หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. สาวกธรรม1

    สาวกธรรม1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +173
    ผมเริ่มเก็บกระเป๋าแล้วครับ คือว่าเห่อครับ หุๆ พี่ๆทุกท่านเตรียมตัวยังครับ ส่วนรถยนต์เช็คความพร้อม ok แล้วครับ
     
  2. สาวกธรรม1

    สาวกธรรม1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +173
    อ้อเกือบลืมพอดีได้หนังสือ งานพระราชทานเพลิงศพ หลวงตามหาบัวมาครับ เนื่อหาประทับใจมากครับ ติดรถไว้ตลอด พี่อ๊อดคงได้อ่านก่อนใครเพื่อนนะครับ
     
  3. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    รถทัวร์จากหมอชิตมาโคราชมีสามบริษัท ออกทุกสามสิบนาที มีตลอดคืน ราชสีมาทัวร์มีรถมาก สะดวก โคราชแอร์พัฒนามีรถน้อยกว่า สุรนารีแอร์มีรถน้อยที่สุด ให้เลือกสองบริษัทแรกน่าจะสะดวกกว่า เตรียมเวลาเผื่อไว้ก็ดีจากต้นทางหมอชิต เพราะเป็นวันหยุดยาว รถโคราชไม่ต้องจองนะครับ รถวิ่งประมาณสามชั่วโมงครึ่งครับ
     
  4. สาวกธรรม1

    สาวกธรรม1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +173

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2011
  5. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ... ไม่มีภาพครับ ขอความชัดเจนด้วย ทราบแล้วเปลี่ยน (link) ...
     
  6. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    เห็นพวกท่านคุยกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย อยากเดินทางร่วมมากราบพระอาจารย์บุญสวนจัง
    หุหุ แต่จองตั๋วกลับแล้ว


    ก็ดีใจด้วยนะครับ ลงตัวเสียที ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ


    คุณซึ้งบน พูดถูกแล้วครับ ผมเป็นคนมือร้อน ใจร้อนด้วย แต่ก็สามารถเปลี่ยนกันได้เนอะ
    ผมรู้ว่ามือร้อน...ก็เเลยจ้างเจ้าของสวนมาปลูกให้เองครับ หุุหุ 55
    สงสัยที่คงแรงไม่กี่เดือน ตายเสียสองต้น :'(
     
  7. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    พูดถึงพระสมเด็จองค์ดำ ผมก็พลอยนึกถึงสมเด็จพระนเรศวร หรือองค์ดำ ที่ทรงเป็นดั่งฝ่ายบู๊
    จากนั้นก็นึกถึงสมเด็จพระเอกาทศรถ หรือองค์ขาว ที่ทรงเป็นดั่งฝ่ายบุ๋น
    ก็พลอยย้อนกลับมาหาพระสมเด็จองค์ขาวอีกองค์

    ภาพแนบ...

    [​IMG] [​IMG]
    สมเด็จองค์ดำ 1,2

    [​IMG] [​IMG]
    สมเด็จองค์ขาว องค์ธรรมกถึก , องค์อธิษฐานบารมี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2013
  8. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    329 พระธรรมกถึกแท้

    ปัญหา พระภิกษุที่เรียกว่าพระธรรมกถึก (ผู้สอนธรรม) นั้นคืออย่างไร ?
    ทำอย่างไรจึงจะเรียกว่าผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ? ทำอย่างไรจึงจะเรียกว่าผู้ถึงนิพพานในปัจจุบัน ?

    พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากภิกษุแสดงธรรมเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ รูป....เวทนา... สัญญา... สังขาร... วิญญาณ ควรจะเรียกว่าพระธรรมกถึก

    “หากภิกษุ ปฏิบัติเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ รูป....เวทนา... สัญญา... สังขาร... วิญญาณ ควรจะเรียกว่าผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม

    “หากภิกษุ เป็นผู้หลุดพ้นแล้ว เพราะเบื่อหน่าย เพราะความคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพราะไม่ถือมั่นรูป....เวทนา... สัญญา... สังขาร... วิญญาณ ไซร้ ควรจะเรียกว่า ผู้บรรลุนิพพานในปัจจุบัน”

    ธรรมกถึกสูตร ขันธ. สํ. (๓๐๒)
    ตบ. ๑๗ : ๑๙๘-๑๙๙ ตท. ๑๗ : ๑๗๔
    ตอ. K.S. ๓ : ๑๓๙-๑๔๐
     
  9. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 borderColor=#ffffff cellPadding=5 width=250 bgColor=#f4f4f4 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff align=center>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=bot2 bgColor=#f9f9f9 height=30></TD></TR></TBODY></TABLE>
    Link ที่มาของภาพ "คนนอก" ยังรู้ซึ้งถึงพระคุณ แล้ว "คนใน" เล่า..???

    ภาพนี้ ได้จากรุ่นน้องทำงานที่ UN เป็นภาพจากประเทศภูฏาน
    ภาพนี้ ประทับใจ ซาบซึ้งใจที่กษัตริย์จิกมี่ ทรงนับถือในหลวงของเรา
    และเอาเป็นแบบอย่างของพระองค์ในการปกครองประเทศ
    ถึงกับเอาพระบรมฉายาลักษณ์ไปประดิษฐานในที่สูง
    เสมอด้วยพระบรมฉายาลักษณ์แห่งพระราชบิดา
    ในที่อันควรบูชาส่วนพระองค์เห็นเพียงนี้ได้...
    แล้วคนไทยเรากันเองเล่า..?????

    <<< ข่าวที่เกี่ยวข้อง >>>

    ตั้งตารอครับ :cool:
    นับเป็นมหาบุญกุศลยิ่งของปวงชนชาวไทย
    ด้วยพระบารมีของสมเด็จพ่อหลวงของปวงชนชาวไทยโดยแท้...

    ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2013
  10. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ไม่รู้จะเตรียมอะไรดี หุหุ เตรียมใจไปเยี่ยมตลอดเล๊ย...

    คุณแม่ชม กราบนมัสการถามพ่อแม่ครูอาจารย์ว่า จะต้องเตรียมอะไรเป็นพิเศษมั๊ย...
    พ่อแม่ครูอาจารย์ก็บอกว่า...

    ก็คงให้ปฏิบัติกันตามปกติ เพราะมือเรามีเพียงสิบนิ้ว จะให้หานิ้วที่สิบเอ็ดมาอวด ดูจะไม่เหมาะ
    ก็ให้ผู้มาปฏิบัติธรรมได้พบ ได้เห็น ให้เป็นไปตามความเป็นจริงจักประเสริฐกว่า...
    เพราะเขามาปฏิบัติธรรม ไม่ได้มาหาความสุขใส่ตัวแต่อย่างใด...

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  11. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    พระสมเด็จวัดระฆัง ชุดเนื้อสีสร้างในวาระปี 2411 อธิษฐานจิตโดยหลวงปู่โต พระอภิญญาและพระเบื้องบน ตามที่เราได้เข้าใจกันมาแล้ว พระชุดนี้จัดสร้างโดยกลุ่มวังหน้า ควบคุมโดยเจ้าคุณกรมเจ้าท่า มีหลายสีเช่น สีดำ(ผงใบลาน) สีแดงกวนอู สีเขียว สีเหลือง สีขาว น้ำหนักของแต่ละสีจะอ่อนแก่แตดต่างกันไป
    ปล. พระชุดนี้ จะเป็นที่รู้จักและเกิดประโยชน์ตอนงานใหญ่ข้างหน้า จึงประเมินราคาที่เลขเจ็ดถึงแปดหลัก เพราะมีจำนวนน้อย และสวยงามมาก

    ศึกษาเพิ่มเติมจาก http://meathasitsomdejto.com/lmenu/mphakeaw.php โดยคุณเมธาศิษย์สมเด็จโต


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=900 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=880>การสร้างพระสมเด็จวังหน้า ๒๔๑๑

    [​IMG]

    วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๔๑๑ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายบรรพชิต มีกรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธ์ (กรมพระปวเรศน์วริยาลงกรณ์ในกาลต่อมา) ฝ่ายฆราวาสมีกรมพระเทเวศร์วัชรินทร์เป็นประธน และขุนนางระดับสูงมีเจ้าพระยามหาศรีสุริยวงศ์ เป็นประธาน ได้จัดประชุมกันในพระราชวังสวนดุสิต ในพระบรมมหาราชวัง ได้ตกลงยกเจ้าฟ้าจุลาลงกรณ์ กรมขุนพิชิตประชานารถ ซึ่งมีพระชนมายุ ๑๕ พรรษาขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ถวายพระนามว่า “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว”และจะจัดพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นในวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๔๑๑ โดยยกเจ้าพระยามหาศรีสุริยวงศ์เป็นผู้สำเร็จราชการไปจนกว่าพระมหากษัตริย์จะมีพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษา

    [​IMG]

    ขณะเดียวกันก็เลือกผู้ที่จะเป็นเจ้ากรมวังหน้า ที่ประชุมตกลงยกพระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ กรมหมื่นบวรวิไชยชาญ (พระโอรสในสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว พระเจ้าแผ่นดินองค์ที่ ๒ ของรัชกาลที่ ๔) ขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญสถานมงคล ตั้งแต่วันนั้น

    [​IMG]

