หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>9 สิ่งที่ควรสอนลูกในช่วงตรุษจีน/สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 กุมภาพันธ์ 2554 06:46 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000013223&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ย่างเข้าสู่เทศกาลตรุษจีนทีไร ครอบครัวของดิฉันจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะดิฉันมีเชื้อสายจีน จึงคุ้นเคยกับเทศกาลตรุษจีนมาตั้งแต่เล็ก มีภาพความทรงจำเป็นช่วงวันที่มีความสุขเพราะได้หยุดเรียน ได้พบเจอญาติพี่น้องจำนวนมากโดยเฉพาะเด็กในวัยเดียวกันที่ต่างก็ติดตามครอบครัวมาไหว้บรรพบุรุษด้วย ทำให้ได้วิ่งเล่นกัน ได้กินอาหารอร่อยๆ และที่สำคัญได้อั่งเปาอีกต่างหาก

    แต่ถ้าถามว่าแล้วรู้ที่มาที่ไป รวมถึงความสำคัญมากน้อยแค่ไหนของเทศกาลนี้ ก็ต้องตอบว่ามาเรียนรู้เมื่อโตแล้ว ฉะนั้น เมื่อถึงวันที่มีลูกก็เลยไม่อยากปล่อยเรื่องการเรียนรู้ผ่านเทศกาลนี้ไปอย่างลอยนวลแน่ๆ

    เพราะ…พ่อแม่มีส่วนสำคัญในการปลูกฝังให้ลูกมีความทรงจำแบบไหนในช่วงเทศกาลตรุษจีน

    หนึ่งถือโอกาสอธิบายอย่างง่ายๆ ให้ลูกรู้ถึงขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวจีน และเทศกาลตรุษจีนมีไว้เพื่อให้ลูกหลานได้กราบไหว้บรรพบุรุษ ได้เรียนรู้เรื่องความกตัญญูกตเวที และการที่ญาติพี่น้องได้มาพบปะกัน ก็เพื่อให้ลูกหลานได้รู้จักกันด้วย เพราะเมื่อใครแต่งงานออกเรือนไปแล้วต่างก็มีลูกหลานของตนเอง ก็ควรจะได้ทำความรู้จักกันไว้

    สอง ผู้ใหญ่ต้องเตรียมทำอาหารสำหรับไหว้เจ้า ก็ควรให้เด็กๆ ได้มีส่วนร่วมในเรื่องการจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ อาจจะเริ่มตั้งแต่ให้เขามีส่วนร่วมในการคิดเมนู จากนั้นก็ชวนกันไปเลือกซื้อวัตถุดิบในการทำอาหารโดยที่คุณแม่ต้องดูให้เหมาะกับวัยของลูกด้วย ถ้าเด็กเล็ก ก็ให้จัดเตรียมอุปกรณ์ง่ายๆ ไม่เป็นอันตราย ซึ่งระหว่างหยิบจับสิ่งของก็สามารถอธิบายให้ลูกรู้จักสิ่งของนั้นๆ ได้ด้วย ถ้าเด็กโตก็ให้เตรียมอุปกรณ์ได้มากขึ้น แล้วสอนเรื่องจำนวนและขนาดไปด้วยก็ได้ หรืออาจจะให้เขาจัดวางอาหารบนโต๊ะ เขาก็จะเกิดความภาคภูมิใจที่มีส่วนช่วยผู้ใหญ่ ที่สำคัญอย่าลืมคำชมลูกด้วยละกัน

    สาม เมื่อเตรียมวัตถุดิบเสร็จก็ชวนลูกเข้าครัว เป็นช่วงเวลาที่ดีให้ลูกมีส่วนร่วมในการทำอาหารด้วย อาจให้เขาช่วยเด็ดผัก หรือล้างผักอย่างถูกวิธี เป็นการฝึกให้ลูกหัดเข้าครัว ได้เห็นขั้นตอน กระบวนการของอาหารที่ดิบเมื่อนำมาปรุงให้สุกมีวิธีการอย่างไรบ้าง และระหว่างที่คุณแม่กำลังปรุงอาหารก็สอนลูกไปด้วยว่าแม่กำลังทำอะไร เช่น แม่กำลังต้มแกงจืด แม่กำลังใส่น้ำปลาเพื่อให้มีรสชาติเค็ม ใส่น้ำตาลเพื่อให้มีรสชาติหวาน เขาก็จะได้เรียนรู้ถึงเครื่องปรุง และเข้าใจกระบวนการของอาหารที่ต้องทำให้สุกก่อนรับประทาน

