พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ๑) ชื่อเรือพระที่นั่งของพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากที่ได้รับการสถาปนาเป็นวังหน้าแล้ว ชื่อว่าอะไร และบอกชื่อเดิมพร้อมประวัติการได้มาด้วย


    ๒) ในห้องป้ายฉลองพระองค์ ตรงป้ายสถิตดวงพระวิญญาณมีตู้ทองด้านซ้าย และด้านขวา ถามว่า คืออะไร ด้านซ้าย และด้านขวามือของเราต่างกันอย่างไร (ดูภาพประกอบ)
    [​IMG]



    ๓) ให้เขียนประวัติโดยย่อของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าและกรมพระราชวังบวรวิชัย ชาญ (อย่่างน้อย 5 บรรทัด) , เครื่องดนตรีที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าทรงโปรดปรานคือ เครื่องดนตรีชื่ออะไร

    และ สิ่งที่ตั้งใจทำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า และ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (สิ่งที่ตั้งใจทำ เป็นการกระทำครับ ไม่ใช่การทำบุญด้วยเงิน เช่น ขอถือศีล 5 เป็นระยะเวลา 3 เดือน เป็นต้น


    ไม่ต้องส่งทาง PM ตอบในกระทู้ได้เลยครับ สามารถลอกกันได้ตามสะดวก หรือจะสอบถามอากู๋ก็ได้ตามสบายครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010179.JPG
      P1010179.JPG
      ขนาดไฟล์:
      277.5 KB
      เปิดดู:
      390
    • P1010184.JPG
      P1010184.JPG
      ขนาดไฟล์:
      153.8 KB
      เปิดดู:
      235
    • Copy of P1010505.JPG
      Copy of P1010505.JPG
      ขนาดไฟล์:
      243.9 KB
      เปิดดู:
      543
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2011
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    วันนี้ ผมและพี่ไฟดูด ได้ไปกราบพระที่วังหน้ากัน

    มาชมภาพกันครับ

    [​IMG]

    หน้าบันครับ

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    รูปพระพุทธรูป มืดพอสมควร เนื่องจากกล้องที่ผมใช้ ไม่ดีครับ

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG]
    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]