    ในงานนี้ เจ้าพระยาภาณุวงษ์มหาโกษาธิบดี เจ้ากรมท่า ว่าที่การคลังกับการต่างประเทศ ซึ่งเป็นน้องชายของเจ้าพระยามหาศรีสุริยวงศ์ ได้ขอพระบรมราชานุญาติสร้างพระพิมพ์ขึ้นจำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์ โดยใช้พิมพ์สมเด็จวัดระฆัง ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) เป็นแม่แบบ เพื่อเป็นศิริมหามงคลเนื่องในการเสด็จเถลิงถวัลย์ครองราชสมบัติ รัชกาลที่ ๕ เพื่อแจกจ่ายแก่เจ้านายและประชาชน ที่เหลือจะได้บรรจุลงกรุในพระเจดีย์วัดพระแก้วมรกต
    การสร้างพระพิมพ์ครั้งนี้ ได้นำพิมพ์ของวัดระฆังมาส่วนหนึ่ง และทำเพิ่มขึ้นอีกมากมายเพื่อเร่งให้ได้พระ ๘๔,๐๐๐ องค์ ทันวันงาน พวกช่างวังหน้า วังหลัง วังหลวง อันมีหลวงวิจารณ์เจียรนัย และหลวงนฤมลวิจิตร เป็นหัวหน้า จึงช่วยกันทำแม่พิมพ์พระขึ้นมากมาย ซึ่งผู้เขียนยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่ามีกี่พิมพ์ เพราะหาได้ไม่ครบ พิมพ์พระเหล่านี้ส่วนมากคล้ายพิมพ์ทรงนิยมของวัดระฆัง เช่นพิมพ์พระประธาน พิมพ์เกศบัวตูม พิมพ์เศียรบาตร พิมพ์สังฆาฏิ พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์อกร่องหูยาน พิมพ์โบราณเช่น พระรอดลำพูน พระลีลาเม็ดขนุน พระซุ้มกอ พระนางพญา พระผงสุพรรณ พระปิดตา พระสังกัจจายน์ เป็นต้น
    ผงวิเศษนั้นได้จากหลวงปู่โต ปูนนั้นใช้ปูนกังไสจากประเทศจีน ซึ่งเจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี และกรมหมื่นวิไชยชาญเคยไปประเทศจีนแล้วนำมาพร้อมกับสีต่าง ๆ เพื่อสร้างเครื่องกังไสลายคราม โดยพระองค์สร้างเตาสังคโลกขึ้นในวังหน้า ดังนั้น การสร้างพระคราวนี้จึงมีการคิดใหม่ทำใหม่ นอกจากมีพิมพ์ใหม่เกิดขึ้นมากมายแล้ว ได้ทำเป็นพระหลากสี ซึ่งเรียกกันเดี๋ยวนี้ว่า”พระเบญจรงค์บ้าง พระปัญจศิริบ้าง พระสายรุ้งบ้าง
    ส่วนผสมอื่น ๆ ก็คงใช้แบบที่หลวงปู่โตท่านเคยสร้างพระสมเด็จ แต่มีวิธีทำที่ดีกว่าคือแทนที่จะใส่ครกตำ กลับใช้เครื่องรางบดยาสมุนไพรที่เป็นร่องแล้วใช้ลูกกลิ้งจานเหล็ก โยกกลับไปกลับมา จึงได้ผงที่ละเอียดมาก จากนั้นจึงนำมาผสมน้ำ และผสมสีลงไป ช่างแต่ละคนก็ผสมสีของตนเอง ดังนั้นพระแต่ละองค์จึงมีสีที่แตกต่าง ก่อนจะอัดมวลสารต่าง ๆ ลงไปก็หยิบผงตะไบทองที่เจ้าของร้านทองแถวสำเพ็งนำมาถวาย โปรยลงไปในแม่พิมพ์เล็กน้อย อัดเสร็จก็หยิบผงตะไบทองโรยทับหลังอีกนิดก็อัดอีกที จึงแกะพระจากพิมพ์วางเรียงไว้ เสร็จแล้วก็นำไปตากแดด ถ้าแดดดี พระแห้งเร็ว ก็จะเกิดรอยแตกลายงาขึ้น มากบ้างน้อยบ้าง ถ้าพระผึ่งไว้ในร่มจนแห้ง การแตกลายงาก็ไม่ปรากฏ องค์พระจะดูสวยงาม พระบางองค์ไม่มีผงตะไบทองก็เพราะผงตะไบมีจำนวนจำกัดไม่ครบจำนวนช่าง
    พระส่วนมากหลังเรียบ แต่บางองค์ก็มีประทับตราหลังคือตราครุฑบ้าง ธรรมจักรบ้าง ตราธงชาติ ตราเสมา ดอกบัว พระเกี้ยว จปร.เป็นต้น
    พระอีกส่วนหนึ่งไม่ได้ผสมหลายสี ทำแบบพระวัดระฆัง แต่มีสีขาว สีเหลือง สีเขียว สีดำ สีแดง สีฟ้าอ่อน เป็นชุด ๆ ไป พระสีเบญจรงค์มีจำนวนมากที่สุด แต่ละองค์ก็มีสีที่แตกต่างกัน ถ้าช่างพิมพ์พระเป็นคนเดียวกัน ก็ได้พระออกมาสีใกล้เคียงกัน แต่ไม่เหมือนกันสักองค์ แต่ละองค์มีความสวยงามที่แตกต่างกัน เมื่อนำมานั่งส่องนั่งดูก็เพลิดเพลินเจริญใจมิใช่น้อย สามารถสร้างจินตนาการได้หลากหลาย คุณตาประถม อาจสาคร ได้บรรยายภาพพระแต่ละองค์ของท่านไว้เข้าที แต่ผมไม่ได้จำ และไม่มีตำราพระสมเด็จปัญจสิริของท่านในมือ
    ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๔๑๑ นั้น พระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงได้ถูกนิมนต์มาร่วมพิธีที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ก็ได้มาร่วมในงานครั้งนี้ด้วย
    ในพิธีมหาพุทธาภิเษกพระสมเด็จครั้งนั้น กรมพระยาปวเรศย์วริยาลงกรณ์(พระยศสมัยหลัง) ได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สวดชยันโตและเบิกพระเนตร องค์ปลุกเสกมีสมเด็จพระพุฒาจารย์โต หลวงพ่อเงิน บางคลาน หลวงปู่คำ วัดอัมรินทร์ หลวงปู่จาด วัดภาณุรังสี ฯ ลฯ จะมีใครบ้างผู้เขียนไม่ทราบทั้งหมด งานมหาพุทธาภิเษกพระสมเด็จทำที่วัดบวรสถานสุทธาวาส มีกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญเป็นประธาน ทำพิธียิ่งใหญ่เป็นพิธีหลวง ดังนั้นพระชุดนี้จึงเป็นพระหลวง ทำพิธีถูกต้องทุกอย่าง พระคณาจารย์สุดยอดของประเทศในสมัยนั้นมาร่วมปลุกเสก จึงทำให้พระชุดนี้มีพลังอิทธิคุณล้ำเลิศ จะหาพระชุดไหนเสมอมิได้
    เมื่อเสร็จแล้วก็แจกจ่ายแก่พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ ส่วนประชาชนทั่วไปจะได้รับหรือไม่มิปรากฏหลักฐาน เพราะผู้ที่ครอบครองพระชุดนี้ได้ปรากฏในสมัยต่อมามักเป็นเจ้านายระดับสูง ต่อมาทางลูกหลานของท่านก็นำมามอบให้ผู้ที่ตนรู้จักและนับถือ ซึ่งเล็ดลอดออกมาไม่มากนัก จึงหาคนรู้จักพระชุดนี้ได้น้อย เมื่อปรากฏขึ้นก็กลายเป็นพระเหนือตาเซียน คือเซียนไม่เคยพบเห็นมาก่อนจึงปฏิเสธว่าเป็นพระนอกพิมพ์ พระทำขึ้นทีหลัง
    พระที่เหลือจากการแจกจ่ายวันนั้นได้นำบรรจุในกรุเจดีย์ทอง ระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งผู้เขียนสันนิษฐานว่าน่าจะบรรจุช่วงบูรณะวัดพระแก้ว และพระบรมมหาราชวังเมื่อ พ.ศ.๒๔๒๓-๒๔ เพื่อฉลองพระนครครบ ๑๐๐ ปี ใน พ.ศ.๒๔๒๕ การบูรณะคราวนั้นได้มีการชะลอโยกย้ายพระเจดีย์ด้วย จึงน่าจะมีการบรรจุลงกรุคราวนั้น ก่อนหน้านั้นจะเก็บพระไว้ที่ไหนมิได้ระบุไว้ในเกร็ดประวัติศาสตร์ พระอีกส่วนหนึ่งเก็บไว้บนเพดานโบสถ์วัดบวรสุทธาวาส (พิพิธพัณฑสถานปัจจุบัน) และใต้ฐานพระ ซึ่งกรุนี้แตกเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓-๒๕๒๔ เช่นกัน แต่มีพระออกมาไม่มากนัก