    สี่ สอนเรื่องการไหว้เจ้า แต่ละบ้านก็มีพิธีกรรมและความเชื่อที่แตกต่างกันไป บางบ้านมีการกราบไหว้ฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ ไหว้พระพุทธรูปในบ้าน และไหว้บรรพบุรุษ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ในการบอกเล่าให้เขารู้ว่าลักษณะการไหว้แต่ละแห่งแตกต่างกันอย่างไร รวมไปถึงการจุดธูปเทียนที่ต้องมีความระมัดระวัง เพราะอาจเกิดอันตรายได้ หลังจากเสร็จพิธีก็อาจจะมีการเผากระดาษเงินกระดาษทอง ก็ต้องบอกที่มาที่ไป และวิธีการเผากระดาษอย่างถูกวิธีด้วย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ห้า สอนมารยาทบนโต๊ะอาหาร เพราะต้องรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่นจำนวนมาก สอนเรื่องการตักอาหารให้นึกถึงคนอื่นด้วย หรือไม่ควรพูดคุยในขณะรับประทานอาหาร ยิ่งถ้าเด็กๆ ได้มีส่วนในการคิดเมนูตั้งแต่แรก ได้จัดเตรียมอุปกรณ์หรือช่วยเหลือคุณแม่ด้วยแล้ว มื้อนั้นจะเป็นมื้อพิเศษของเขาอย่างแน่นอน และเมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว อย่าลืมให้เด็กๆ ช่วยกันเก็บถ้วยชามให้เรียบร้อยด้วยนะคะ

    หก รู้จักแบ่งปันผู้อื่น ในวันนั้นจะมีอาหารจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะกินไม่หมด เราควรจะสอนให้เขานึกถึงคนอื่นก่อนที่จะรับประทาน เช่น อาหารเรามีมากมายจะแบ่งไปให้ใครดี เพื่อให้เขานึกถึงผู้อื่นด้วย เช่น เพื่อนบ้าน พี่ยามรักษาความปลอดภัย หรือแม่บ้าน ซึ่งจะว่าไปแล้วส่วนใหญ่ทุกบ้านมักจะไหว้ขนมเข่ง ก็เล่าให้เขาฟังว่า คนจีนเรียกขนมเข่งว่าเหนียนกาว คำว่ากาวแปลว่าขนม เหนียนกาวจึงแปลว่าขนมประจำปี ทำมาจากข้าวเหนียว มีที่มาเพื่อความแน่นเหนียว ด้วยความเชื่อที่ว่านำขนมมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ก็เพื่อความกลมเกลียว และทำให้หวานเป็นพิเศษ ใส่กันมาเป็นเข่งเพื่อแบ่งให้แก่เพื่อนบ้าน หรือผู้อื่นด้วย

    เจ็ด ช่วงเวลาสำคัญที่รอคอยคือการได้รับอั่งเปา แม้เด็กจะรู้ว่าต้องได้ทุกปี แต่ก็ต้องสอนเรื่องมารยาทว่าไม่ควรไปขออั่งเปาผู้ใหญ่ ให้ผู้ใหญ่เป็นฝ่ายให้เอง และถ้าผู้ใหญ่ให้อั่งเปาเมื่อไร ก็ต้องยกมือไหว้และกล่าวคำว่าขอบคุณด้วยทุกครั้ง รวมไปถึงการเก็บรักษาเงินด้วยความระมัดระวัง เพราะเด็กวิ่งเล่นมักเผลอเรอทำหล่นหาย

    แปด สอนให้ลูกวางแผนเรื่องการออมเงิน หรือการใช้เงินอย่างเหมาะสม คุณอาจจะจูงลูกไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อเก็บออมเงินจำนวนหนึ่ง ให้เขาได้เรียนรู้จักการเก็บออมมีหลายวิธี หรืออาจจะหากระปุกออมสินให้เขา แต่เด็กมักจะเรียกร้องขอซื้อของ ก็ควรสอนให้เขารู้จักการวางแผนการใช้เงินด้วย ว่ามีเงินอยู่เท่านี้ ควรเก็บออมเท่าไร และซื้อของเท่าไร

    เก้า สอนเรื่องความตาย เด็กจำนวนไม่น้อยที่สงสัยเรื่องความตาย พ่อแม่อาจนำเอาพิธีกรรมในวันนั้นมาสอนเรื่องความตายให้กับลูกก็ได้ว่า เมื่อคนเราทำดีตายแล้วก็จะได้ไปสวรรค์ ลูกหลานที่ดีก็จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ และระลึกถึงอยู่เสมอ

    ใกล้ตรุษจีนแล้ว พ่อแม่สร้างความทรงจำที่ดีและออกแบบการเรียนรู้อย่างสนุกในช่วงเทศกาลตรุษจีนได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    ก่อนปีใหม่

    ทางบริษัทฯ ได้นิมนต์ท่านมาสอนธรรมะ เรื่องหลักการบริหารงานในโรงงาน
    เมื่อก่อนไม่เคยได้รับฟังท่านบรรยายธรรม แต่พอได้ฟัง
    ต้องยอมรับจริงๆๆ ว่าเหนือคำบรรยายจริงๆๆ ครับ