    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3327.jpg
      IMG_3327.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.4 KB
      เปิดดู:
      52
    • IMG_3329.jpg
      IMG_3329.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.7 KB
      เปิดดู:
      58
    • IMG_3330.jpg
      IMG_3330.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.4 KB
      เปิดดู:
      59
    • IMG_3331.jpg
      IMG_3331.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.5 KB
      เปิดดู:
      63
    • IMG_3332.jpg
      IMG_3332.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.7 KB
      เปิดดู:
      61
    • IMG_3333.jpg
      IMG_3333.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.4 KB
      เปิดดู:
      58
    • IMG_3334.jpg
      IMG_3334.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.8 KB
      เปิดดู:
      60
    • IMG_3335.jpg
      IMG_3335.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.4 KB
      เปิดดู:
      51
    • IMG_3336.jpg
      IMG_3336.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.1 KB
      เปิดดู:
      77
    • IMG_3337.jpg
      IMG_3337.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.9 KB
      เปิดดู:
      43
    • IMG_3338.jpg
      IMG_3338.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.9 KB
      เปิดดู:
      58
    • IMG_3349.jpg
      IMG_3349.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.2 KB
      เปิดดู:
      56
    • IMG_3341.jpg
      IMG_3341.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101.2 KB
      เปิดดู:
      69
    • IMG_3344.jpg
      IMG_3344.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.1 KB
      เปิดดู:
      52
    • IMG_3348.jpg
      IMG_3348.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.4 KB
      เปิดดู:
      49
    • IMG_3350.jpg
      IMG_3350.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.3 KB
      เปิดดู:
      51
    • IMG_3351.jpg
      IMG_3351.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.5 KB
      เปิดดู:
      50
    • IMG_3352.jpg
      IMG_3352.jpg
      ขนาดไฟล์:
      202.2 KB
      เปิดดู:
      54
    • IMG_3354.jpg
      IMG_3354.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.3 KB
      เปิดดู:
      52
    • IMG_3355.jpg
      IMG_3355.jpg
      ขนาดไฟล์:
      96.2 KB
      เปิดดู:
      61
    • IMG_3356.jpg
      IMG_3356.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78 KB
      เปิดดู:
      51
    • IMG_3358.jpg
      IMG_3358.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60 KB
      เปิดดู:
      47
    • IMG_3359.jpg
      IMG_3359.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.6 KB
      เปิดดู:
      44
    • IMG_3360.jpg
      IMG_3360.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.7 KB
      เปิดดู:
      59
    • IMG_3361.jpg
      IMG_3361.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.5 KB
      เปิดดู:
      55
    • IMG_3362.jpg
      IMG_3362.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.5 KB
      เปิดดู:
      58
    • IMG_3367.jpg
      IMG_3367.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66 KB
      เปิดดู:
      53
    • IMG_3369.jpg
      IMG_3369.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.2 KB
      เปิดดู:
      65
    • IMG_3370.jpg
      IMG_3370.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.9 KB
      เปิดดู:
      50
    • IMG_3371.jpg
      IMG_3371.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.1 KB
      เปิดดู:
      49
    • IMG_3372.jpg
      IMG_3372.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21 KB
      เปิดดู:
      51
    • IMG_3373.jpg
      IMG_3373.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.9 KB
      เปิดดู:
      43
    • IMG_3374.jpg
      IMG_3374.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.4 KB
      เปิดดู:
      59
    • IMG_3375.jpg
      IMG_3375.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.6 KB
      เปิดดู:
      52
    • IMG_3376.jpg
      IMG_3376.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.1 KB
      เปิดดู:
      46
    • IMG_3377.jpg
      IMG_3377.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.8 KB
      เปิดดู:
      51
    • IMG_3378.jpg
      IMG_3378.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.1 KB
      เปิดดู:
      52
    • IMG_3379.jpg
      IMG_3379.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.5 KB
      เปิดดู:
      49
    • IMG_3380.jpg
      IMG_3380.jpg
      ขนาดไฟล์:
      88.1 KB
      เปิดดู:
      51
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2011
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    รูปต่อครับ

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG] [​IMG]




    [​IMG] [​IMG]









    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3381.jpg
      IMG_3381.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.4 KB
      เปิดดู:
      62
    • IMG_3383.jpg
      IMG_3383.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.1 KB
      เปิดดู:
      56
    • IMG_3384.jpg
      IMG_3384.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.9 KB
      เปิดดู:
      53
    • IMG_3385.jpg
      IMG_3385.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.8 KB
      เปิดดู:
      52
    • IMG_3388.jpg
      IMG_3388.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.7 KB
      เปิดดู:
      52
    • IMG_3389.jpg
      IMG_3389.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.7 KB
      เปิดดู:
      47
    • IMG_3390.jpg
      IMG_3390.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.7 KB
      เปิดดู:
      49
    • IMG_3391.jpg
      IMG_3391.jpg
      ขนาดไฟล์:
      102.3 KB
      เปิดดู:
      56
    • IMG_3392.jpg
      IMG_3392.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.9 KB
      เปิดดู:
      52
    • IMG_3393.jpg
      IMG_3393.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.4 KB
      เปิดดู:
      57
    • IMG_3394.jpg
      IMG_3394.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.3 KB
      เปิดดู:
      54
    • IMG_3395.jpg
      IMG_3395.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.8 KB
      เปิดดู:
      50
    • IMG_3396.jpg
      IMG_3396.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.9 KB
      เปิดดู:
      63
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2011
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    มาต่ออีกครับ


    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]


    พระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว

    โรงละครแห่งชาติ


    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    พระอุโบสถ วัดบวรสถานสุทธาวาส



    [​IMG] [​IMG]