    กรุพระสมเด็จวัดพระแก้วแตก
    พ.ศ.๒๕๒๓ ก่อนครบรอบ ๒๐๐ ปีรัตนโกสินทร์ พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ทรงเป็นประธานในการบูรณะพระบรมมหาราชวัง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพิพิธภัณฑ์ เพื่อจัดฉลองให้ยิ่งใหญ่ ปี ๒๕๒๕ จึงระดมช่างสิบหมู่จากจังหวัดนครศรีอยุธยา อ่างทอง สุพรรณ กาญจนบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี มาทำการรื้อและบูรณะสิ่งก่อสร้างที่ทรุดโทรมให้สวยงามเหมือนเดิม
    การจะบูรณะก็ต้องมีการรื้อถอนบางส่วนที่เสียทรวดทรง ซึ่งเจดีย์สร้างมานานอาจจะเอนเอียงไป ก็ต้องปรับให้ตรง ก็ต้องรื้อเกือบทั้งหมด แล้วทำให้เหมือนเดิม เมื่อรื้อเจดีย์ทอง ก็พบเป็นโพรงลงไป ข้างในโพรงนั้นเต็มไปด้วยพระเครื่องมากมาย พวกนายช่างและคนงานจึงแอบหยิบใส่ย่ามบ้าง ปิ่นโตบ้าง นำออกมา จนข่าวเรื่องพบกรุพระในเจดีย์ทองรั่วไปถึงหูเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการก่อสร้าง จึงนำเรื่องทูลเกล้าแจ้งให้สมเด็จพระเทพทรงทราบ พระองค์จึงกำชับให้กวดขันนายช่างและคนงานทุกคนเวลาเลิกงาน อย่าให้นำพระออกไป นายช่างและคนงานจึงหาวิธีใหม่ คือเอาพระใส่ถุงเศษอิฐหินปูนทรายซึ่งเป็นขยะที่ต้องทิ้ง เอาไปกอง ๆ ไว้ตามปกติที่เคยทำ แล้วลักลอบนำออก คราวนี้สามารถนำออกได้คราวละมาก ๆ
    คนงานส่วนมากเป็นคนอีสาน ฐานะยากจน เมื่อพบของดีก็อยากเปลี่ยนเป็นเงินทอง จึงนำไปเร่ขายแถวตลาดพระท่าพระจันทร์บ้าง ตลาดพระวัดราชนัดดาบ้าง เจ้าของแผงพระบางร้านก็รับซื้อไว้มากบ้างน้อยบ้าง เพราะราคาหลักสิบ ร้านไหนมีทุนเยอะก็อาจซื้อเหมาเก็บไว้หมด เพราะวาดฝันไว้ว่าถ้าพระชุดนี้ดังแล้วรวยระเบิดแน่ ๆ บางทีไปเจอคนนอกที่ไปเที่ยวเตร่แถวนั้น เขาพบเข้าและมีเงินติดตัวมากก็อาจซื้อเหมาไว้หมด
    เหตุการณ์เช่นนี้จะดำเนินไปกี่วันไม่ปรากฏ เมื่อความทราบถึงสมเด็จพระเทพ ฯ ท่านก็สั่งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจตามแผงพระต่าง ๆ แล้วยึดคืนกลับมาให้หมด เพื่อบรรจุลงเจดีย์เหมือนเดิม ร้านไหนเก็บซ่อนทัน พ้นหูพ้นตาก็รอดไป ร้านที่ไม่ได้ซุกซ่อนไว้ แถมยังเอามาวางจำหน่ายก็ถูกยึดคืนจนหมด
    ตั้งแต่นั้นมา พระกรุวัดพระแก้วจึงเป็นพระต้องห้าม ใครมีครอบครองก็ไม่กระโตกกระตากให้ใครรู้ แม้ศูนย์พระเครื่องพันทิพย์พลาซ่ายังต้องใส่ตู้เซฟซ่อนไว้ เพาะกลัวถูกยึดคืน พระเครื่องชุดนี้จึงลับ ๆ ล่อ ๆ ไม่สามารถปรากฏองค์ให้โด่งดังได้ ประจวบกับบรรดาเซียนพระต่าง ๆ พากันกดไว้ ใครนำมาพูดนำมาเสนอถามก็บอกว่าเป็นของปลอม ของทำเทียม คนจึงหมดความสนใจกันไป
    ต่อมา เมื่อเรื่องซาลงแล้ว คนที่รู้เรื่องราวก็แอบไปกระซิบถามเจ้าของแผงพระต่าง ๆ ก็สามารถทยอยซื้อเก็บไว้มากบ้างน้อยบ้าง ตามกำลังทรัพย์ของตน บางคนใช้เวลาเก็บอยู่หลายปี ได้พระสมเด็จกรุวัดพระแก้วหลายร้อยองค์ ซึ่งมีแบบพิมพ์ต่าง ๆ แต่พิมพ์พิเศษซึ่งมีอักษรจารึกหลังนั้นมีไม่มาก