    โมทนาสาธุ
     
  3. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ถ้าได้ไปศึกษาถึงประวัติท่านก็จะอึ้งครับ นับว่าเป็นมหาปราชญ์ในยุคปัจจุบันโดยแท้ ท่านสามารถนำเรื่องที่เข้าใจได้ยากมาสอนธรรมะให้เข้าใจได้โดยง่าย
    โมทนาสาธุครับ
     
  4. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    เมื่อสักครู่มีผู้หลักผู้ใหญ่โทรมาแนะนำทางออกของปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ขณะนี้

    "ใครจะเชื่อ ใครจะศรัทธาอะไร ถ้าเป็นสิ่งที่ดีงามก็ปล่อยเขาไป แต่อย่าไปทิ้งคุณงามความดีที่เคยปฏิบัติมา ให้ก้าวต่อไป"

    ซึ่งผมน้อมรับและจะกระทำให้ดียิ่งๆขึ้นไปจนกว่าจะหมดวาระหน้าที่ แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นที่จะต้องเสียสละส่วนน้อย เพื่อประโยชน์ของคนหมู่มาก ก็จำต้องกระทำ

    หญ้า แม้เป็นพืชต้นเล็กๆ แต่เพราะมีความทนทานธาตุทรหด จึงสามารถแพร่พันธุ์ไปได้ทั่วแผ่นดินฉันใด มนูษย์ก็เช่นเดียวกัน แม้ไร้กำลังทรัพย์ กำลังความรู้ ความสามารถ แต่หากมีความอดทนแล้ว ย่อมสามารถฝึกฝนพัฒนาตนเอง ให้ประสบความสุขความสำเร็จในชีวิตได้ฉันนั้น" พุทธภาษิต

    ผมเชื่อในเรื่องหนึ่งว่า...ชั่วชีวิตหนึ่งๆของพวกเรา ยากที่จะได้มาซึ่งความสมบูรณ์พร้อมในเวลาเดียวกัน
    มีได้ มีเสีย ไม่มีความสำเร็จอะไรที่จะได้มาโดยง่าย ต่างต้องผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านอุปสรรคนานับประการ
    คิดว่า...เดี๋ยวมันก็จะผ่านเลยไป เป็นอดีต
    คิดว่า...สรรพสิ่งเป็นบทเรียนให้เราได้เสมอ ทั้งสิ่งดีหรือสิ่งไม่ดี
     
  5. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ตำนานธารพระกรแก้ว ของสมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน
    และการบังเกิดแห่งธารพระกรแก้ว และผ้าบังสกุล
    พระครูสิทธิสังวร (วีระ)รวบรวม เรียบเรียง

    [​IMG]

    ครั้งหนึ่ง พระบรมศาสดา เสด็จอยู่ในสำนักอุรุเวลกัสสปะ เพื่อคลายทิฏฐิ ครั้งนั้นได้มีบุรุษ นำเอาศพของนางปุณณะทาสีมาทิ้งไว้ที่อามสุสาน ป่าช้าผีดิบ ในป่าอุรุเวลา เสนานิคม ครั้งนั้น พระบรมศาสดาทรงดำริที่จะ ทำผ้าสังฆาฏิ ลำดับนั้น ท้าวสักกะเทวราช ทรงทราบความดำริ ใน พระทัย ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยพระทัย ของพระองค์แล้วจึงทรงนำไม้ธาร พระกรไผ่ยอดตาล จากดงไผ่ยอดตาล ออกมาจากป่าใกล้สำนักอุรุเวล- กัสสปแล้วได้ทูลพระบรมศาสดาว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์ขอถวายไม้ ธารพระกรแก้ว ไผ่ยอดตาลนี้ แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อใช้พิจารณาผ้า มหาบังสุกุลพระบรมศาสดาได้ไม้ธารพระกรแล้ว ทรงเสด็จไปยังอามสุสานป่าช้าผีดิบ อันเป็นที่ทิ้งศพนางปุณณะทาสี เป็นเวลา ๗ วันแล้วที่ศพนางปุณณะทาสีอยู่ในอามสุสาน ป่าช้าผีดิบนี้ ศพนั้นเน่าแฟะแล้ว คลาคล่ำไปด้วยหมู่หนอน ส่งกลิ่นเหม็นตลบ เมื่อพระบรมศาสดาถึงป่าช้าผีดิบ พระบรมศาสดาทรงเข้าไปประทับยืนใกล้ศพนางปุณณะทาสี พระหัตถ์ซ้ายของพระบรมศาสดา ถือไม้ธารพระกรแก้ว ไผ่ยอดตาลปลายไม้ธารพระกรแก้ว ยืดยาวไปยันศพนางปุณณะทาสี พระหัตถ์ขวาของพระบรมศาสดายื่นไปข้างหน้าทรงพิจารณาอสุภสัญญาแล้วทรงชักผ้ามหาบังสุกุล ขณะนั้นมหาปฐพีได้ไหวถึงน้ำลองแผ่นดิน พระบรมศาสดา ทรงถือเอาผ้า ที่เขาคลุมร่างนางปุณณะทาสี ที่เขาทิ้งแล้ว มาเป็นผ้ามหาบังสุกุล พระบรมศาสดา ทรงสลัดสัตว์เล็กๆ ประมาณหนึ่งตุมพะ แล้วทรงถือเอาผ้ามหาบังสุกุลออกมาจากป่าช้า ทรงทำกิจที่ทำได้ยากแล้ว แต่นั้นมาอามสุสาน ป่าช้าผีดิบ ป่าอุรุเวลาเสนานิคม ก็ไม่มีผู้ใดนำเอา ซากศพไปทิ้งอีก ด้วยเหล่าเทวดา และเหล่านาคปิดบัง คุ้มครองสถานที่นี้ไว้ เพราะไม่สมควรที่จะทิ้งซากศพใครอีก เนื่องจากเป็นภูมิสถานมงคล อันสมควรแก่ พระศาสดาเท่านั้น บรรดาวิญญาณ ที่อยู่ในป่าช้าผีดิบ ทั้งปวง เมื่อพระศาสดา ทรงพิจารณา ผ้ามหาบังสุกุลแล้ว ต่างก็พากันไปจุติในสุคติภูมิกันทั้งสิ้น


