่าน ดร.ณัฐชัย ได้อธิบายไว้แล้ว พระชุดนี้สร้างถวายโดยกลุ่มวังหน้า เจ้าคุณกรมท่าควบคุมการสร้าง หลวงปู่โต องค์อภิญญา และพระ.....เสด็จร่วมอธิษฐานจิต
พระชุดนี้จึงมีค่ามากเกินกว่าจะประเมินเป็นราคาได้ครับ

 

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ปี 2411 ชุดเปิดบารมีธรรม องค์สีเขียว ก็มีความสวยงามไม่แพ้กันครับ

 

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ปี 2411 ชุดเปิดบารมีธรรม องค์เนื้อสีเหลือง ก็ทรงค่าเช่นเดียวกันครับ

 

ขอแถมพระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่มีกนก กรุทุ่งเศรษฐี กำแพงเพชร เนื้อเขียวหายาก และเนื้อน้ำตาล สวยงามมาก ให้สังเกตที่คราบดินนวล คล้ายคราบผิวแตงอยู่บนผิวหน้าพระ ประเมินค่าอยู่ที่เลขเจ็ดหลักครับ
ปล. กล่าวกันว่า พระซุ้มกอหรือแม้กระทั่งพระชุดเบญจภาคีล้วนมีความผูกพันธ์มากับเจ้าประคุณสมเด็จโต จริงเท็จแค่ไหนให้ละไว้นะครับ.....

 

พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่ ไม่มีกนก กรุทุ่งเศรษฐี กำแพงเพชร เนื้อดำมันวาว หลังกาบหมาก คราบกรุเกาะติดแน่น เป็นพระสวยงามและมีพลานุภาพครบเครื่องมากกว่าเนื้อสีอื่นๆ ผู้ใดมีพระซุ้มกอย่อมไม่มีความจน ดั่งคำจารึกในแผ่นทองว่า "มีกูไว้ไม่จน" แต่จะรวยแค่ไหนท่านไม่ได้บอกไว้.... แต่ต้องมีศีลและการงานเป็นปรกติด้วยนะครับ (มรรคองค์แปด)

 

ขอเปิดตัวพระมเหศวร กรุวัดมหาธาตุ สุพรรณบุรี พิมพ์ใหญ่ เนื้อดำตีนกาหากยาก ลงรักปิดทองเดิม คราบติดแน่น พลานุภาพต้องพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง ไม่ขออธิบาย พระองค์นี้เป็นองค์ที่ผมชอบมากที่สุดครับ