    พระสมเด็จวัดพระแก้วมี 2 กรุ
    จากการสืบสาวค้นหาเรื่องราวทราบว่า พระสมเด็จที่ออกมาจากวัดพระแก้วนั้น มี 2 แห่งด้วยกัน คือจากกรุเจดีย์ทอง พระกรุนี้สร้าง ๒๔๑๑ แล้วบรรจุในเจดีย์ทองทั้งหมด ช่วงบูรณะเพื่อฉลอง ๑๐๐ ปี และมีความเป็นไปได้ที่เจ้านายบางองค์ที่มีสมเด็จวัดระฆังจำวนมากพอ อาจใส่ลงไปในกรุนี้ด้วย เมื่อผมท่องเที่ยวอยู่ตามภาคอีสานจึงพบพระสมเด็จพิมพ์วัดระฆังที่หลวงปู่โตปลุกเสกอยู่ประปราย สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากคนงานอีสานซึ่งได้มาจากวัดพระแก้ว ต่อมานำออกมาขายให้ศูนย์พระเครื่องในราคาถูก ๆ ถ้าใครตาถึงก็สามารถแสวงหาได้ตามแผงพระทางอีสาน
    พระสมเด็จอีกส่วนหนึ่งมาจากหลังคาโบสถ์พระแก้วมรกต พระชุดนี้สร้างเป็นศิริมหามงคลฉลองครบรอบ ๑๐๐ ปี พ.ศ. ๒๔๒๕ เป็นพิธีใหญ่โตในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระที่มาปลุกเสกล้วนเยี่ยมวิทยาคมทั้งสิ้น เพียงแต่หลวงปู่โตได้จากไปตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๑๕ จึงไม่มีส่วนร่วม พระชุดนี้ไม่สามารถลงกรุเจดีย์ได้ เพาะปิดไปก่อนแล้ว จึงบรรจุลงในหีบไม้อย่างดี นำขึ้นไปวางเรียงรายบนเพดานโบสถ์พระแก้วมรกตทั้งสิ้น
    พอมาถึง พ.ศ. ๒๔๕๑-๕๒ (ร.ศ.๑๒๗) ก็มีการสร้างพระอีกชุดหนึ่ง นอกจากใช้แม่พิมพ์เดิมแล้วยังมีการแกะพิมพ์ใหม่เพิ่มขึ้นอีกหลายพิมพ์ จัดพิธีมหาพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่ในวัดพระศรีรัตนศาสดารามเช่นกัน เพื่อเฉลิมฉลองงานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อแจกจ่ายแก่ประชาชน ที่เหลือก็นำใส่หีบอย่างดี ขึ้นไปวางเรียงกันบนเพดานโบสถ์พระแก้วมรกต รวมกับพระชุด ๒๔๒๕
    ดังนั้นพระบนเพดานโบสถ์จะมีจำนวนกี่แสนองค์ก็ไม่ทราบได้ พระชุดนี้ได้ทะลักออกมาเป็นจำนวนมาก จะกี่หมื่นองค์ก็ไม่ทราบได้ เพราะใช้รถทหารขนออกมาทีเดียว หลังจากกรุเจดีย์ทองไม่นานนัก ตามลำดับของการรื้อสิ่งก่อสร้างเพื่อบูรณะนั่นเอง แต่ผู้นำออกมาไม่ใช่พวกช่างและคนงาน เพราะเป็นช่วงที่ถูกกวดขันมากที่สุด
    ดังนั้น พระที่หลวงปู่โตปลุกเสกจึงมาจากกรุเจดีย์ทอง ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก เพราะถูกเจ้าหน้าที่ตามยึดกลับคืนสู่กรุตามเดิม เล็ดลอดหูตาตามร้านค้าพระเครื่องต่าง ๆ นั้นมีจำนวนไม่น่าเกินพันองค์ และกระจัดกระจายไปสู่คนหลายคนที่ตามเก็บภายหลัง
    ต่อมา เมื่อมีคนเสาะแสวงหา คนทำพระปลอมซึ่งคลุกคลีกับร้านค้าต่าง ๆ อยู่แล้ว จึงนำแม่แบบไปทำขึ้นมาใหม่ และคิดค้นสร้างพิมพ์ขึ้นใหม่ก็มี จึง เกิดพระอีกชุดหนึ่งที่เป็นพระสี มีผงโรยทอง พิมพ์องค์ทรงชัดสวยงาม ถ้าคนไม่เคยศึกษาพระเก่าแก่มาก่อนก็ต้องเชื่อว่าของจริง
    เดี๋ยวนี้พระชุดนี้กระจายไปทั่วประเทศที่มีแผงพระ เมื่อผมเขียนเรื่องลงนิตยสาร พระวังหน้าเริ่มเป็นที่รู้จัก ของปลอมที่เขาทำไว้ขายไม่ออกจึงถูกนำออกวางตลาดสวมรอยคราวนี้ จึงมีคนเข้าใจผิดซื้อไว้หลายองค์ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็ดูไม่ออก ก็เกิดอาการตื่นเต้นมากเช่นกัน ต่อภายหลังได้นำพระชุดนี้ไปให้ผู้ชำนาญทางจิตดู พบว่ามีพลังแผ่วเบาจนแทบจับไม่ได้ เจ้าของคงนำเข้าพิธีวัดใดวัดหนึ่งที่มีการปลุกเสกพระเครื่อง และคนที่ดูของเก่าเป็นก็ฟันธงว่า เป็นพระที่ทำขึ้นราว ๒๐ ปีที่ผ่านมานี่เอง ทุกวันนี้ผมยังพบวางเป็นกอง ๆ ตามแผงพระต่างจังหวัด ใครอยากได้พระราคาถูกองค์ละร้อยสองร้อยก็สามารถไปเช่าซื้อได้ครับ