    [​IMG]

    ภาพธารพระกรแก้ว (ไม้เท้าพระพุทธเจ้า) ณ พิพิธภัณฑ์กรรมฐาน สมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน วัดพลับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2011
  6. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]

    ตำนานธารพระกรของ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร
    พระครูสิทธิสังวร (วีระ ) รวบรวม เรียบเรียง

    ตำนานธารพระกร ของสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) สืบทอดมาแต่องค์ต้น กรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ฝ่ายเถรวาทซึ่งถือตามคติที่พระอรหันต์พุทธสาวก ที่ได้วางหลักพระธรรมวินัย และธรรมปฏิบัติเป็นแบบแผนไว้ เมื่อครั้งปฐมสังคายนา และนับถือแพร่หลายในประเทศ ไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา คือพระราหุลเถรเจ้า นับเป็นบริโภคเจดีย์ ของสำคัญทางพระพุทธศาสนา ฝ่ายหินยาน แบบเถรวาทที่สืบทอดผ่านยุค ผ่านสมัย มาหลายยุคตั้งแต่ยุดพุทธกาล มาลังกาทวีป มายุคศรีทวารวดีมาสู่ยุค สุโขทัย ยุคอยุธยา และมาถึงยุครัตนโกสินทร์

    ข้าพเจ้าเห็นว่าถ้าไม่พิมพ์ตำนาน ไม้ธารพระกร ไผ่ยอดตาลออกไป คุณค่าทางประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนาก็จะเสื่อมศูนย์ไป และหายไปจากความทรงจำในที่สุด ตำนานธารพระกรของสมเด็จพระสังฆราช (สุกไก่เถื่อน) สืบทอดมาจากพระราหุลเถรเจ้า องค์ต้นกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ แบบหินยานฝ่ายเถรวาท

    [​IMG]ภาพ

    ธารพระกร ของสมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน และธารพระกร คู่พระบารมี คู่พระกรรมฐาน เกิดแก่ท่านพระราหุลเถรเจ้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    โมทนาสาธุครับ

    "ใครจะเชื่อ ใครจะศรัทธาอะไร ถ้าเป็นสิ่งที่ดีงามก็ปล่อยเขาไป แต่อย่าไปทิ้งคุณงามความดีที่เคยปฏิบัติมา ให้ก้าวต่อไป"

    ผมชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  8. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
  9. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ในวาระขึ้นปีใหม่จีน ก็อยากเชิญชวนพุทธศาสนิกชนไปแสวงบุญสักการะพระพุทธบาท 4 รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ผมเองก็จะไปอันใกล้นี้เช่นกัน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ประวัติและที่มาของวัดพระพุทธบาทสี่รอย ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

    คำบูชาพระพุทธบาทสี่รอย
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (ว่า 3 จบ)
    สาธุ สาธุ โกสัมพิยัง อะวิทูเร เวภาระ ปัพพะเต
    กกุสันโธ โกนาคะมะโน กัสสะโป โคตะโม
    ปาทะ เจติยัง ชินะธาตุ จะฐะ เปตวา อะหัง วันทามิ ทูระโต

    คำแปล สาธุ สาธุ ข้าพเจ้าขอวันทา นมัสการเจดีย์ คือรอยพระพุทธบาท และพระชินธาตุเจ้าทั้งหลายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า พระกกุสันโธ โกนาคะมะโน กัสสะโป และพระสิทธัตถะ โคตะโม ที่ประดิษฐานตั้งไว้ ณ. ภูเขาเวภารบรรพตนี้ ตลอดกาลนานเทอญ