    รูปปั้นสิงห์โตทอง ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์









    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3399.jpg
      IMG_3399.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51 KB
      เปิดดู:
      59
    • IMG_3400.jpg
      IMG_3400.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.5 KB
      เปิดดู:
      63
    • IMG_3406.jpg
      IMG_3406.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.6 KB
      เปิดดู:
      52
    • IMG_3407.jpg
      IMG_3407.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.5 KB
      เปิดดู:
      49
    • IMG_3408.jpg
      IMG_3408.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.5 KB
      เปิดดู:
      59
    • IMG_3409.jpg
      IMG_3409.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.2 KB
      เปิดดู:
      55
    • IMG_3410.jpg
      IMG_3410.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.7 KB
      เปิดดู:
      54
    • IMG_3411.jpg
      IMG_3411.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.8 KB
      เปิดดู:
      54
    • IMG_3412.jpg
      IMG_3412.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.7 KB
      เปิดดู:
      65
    • IMG_3413.jpg
      IMG_3413.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.4 KB
      เปิดดู:
      54
    • IMG_3414.jpg
      IMG_3414.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.9 KB
      เปิดดู:
      57
    • IMG_3415.jpg
      IMG_3415.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68.1 KB
      เปิดดู:
      57
    • IMG_3416.jpg
      IMG_3416.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.4 KB
      เปิดดู:
      58
    • IMG_3422.jpg
      IMG_3422.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.4 KB
      เปิดดู:
      58
    • IMG_3423.jpg
      IMG_3423.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.9 KB
      เปิดดู:
      49
    • IMG_3397.jpg
      IMG_3397.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.3 KB
      เปิดดู:
      52
    • IMG_3398.jpg
      IMG_3398.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.1 KB
      เปิดดู:
      52
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2011
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    สุดท้ายมากราบพระที่วัดมหาธาตุ

    [​IMG] [​IMG]

    เจดีย์ที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระัสัมมาสัมพุทธเจ้า



    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    พระศรีสรรเพชญ์
    วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์




    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    เสมาครับ

















    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3425.jpg
      IMG_3425.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.7 KB
      เปิดดู:
      62
    • IMG_3426.jpg
      IMG_3426.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.9 KB
      เปิดดู:
      110
    • IMG_3427.jpg
      IMG_3427.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.5 KB
      เปิดดู:
      47
    • IMG_3428.jpg
      IMG_3428.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.6 KB
      เปิดดู:
      43
    • IMG_3431.jpg
      IMG_3431.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.1 KB
      เปิดดู:
      109
    • IMG_3432.jpg
      IMG_3432.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.7 KB
      เปิดดู:
      66
    • IMG_3433.jpg
      IMG_3433.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.3 KB
      เปิดดู:
      59
    • IMG_3434.jpg
      IMG_3434.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.1 KB
      เปิดดู:
      105
    • IMG_3429.jpg
      IMG_3429.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68.1 KB
      เปิดดู:
      115
    • IMG_3430.jpg
      IMG_3430.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.3 KB
      เปิดดู:
      60
    • IMG_3424.jpg
      IMG_3424.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.1 KB
      เปิดดู:
      44
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2011
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว

    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ พระองค์ที่ 2 ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรง ได้รับพระบวรราชาภิเษกเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2391 เมื่อทรงมีพระชนมพรรษาได้ 43 พรรษา มีพระนามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า

    “สมเด็จพระปวเรนทราเมศ มหิศเรศ รังสรรค์ มหรรต วรรคโชไชย มโหฬารคุณอดุลยพิเศษ สรรพเทเวศรานุรักษ์ บวรจักรพรรดิราช บวรนาถบพิตร พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ”

    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จ พระราชสมภพ ณ พระราชวังเดิม เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2351 หลังจากที่สมเด็จพระราชบิดาได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เจ้าฟ้าน้อย จึงได้ตามเสด็จ พระบรมชนกนาถและพระราชชนนี มาประทับในพระบรมมหาราชวัง และได้รับการเฉลิมพระนามเป็น "สมเด็จ พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฑามณี" หรือ "เจ้าฟ้าอสุนีบาต" ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 50 ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระราชมารดาคือ สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี พระองค์ทรงเป็นพระอนุชาของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อเจ้าฟ้า น้อย