    พระจริงหรือปลอมพิสูจน์ได้ด้วยการตรวจหาพลัง
    แปลกแต่จริง พ่อค้าขายพระเครื่อง แต่ไม่เชื่อเรื่องการจับพลังอิทธิคุณในพระเครื่องว่ามีจริงหรือไม่ เขาว่าเป็นอุปาทาน แหกตา เล่นปาหี่ เขาเชื่อกล้องขยาย เชื่อพิมพ์ว่าถูกต้องตรงกันหรือไม่ เชื่อความเก่าแก่ แต่พลังอิทธิคุณเขาไม่เชื่อเลยว่าสามารถตรวจได้
    ก็พระเครื่องจะขลัง ดีวิเศษ ก็ต้องเกิดจากพลังจิตของผู้ปลุกเสก เมื่อมีพลังจิตก็ต้องใช้พลังจิตตรวจดูจึงจะรู้แจ้ง แว่นขยายก็รู้เพียงถูกพิมพ์ผิดพิมพ์ เก่าหรือใหม่ แม้ผงวิเศษที่ผสมยังไม่สามารถเอาเป็นข้อกำหนดตายตัวได้ ถ้ามีใครใช้แม่แบบของหลวงปู่ ใช้ผงวิเศษของหลวงปู่ พิมพ์พระขึ้นมาในยุคเดียวกัน แต่ไม่ได้ให้หลวงปู่โตปลุกเสก พระนั้นจะมีอิทธิเดชอิทธิคุณหรือ ถ้าหากเอาไปให้หลวงปู่อาจารย์อื่นปลุกเสก อิทธิคุณก็จะเกิดอีกอย่างหนึ่ง
    ยกตัวอย่างพระสมเด็จของยายขำ เขาเล่ากันว่ายายขำทำพระสมเด็จปลอมแล้วบรรจุกรุไว้ คนไหนรู้ว่ามาจากรุยายขำก็ไม่เลื่อมใสศรัทธา แต่ความจริงยายขำใช้แม่พิมพ์ของสมเด็จ และผงวิเศษของสมเด็จ เมื่อพิมพ์พระแล้วก็นำไปให้หลวงปู่องค์ใดองค์หนึ่งปลุกเสก แล้วนำออกจำหน่ายช่วงนั้น ซึ่งคนกำลังตื่นแสวงหาพระสมเด็จวัดระฆังเพื่อเอาไปอธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาโรคห่า แต่พระสมเด็จที่เก็บไว้ในวิหารน้อยวัดระฆังหมด ยายขำจึงรีบทำขึ้นมาจำหน่าย ได้เงินมหาศาลอยู่ แต่พระสมเด็จของยายขำกลับเด่นด้านมหาอุจ ปืนยิงไม่ออก คนที่รู้ก็แสวงหาสมเด็จยายขำ แต่จะหาอย่างไร เอาอะไรเป็นข้อสังเกต เพราะพิมพ์ก็ของวัดระฆัง ผงวิเศษก็ของหลวงปู่ทำไว้ กล้องส่องจะให้คำตอบอย่างไร ถ้าไม่ใช้พลังจิตตรวจจับ
    ยายขำเป็นแม่ครัวของวังหลัง ซึ่งสมัยนั้นอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชเดี๋ยวนี้ ท่านมีหน้าที่นำภัตตาหารมาถวายหลวงปู่ที่วัดระฆังทุกวัน ตามรับสั่งของเจ้ากรมวังหลัง เมื่อถวายแล้วก็ช่วยเขาพิมพ์พระ หรือโขลกตำผงพระ จึงสามารถรอบรู้ส่วนผสมทุกอย่างตลอดวิธีทำพระสมเด็จ และเมื่อเป็นต้นเครื่องของเจ้ากรม ไปวัดทุกวัน ก็ต้องสนิทสนมกับพระวัดระฆัง ตั้งแต่เจ้าอาวาสยันสามเณรน้อย ใคร ๆ ก็เคารพนับถือยายขำ เมื่อหลวงปู่จากไปแล้วไม่กี่ปี เกิดโรคห่า คนตายเป็นเบือ ไปจนถึงอยุธยา-ไชยนาท
    วันหนึ่งมีคนแถวอยุธยาหรือชัยนาทก็จำได้ไม่ถนัด ป่วยเป็นอหิวาต์ จะตายมิตายแหล่ กลางคืนนั้นหลวงปู่โตไปเข้าฝัน บอกว่ามึงยังไม่ถึงที่ตาย ให้รีบไปวัดระฆัง ไปเอาพระสมเด็จที่กูเก็บไว้ในวิหารน้อย เอามาอธิษฐานทำน้ำมนต์กินก็จักหาย คนป่วยก็เล่าให้ญาติฟัง เขาจึงรีบพายเรือไปวัดระฆัง จะใช้เวลากี่วันก็ไม่ทราบ แต่ได้พระสมเด็จไปทำน้ำมนต์ให้คนป่วยกินจนหายป่วย เรื่องก็ดังเป็นพลุ จากหูหนึ่งถึงหูที่สองหูที่สิบที่ร้อย ชาวอยุธยา อุทัย ไชยนาท พากันนั่งเรือมุ่งหน้าสู่วัดระฆัง หยิบเอาพระสมเด็จติดไม้ติดมือคนละองค์สององค์ จนเกลี้ยง ถามเจ้าอาวาสก็หมด ไม่รู้จะเอาที่ไหนให้อีก วัน ๆ คนมาออกันอยู่ที่ท่าน้ำวัดระฆังราวกับคนตื่นผู้วิเศษบอกหวยสมัยปัจจุบันนี่แหละ
    ยายขำทราบดังนั้นจึงไปขอแม่พิมพ์และผงวิเศษของหลวงปู่จากเจ้าอาวาส แล้วทำพระสมเด็จขึ้นมาแจก บอกว่านี่ก็เป็นสมเด็จของหลวงปู่เช่นกัน เพราะเอาผงวิเศษของหลวงปู่มาทำ และให้ครูบาอาจารย์ปลุกเสกแล้ว มีอิทธิคุณเหมือนสมเด็จที่หลวงปู่ทำ คนที่ผิดหวังจากพระของหลวงปู่โตก็ดีใจที่ยังได้สมเด็จยายขำติดมือกลับไป แต่ยายขำให้บูชาองค์ละเท่าไรไม่ทราบ เห็นมีเล่าว่ายายขำร่ำรวยขึ้นมาทันตาเห็น กลายเป็นเศรษฐินีคนหนึ่ง
    เมื่อยายขำเสียชีวิต พระที่ยายขำทำเหลืออีกหลายร้อยองค์ ลูกหลานจึงทำเจดีย์องค์เล็กตั้งริมฝั่งกำแพงติดแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อบรรจุอัฐิของยาย แล้วนำพระที่ยายสร้างบรรจุไว้ เวลาผ่านไปเกือบร้อยปี น้ำเซาะตลิ่งจนเจดีย์เอียง จึงพบพระในเจดีย์มากมาย คนจึงแตกตื่นพระกรุยายขำ แต่เจ้าอาวาสบอกว่า “เอาไปทำไมพระของยายขำ ไม่ใช่ของหลวงปู่โต” แต่คนที่แสวงหาก็มีมาก เพราะพระยายขำสุดยอดมหาอุด ทดลองกันได้ให้เห็นกับตา
    ถ้าเจอแบบพระสมเด็จยายขำก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าเป็นพระที่ทำยุคเดียวกัน นำวัตถุที่คล้าย ๆ กันมาป่นผงผสมปูนเปลือกหอย ปูนขาว เศษอิฐเก่า ๆ ผสมน้ำมันตั้งอิ้ว แล้วกดพิมพ์ออกมาแจกจ่ายจำหน่าย โดยมิได้ปลุกเสก คนถือแว่นสิบแรง ยี่สิบแรงสามสิบแรง จะมิดูเป็นสมเด็จวัดระฆังไปหมดหรือ
    ติ๊ต่างว่า คนเก่งทางดูพิมพ์พระเนื้อพระ ไปพบพระสมเด็จที่ท่านสร้างกับมือ ซึ่งท่านสร้างไว้ถึงร้อยหกสิบสามพิมพ์ หลายสิบพิมพ์(หรือเป็นร้อยพิมพ์)พวกเราไม่เคยพบเห็น แต่เกิดไปพบเข้า จะรู้หรือว่าเป็นพระที่สมเด็จสร้างขึ้นมา เมื่อไม่เหมือนที่ตนเห็นก็จะตัดสินว่า “ผิดพิมพ์ ของปลอมแต่โบราณ” หรือคนมีฝีมือทำขึ้น
    แว่นขยายตัดสินพระไม่ได้หรอกครับ ตานอกตัดสินความศักดิ์สิทธิ์ของพระไม่ได้ ต้องใช้ตาใน ถ้าคนตาบอดมีญาณสัมผัสพิเศษ แม้ไม่เห็นลักษณะของพระก็สามารถบอกได้ว่าลักษณะพลังที่สัมผัสได้นั้นเป็นอย่างไร คนส่องพระสมเด็จตระกูลวัดระฆัง วัดอินทร์ วัดใหม่ วัดไชโย เมื่อมาเจอพระสมเด็จพิมพ์วังหน้า ดูความเก่าความแก่ก็เท่ากัน แต่เอ๊ะ ทำไมเนื้อผงพุทธคุณต่าง ๆ มองไม่ค่อยพบ เอ๊ะ ทำไมพิมพ์เป็นอย่างนี้ เอ๊ะ ทำไมเนื้อพระเป็นอย่างนี้ ดูอายุใช่นะ แต่เนื้อไม่ใช่ ส่วนผสมไม่ใช่ เป็นพระผิดพิมพ์ คงมีอาจารย์องค์ใดองค์หนึ่งทำขึ้นมาในสมัยเดียวกัน เห็นมั้ย เขาบอกไม่ได้ว่าหลวงปู่โตปลุกเสก หรือใครปลุกเสก หรือยังไม่ได้ปลุกเสก