    ตำนานพระพุทธบาท 4 รอย
    เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในศาสนาปัจจุบันนี้ได้เสด็จจารึกประกาศธรรม และโปรดเวไนยสัตว์มายังปัจจัยตะประเทศ (ประเทศไทยในปัจจุบัน)จนกระทั่งมาถึงเทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศ ชื่อเขา เวภารบรรพต ซึ่งขณะนั้นได้เสด็จพร้อมกับพุทธสาวก 500 องค์ และได้แวะฉันจังหันอยู่บนเขา เวภารบรรพตแห่งนี้ เมื่อพระพุทธองค์ฉันจังหันเสร็จ ขณะประทับอยู่ที่นั้น ก็ได้ทราบด้วยญาณสมาบัติว่าบนเทือกเขาแห่งนี้ ได้มีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ามาประทับอยู่บนก้อนหินก้อนใหญ่คือ พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้ภัทรกัลป์นี้ แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงเล็งดูรอยพระพุทธบาทแห่งพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ , พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ , พระพุทธเจ้ากัสสปะ อันมีในที่นี้พุทธสาวกทั้งหลาย มีพระสารีบุตรเป็นประธานเมื่อเห็นเช่นนี้จึงทูลถามว่า พระพุทธองค์ทรงเล็งดูด้วยเหตุใด

    พระพุทธองค์จึงตรัสตอบว่า
    ดูก่อนท่านทั้งหลายสถานที่แห่งนี้แม้นว่าพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ ที่ล่วงมาแล้วในอดีตกาล ก็มาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี่ทุกๆ พระองค์ และ แม้นว่าพระศรีอริยเมตไตร ก็จักเสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี่ และจักประทับรอยพระบาท 4 รอยให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว ( คือประทับลบรอยทั้ง 4 ให้เหลือรอยเดียว )

    เมื่อพุทธองค์ตรัสแก่สาวกทั้งหลาย เสร็จแล้ว พระองค์ก็เสด็จไปประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ จึงมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ จึงเกิดเป็นพระพุทธบาท 4 รอย

    เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์นั้นแล้วก็ทรงอธิษฐานว่า
    ในเมื่อ (เรา) ตถาคตนิพพานไปแล้ว เทวดาทั้งหลายก็จักนำเอาพระธาตุของตถาคต มาบรรจุไว้ที่รอยพระพุทธบาทที่นี่ ในเมื่อตถาคตนิพพานไปแล้ว 2000 ปี พระพุทธบาท 4 รอยนี้ก็จักปรากฏแก่ปวงชนและเทวดาทั้งหลาย ก็จักได้มาไหว้และบูชา

    เมื่อทรงอธิษฐานและทำนายไว้ดังนี้แล้วพระพุทธองค์ก็เสด็จไปเชตุวันอารามอัน มีในเมืองสาวัตถีนั้นแล เมื่อพระพุทธเจ้านิพพานไปแล้วเทวดาทั้งหลายก็นำเอาพระธาตุของพระพุทธองค์มา บรรจุไว้ที่พระพุทธบาท 4 รอยเมื่อพระพุทธองค์นิพพานล่วงมาแล้วประมาณ 2000 วัสสา

    เทวดาทั้งหลายต้องการอยากให้พระพุทธบาท 4 รอย ปรากฏแก่คนทั้งหลายตามที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานไว้ ก็จึงเนรมิตเป็นรุ้งตัวใหญ่ (เหยี่ยว) ก็บินลงจากภูเขาเวภารบรรพต อันเป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธบาทสี่รอยในปัจจุบันนี้เพื่อบินลงไปเอาลูกไก่ของ ชาวบ้าน ( คนป่า ) ที่อยู่ตีนเขาเวภารบรรพต แล้วก็บินกลับขึ้นไปสู่ยอดเขา มันก็โกรธมากจึงตามขึ้นไปคิดว่าจะยิงเสียให้ตาย มันก็คิดตามไปค้นหาดู แต่ก็ไม่เห็นรุ้งตัวนั้น แต่เห็นรอยพระพุทธบาท 4 รอยอันอยู่พื้นต้นไม้และเถาวัลย์

    พรานป่าผู้นั้นก็ทำการสักการะบูชาเสร็จแล้วก็ลงจากภูเขา พอมาถึงหมู่บ้านก้เล่าบอกแก่ชาวบ้านทั้งหลายฟัง ข้อความอันนั้นก็ปรากฏสืบๆ กันไปแรกแต่นั้น คนทั้งหลายที่ทราบก็พากันไปสักการะบูชามาก แต่นั้นมาจึงได้ชื่อว่าพระบาทรังรุ้ง (รังเหยี่ยว)