    พระเครื่องมิใช่วัตถุโบราณ คนเราแสวงหาพระเครื่องเพื่อคุ้มครองตนเอง มิได้แสวงหาความเก่าแก่ของพระเครื่อง แต่แสวงหาอิทธิคุณของพระเครื่อง ดังนั้นอย่าใส่ใจกับกล้องขยายให้มากนัก ให้ใช้พอเป็นแนวทางเท่านั้น
    มีใครทราบบ้างไหมว่า ในงานประกวดพระที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่ง พระสมเด็จที่ได้รับรางวัลที่ ๑ เป็นพระฝีมือที่ เขาทำขึ้น เมื่อได้รับรางวัลแล้ว มหาเศรษฐีคนหนึ่งบูชาไปครอบครององค์ละไม่ต่ำกว่าสิบล้านบาท เป็นเรื่องตลกในวงการที่เจ้าของพระนำมาเปิดเผยในหมู่มวลมิตรชิดใกล้ จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกที่เจ้าพ่อในวงการหลายคนมีพระดี ๆ ดัง ๆ บูชามาจากงานประกวดพระหรือจากเซียนพระระดับชาติ แต่แล้วก็ถึงจุดจบด้วยลูกปืน
    หรือจะเป็นว่า เมื่อคนเราทำชั่วมาก ๆ แม้เทวดาที่ประดิษฐานในองค์พระก็เผ่นไปก่อนแล้ว คงเหลือแต่เศษอิฐหินปูนทรายให้เขาห้อยคออยู่
    ความจริงแล้ว ถ้าคนถึงศีลถึงธรรมจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องหาวัตถุมงคลแขวนคอก็ได้ ทำบุญให้ทาน รักษาศีล ภาวนา คราใดให้รีบส่งบุญให้เทวดาที่รักษาตัวเองทุกวี่วัน เทวดาก็จะกลายเป็นผู้มีฤทธิ์อำนาจคุ้มครองท่านได้ แต่ถ้าจะหา ก็อย่าลืม พระสมเด็จวังหน้า กรุวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สุดยอดพระเครื่องในแดนดินถิ่นสยาม.
    ต่อไปพระชุดนี้จะมีราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคนเริ่มรู้จักกันมากแล้ว แต่การไปหาตามแผงพระจะได้ของปลอมซึ่งกำลังระบาด แต่คนดูเป็นก็แยกได้ว่าองค์ไหนเก่าจริง หรือทำขึ้นมาภายหลังเมื่อ 20 ปีที่แล้ว พึงทราบว่าพระเก่าแก่อายุ 100 ปี ต้องมีร่องรอยเหี่ยวย่น หรือแตกลายงาคล้ายแผ่นดินแตกระแหง แต่พระที่ทำจากปูนกังไสจะไม่มีร่องรอยเหี่ยวย่นมากเหมือนพระสมเด็จวัดระฆังซึ่งทำจากปูนขาวหรือปูนเปลือกหอย ถ้าดูไม่เป็นอย่าเสี่ยงเลยครับ