    ในสมัยนั้นมีพระยาคนหนึ่งชื่อว่า พระยาเม็งราย เสวยราชสมบัติในเมืองเชียงใหม่ ได้ทราบข่าวจึงมีพระราชศรัทธาอยากเสด็จขึ้นไปกราบบูชาพระพุทธบาท 4 รอย ก็นำเอาราชเทวีและเสนาพร้อมกับบริวารทั้งหลาย เมื่อพระยาเม็งรายกราบนมัสการเสร็จแล้ว ก็นำเอาบริวารของตนกลับสู่งเมืองเชียงใหม่ ก็ตั้งอยู่เสวยราชสมบัติตราบเมี้ยนอายุขัย แล้วลูกหลายที่สืบราชสมบัติก็เจริญรอยตามและได้ขึ้นมากราบพระพุทธบาท 4 รอย ทุกๆ พระองค์

    หลังจากนั้นมาพระบาทรังรุ้งหรือรังเหยี่ยวนี้ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น พระพุทธบาทสี่รอย เพราะมีรอยพระพุทธบาทประทับซ้อนกันถึง4 รอย มาในสมัยยุคหลังคนทั้งหลายจึงเรียกขานกันว่าพระพุทธบาทสี่รอย คือมี

    รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ ที่ล่วงมาแล้วในภัทรกัลป์นี้ คือ

    1. รอยพระบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ รอยแรก เป็นรอยใหญ่ยาว 12 ศอก
    2. รอยพระบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ เป็นรอยที่ 2 ยาว 9 ศอก
    3. รอยพระบาทของพระพุทธเจ้ากัสสปะ เป็นรอยที่ 3 ยาว 9 ศอก
    4. รอยพระบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ (ศาสนาปัจจุบันนี้) เป็นรอยที่ 4 รอยเล็กสุดยาว 4 ศอก

    เมื่อมาถึงสมัยพระยาธรรมช้างเผือก ผู้ครองนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยบริวาร 500 คน ก็ขึ้นไปกราบสักการะบูชาพระพุทธบาท 4 รอย และได้สร้างพระวิหารครอบพระพุทธบาทสี่รอยไว้ชั่วคราวโดยแต่เดิมถ้าใครจะดู รอยพระพุทธบาทบนยอดหินก้อนใหญ่ ต้องใช้บันไดพาดขึ้นไป หรือปืนขึ้นไปดูซึ่งก็คงจะขึ้นได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น

    ดังนั้นพระยาธรรมช้างเผือกจึงตรัสสร้างแท่นยืนคล้ายๆ นั่งร้านรอบๆ ก้อนหินที่มีพระพุทธบาท สี่ รอย เพื่อที่ผู้หญิงจะได้เห็นรอยพระพุทธบาทด้วย และได้สร้างหลังคาชั่วคราวมุงไว้ ต่อมาในสมัยพระชายาเจ้าดารารัศมีก็ได้ขึ้นไปกราบนมันสการพระพุทธบาท 4 รอย และได้มีพระราชศรัทธาก่อสร้างวิหาร เป็นการกราบบูชารอยพระพุทธบาทไว้ 1 หลัง หลักเล็ก ปัจจุบันได้บูรณะปฏิสังขรณ์แล้วทั้งหลัง จะเหลือไว้แค่ผนังวิหาร พื้นวิหารและแท่นพระซื่งยังเป็นของเดิมอยู่

    พอมาสมัยเมื่อปี พ.ศ. 2472 ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยก็ได้ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย และได้รื้อพระวิหารที่เจ้าพระยาธรรมช้างเผือกสร้างไว้ชั่วคราว และได้สร้างพระวิหารครอบรอยพระพุทธบาทไว้ใหม่และได้ลาบปูนครอบรอยพระพุทธบาท ไว้ เพื่อรักษาให้อยู่ค้ำชูพุทธศาสนาไปตลอดกาลนาน

    (เพิ่มเติม)

    ทางตอนเหนือของประเทศไทยนั้น ยังมีรอยพระพุทธบาทชุดพิเศษ ที่นับได้ว่ามีความสำคัญและศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งยวด อยู่อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมิได้มีเพียงรอยเดียวอย่างที่เราท่านพบเห็นกันอยู่โดยทั่วไป แต่มีถึง 4 รอย และเป็นรอยพระพุทธบาทที่พระพุทธเจ้าถึง 4 พระองค์ ที่ได้เสด็จอุบัติขึ้นแล้วและมหาภัทรกัปนี้ ทรงไว้ด้วยพระองค์เองทั้งสิ้นอีกด้วย