    </TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=10><!--DWLayoutEmptyCell--></TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff height=40 vAlign=center colSpan=3></TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff height=71 vAlign=top colSpan=3>เมธาศิษย์สมเด็จโต
    820 ถนนใจผาสุก ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000
    โทรศัพท์ 081-1234449 , 081-1234447 Email : webmaster@meathasitsomdejto.com

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2011
  12. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>IT Man, somlatri+, ซึ้งบน+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีครับ...
    upload file กันได้หรือเปล่าครับ ?
    ของผม upload error...
     
  13. สาวกธรรม1

    สาวกธรรม1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +173
    UP LOAD ไม่ได้เหมือนกันครับพี่ชาย ว่าจะให้ดูสมเด็จองค์ดำ(ของผม) สมเด็จองขาว(ของภรรยา)ซักหน่อย:'(
     
  14. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    พื้นที่เต็มหรือเปล่าไม่รู้เนอะ...หุหุ
    ยืมรูปหลวงปู่เจ้าประคุณสมเด็จโต ของท่าน ดร. มาลองลงดูดิ๊
    เห็นบอกว่าแรงกว่าสมเด็จวัดระฆังตั้ง 25 เท่า! สงสัยต้องขออนุญาตยืมมาทดลองสักองค์เสียแล้ว หุหุ :cool:

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2011
  15. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่เนื้อสีดำผงใบลาน เนื้อแดงกวนอู เนื้อเขียว และเนื้อเหลือง สร้างในวาระปี 2411 โดยกลุ่มวังหน้า เจ้าคุณกรมท่าเป็นผู้ควบคุมการสร้าง หลวงปู่โต องค์อภิญญา และพระเบื้องบนเสด็จมาอธิษฐานจิต พระชุดนี้สวยงามากและมีน้อย ผมจะเก็บไว้เพื่องานใหญ่ข้างหน้าครับ


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2011
  16. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
  17. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
  18. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181
    สวัสดีครับท่านนักรบธรรมทุกท่าน นานๆจะได้กล่าวทักทาย ผมได้คอยติดตามรับความรู้จากท่านทั้งหลายเก็บสะสมมาเรื่อยๆด้วยความศรัทธา แต่ก็ตามไม่ทันสักทีด้วยภูมิธรรมของแต่ละท่านที่มากมายเหลือเกิน ก็จะพยายามต่อไปครับ อาจจะไม่ได้แสดงตัวนักนะครับแต่ก็ติดตามตลอด ด้วยภาระกิจในชีวิตทำให้มีเวลาส่วนตัวน้อยและไม่เป็นเวลา แต่ก็อยากได้มีโอกาสได้ร่วมในวิถีทางธรรมกับทุกท่าน ก็คงมีสักวันนะครับ
    ด้วยจิตคารวะทุกท่านครับ
     
  19. ----

    ---- สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +22
    ผมได้รับพระแล้ว ขอบพระคุณคุณสมบัติมากครับ เป็นพระสมเด็จที่สวยมากรู้สึกว่าจะมีผงตะไบทองเยอะมาก(เข้าใจไม่ผิดใช่ใหมครับ) และขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่จะได้ร่วมเดินทางไปในครั้ังนี้
    สอบถามท่านสมบัติหน่อยว่าวัตถุธาตุจากภูดานไหนั้นคืออะไรหรอครับ และจะบูชาอย่างไร
     
  20. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    ใช่แล้วครับแบ่งปันกันชื่นชมสักระยะหนึ่งก็ยังดี อย่างน้อยก็เคยมี เคยรู้เคยเห็นสัมผัสมาแล้วว่าการได้ครอบครองชื่นชมของดี ของวิเศษเป็นเช่นไร... เป็นสุขลึกๆครับ(นั่งยิ้ม นั่งปลื้มใจในวาสนาทั้งวัน) นับว่าเป็นช่วงแห่งการศึกษาและสะสมของใหม่ วางของเก่า(ไว้ที่เดิมก่อน หึหึ...)ช่วงนี้มาโปรดบ่อยเลยครับเตรียมขัอมูลศึกษาไม่ทันเลยหล่ะครับ...ชอบครับ

    สำหรับองค์ดำนี้.....สวยงามเข้มขลัง ดุดันสมชื่อจริงๆ ขอบคุณครับท่านนนต์
     

แชร์หน้านี้

Loading...