    ถูกต้องแล้ว "สัญลักษณ์แห่งมหาภัทรกัป ที่สำคัญสูงสูดในจักรวาล" (อันเป็นคำรับรองของหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดอรัญญวิเวก นครพนม) ที่ได้ยกขึ้นเป็นนิเขปบทเบื้องตนที่ว่านี้ก็คือ "พระพุทธบาทสี่รอย" แห่งวัดพระพุทธบาทสี่รอย ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และโดยเฉพาะกับบรรดาศิษยานุศิษย์ในท่านเจ้าคุณพระญาณสิทธาจารย์หรือหลวงปู่สิม พุทธาจาโร แล้ว ต่างก็ล้วนได้ซึมซาบกับประวัติความเป็นมาของปูชนีญวัตถุสถานอันไม่มีที่เปรียบแห่งนี้กันโดยถ้วนหน้า จากถ้อยวาจาที่ตอกย้ำ และคำเทศนาที่หลั่งรินออกมาจากวิสุทธิจิต อันทรงญาณวิสัย ที่บริสุทธิ และแจ่มชัด อย่างสิ้นเชิงว่า

    "พระพุทธบาทสี่รอยนั้นเป็นของจริงเน้อ"

    (บางส่วนจากงานเขียนของคุณ น.นันทวิจิตร เรื่องพระพุทธบาทสี่รอย)

    [​IMG]
    พระประธาน

    [​IMG]
    ภายนอก


    กราบ กราบ กราบ
    กราบ กราบ

    ที่มา
    เล่าเรื่องภาพมงคล ๑๐๘ ประการในรอยพระพุทธบาทจำลอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]

    พระปางป่าเลไลย์ เนื้อทองคำ สวย งดงามมากครับ

    ที่มา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,438
    [​IMG]
    พระพิมพ์วังหน้าองค์นี้มีขนาดกลาง ได้มาแบบฟลุ๊กๆสององค์ มอบให้หลานสาวหนึ่งองค์เพราะเห็นหัวโตเหมือนกัน พอได้ตรวจสอบพลังในภายหลัง ก็รู้ว่าหลานสาวโชคดีที่ได้ไป เพราะมีบารมีของหลวงปู่บรมครูฯท่านด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1090540.jpg
      P1090540.jpg
      ขนาดไฟล์:
      140.5 KB
      เปิดดู:
      21,176
  12. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    สวัสดีเช้าวันศุกร์แรกของเดือนกุมภาฯและของปีใหม่ชาวจีนครับ...

    จะต่ออีกซักหน่อยมั๊ย...ยังเข็นมาไม่หมดเลย หุหุ หรือว่าพอแค่นี้?
     
  13. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
  14. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, IT Man </TD></TR></TBODY></TABLE>


    สวัสดีตอนเช้าท่านสมบัติ

    วันนี้งานยุ่งไหมครับ
     
  15. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    วันนี้ไปทำบุญสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.(ปู่) ประถม อาจสาคร มา
    เห็นบทกรวดน้ำของคุณ wawa99 เหมือนที่ผมใช้ประจำ แต่ที่ผมใช้มีเพิ่มเติมด้านบนนิดหน่อย
    เพราะได้รับรู้จากพี่ๆ-ครูบาอาจารย์มาอีกที จึงได้ประยุกต์เป็นบทกรวดน้ำฉบับกระทัดรัดดังนี้ ...

    บทกรวดน้ำ:

    ข้าพเจ้าขออัญเชิญเทวดาที่สถิตในพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้า, พระปัจเจกพุทธเจ้า, ในพระธาตุพระอรหันต์, ในพระวังหน้า-พระกรุวัดพระแก้ว, ท่านท้าวเวสสุวัณ, พระแม่ธรณี-พระแม่โพสพ-แม่นางกวัก, พระยามัจจุราช
    โปรดมาเป็นพยานบุญ เพื่อน้อมถวายบุญนี้ บูชาคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณพระโพธิสัตว์ คุณบิดามารดา ครู-อาจารย์ พรหมมา-เทวาอารักษ์ทั้งหลาย
    ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ ไปให้ทุกรูปทุกนามทั้ง 20 ชั้นพรหมโลก 6 ชั้นเทวะโลก มนุษย์โลก มารโลก ยมโลก อบายภูมิทั้ง 4 มี นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ในหมื่นโลกธาตุกับอีกแสนจักรวาลพิภพ ทั้งที่เป็นมนุษย์ อมนุษย์ รูปวิญญาณ อรูปวิญญาณ สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งที่เป็นมิตรและศัตรู ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า<O:p</O:p
    ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงโมทนาสาธุในส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดนี้ ตราบจนเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญฯ
    พุทธังอนันตัง ธัมมังจักรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจโยโหนตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2011
  16. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    สู้ครับๆๆๆๆ
    ยังงัยเป้าหมาย ยังเหมือนเดิมครับ
    แล้วแต่คนอื่นเขาจะคิดยังงัย แต่ถ้าวันนี้เราไม่เชิดชูท่าน แล้วใครล่ะจะทำ
    เพราะฉะนั้นผมว่าทุกคนน่าจะช่วยกัน คนละไม้ คนละมือดีกว่า
    ที่จะคอยจับผิดกันครับ

    หรือว่าจะให้ของดีๆ มีคุณค่าสูงส่งอย่างนี้ ตายไปกับคนบางกลุ่มที่เก็บเงียบไว้ล่ะครับ?
     
  17. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
  18. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    วันนี้ดูท่าทางอาจจะยุ่งครับ ช่วงบ่ายคงออกไปข้างนอก

    สำหรับงานเผยแพร่ฯ phase แรก ว่าไงก็ว่าตามกันครับ
    ผมไม่ยอมให้ทุกสิ่งทุกอย่างตายไปกับผมแน่นอน ลูกหลานต่อไปไม่รู้จะเอาดีด้านไหน วันนี้จะเห็นได้ว่าเราทำแล้วได้ผล ในใจลึกๆ...

    - ผมเห็นใจทุกคนที่เก็บพระวังหน้าไว้อย่างมากมายโดยรู้คุณค่าด้วย แต่อัญเชิญมาขึ้นคอก็แต่เพียงน้อยนิด ส่วนที่เหลือไม่รู้จะทำไง มอบให้ใครก็มีแต่เพียงน้อยที่เห็นคุณค่า ครั้นถวายพระ ทุกวันนี้ก็หายากที่จะรู้ว่าดี
    - ผมเห็นใจคนทั่วไปที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในยุคปัจจุบัน หาทางออกไม่ได้ ทำให้มองย้อนกลับมาหาตนเอง ซึ่งได้พบของดีแล้ว สบายแล้ว จึงคิดว่าถ้าเราพอจะช่วยเขาได้ เราจะช่วยครับ ซึ่งวิธีการช่วยมีตั้งหลายรูปแบบ

    หากแผนเดิมเห็นว่าไม่มีใครเขาเข้าใจหรือเล่นด้วย ก็ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธใหม่ เช่นปัจจุบันเรามีเทคโนโลยี่ต่างๆอย่างมากมาย เราก็อาศัยเครื่องมือเหล่านี้แหละครับมาเป็นตัวช่วย ในขณะเดียวกันเราก็มีผู้ทรงอภิญญาที่ท่านรักษาสังขารท่าน ช่วยเราอยู่ในเบื้องหลังเพื่อตรวจสอบองค์ใน เราก็จำต้องขอความเมตตาจากท่านด้วย ดังนั้นก่อนที่ท่านจะละสังขาร พวกเราจะเร่งมือทำให้ให้ประจักษ์ไปทั่วโลกโดยเร็วครับ

    สำหรับงานบุญต่างๆก็จะทำไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ทำมาชั่วชีวิตน้อยๆอยู่แล้ว
    สำหรับการปฏิบัติภาวนา ผมเองได้เริ่มเป็นจริงเป็นจังแล้วหลังจากที่ต้องดูแลงานสร้างบ้านเพื่อเป็นศูนย์เผยแพร่พระวังหน้า ศูนย์กระจายพระบรมสารีริกธาตุ ทางภูมิภาคนี้มาประมาณ 1 ปี (2553-2554) ผนวกกับการอัญเชิญพระบรมฯให้ได้ทั่วประเทศไปพร้อมๆกัน
    โดยผมได้อาศัยฤกษ์ดิถีปีใหม่ชาวจีน ตรงกับพฤหัสบดี วันแรม 15 ค่ำเดือน 2 ทำพิธีการสวดทิพย์มนต์* ประมาณเกือบสองชั่วโมง (52 หน้ากระดาษ A4)

    *ทิพย์มนต์ เป็นบทสวดมนต์ที่ได้มาจากโหรหลวงของพระราชินี ที่สร้างบ้านอยู่ตรงข้ามกัน
     
  19. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    โมทนาสาธุท่านสมบัติ

    เห็นด้วยทุกประการครับ ตั้งแต่ที่พวกเราคุยกันมาเดือนกว่าๆ ก็รู้สึกว่ามีความสุขมากๆๆ (เชื่อดิเราทำได้) ผมถือคติว่า " ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" แต่อาจช้าหน่อยครับ แต่ตราบใดที่ศรัทธายังเต็มเปี่ยม เชื่อแน่ว่าสักวันคงเห็นเป็นรูปธรรม
     
  20. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    เมื่อเช้าไป support งานหมอที่อีก office ได้พูดคุยกับน้องพยาบาลชื่อน้องอิ่ม (Kanokkarn Srirean) เธออยากช่วยทำบุญให้เพื่อนที่ป่วยอยู่ ผมจึงแนะนำให้ร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์ อ.(ปู่)ประถม ซี ได้บุญเร็วนะ เธอก็เห็นด้วย แต่ติดงานและยุ่งยากในการโอนเงิน ดังนั้นผมจึงขออาสาโอนเงินทำบุญให้เธอจำนวนเงิน 500 บาท

    [​IMG]

    ขอได้โมทนาสาธุกะน้องอิ่มและเพื่อนของน้อง ให้หายจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วยโดยเร็วครับ


    โมทนาสาธุครับ<!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...