    ซึ่งในขณะนั้นดำรงพระอิสริยยศ เป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศ รังสรรค์ เจริญพระชนมายุได้ 16 พรรษา ซึ่งตรงกับปี พ.ศ. 2367 ได้เสด็จมาประทับ ณ พระราชวังเดิม และ ประทับที่นี่จนถึงปี พ.ศ. 2394
    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระอัจฉริยภาพใน ด้านต่างๆ อาทิ การทหาร การช่าง วิทยาศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม การกีฬา การละคร การดนตรี และด้านวรรณกรรม อีกทั้งทรงรอบรู้ทางด้าน การต่างประเทศอีกด้วย ทรงศึกษาภาษาอังกฤษจากมิชชันนารีอเมริกันจนแตกฉาน และทรงมีพระสหาย เป็นชาว ต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงทรงสามารถช่วยราชการด้านการต่างประเทศได้เป็นอย่างดี โดยทรงเป็นที่ปรึกษา ในการทำสนธิสัญญาต่างๆ
    หลังจากที่ได้รับพระราชทานบวรราชาภิเษกเป็น "พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว" เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2394 ทรงมีศักดิ์สูงเสมอพระมหากษัตริย์เป็น "พระเจ้าประเทศสยามองค์ที่ 2" ได้ทรงย้ายมาประทับ ณ พระบวรราชวัง (ปัจจุบันคือบริเวณพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ) จนสิ้นพระชนม์ลงใน วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2408 ขณะที่ทรงมีพระชนมายุได้ 58 พรรษา


    [แก้ไข] ขณะยังทรงพระเยาว์

    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้าจุฑามณี เป็นที่รู้จักกันในพระนามว่า “เจ้าฟ้าน้อย “ เป็น พระราชโอรสลำดับที่ 50 และเป็นพระราชกุมารลำดับที่ 27 ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 กับ สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 10 ขึ้น 15 ค่ำ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2351 ประสูติที่พระราชวังเดิมคลองบางกอกใหญ่และมีคุณหญิงนก ไม่ทราบนามสกุล เป็นพระพี่เลี้ยงในสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
    เมื่อมีพระชนมายุได้ 16 พรรษา ได้เข้ารับราชการในรัชกาล พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ปรากฏว่ามีความชอบในราชการ และทรงได้รับการแต่งตั้งให้ทรงกรมเป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2375 (พระชนมายุ 24 พรรษา)
    นับย้อนไปในอดีตตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นราชธานี สืบมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์นั้น พระเจ้าแผ่นดินมักจะทรงสถาปนาให้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าพระองค์ใหญ่ที่เกิดจากพระอัครมเหสี เป็นพระมหาอุปราช ซึ่งจะทรงดำรงตำแหน่งเป็น พระเจ้าแผ่นดินต่อจากพระองค์ แต่บางรัชกาลก็ทรงแต่งตั้ง สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอที่มีความชอบต่อแผ่นดินขึ้นเป็น พระมหาอุปราช (เรียกในราชการว่า กรมพระราชวังบวรสถานมงคล หรือ วังหน้า)
    และตามหลักฐานเท่าที่มีปรากฏใน พระราชพงศาวดารของไทยเรา การที่พระเจ้าอยู่หัวทรงแต่งตั้งพระอนุชาขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ที่สอง นั้น มีเฉพาะ สมัยกรุงศรีอยุธยา คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถเท่า นั้น ก่อนที่จะมาถึงรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว การที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนา พระเจ้าน้องยาเธอไว้ในตำแหน่งพระมหาอุปราช และให้มีพระราชอิสริยยศเทียบเท่าพระเจ้าแผ่นดินนั้น มีหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่สำคัญเป็นเพราะพระปรีชาสามารถในหลาย ๆ ด้านของพระมหาอุปราชพระองค์นี้ที่ได้เป็นกำลังสำคัญของชาติ
    ตั้งแต่เมื่อครั้งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่ หัว ในกิจการที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ โดยเฉพาะพวกฝรั่งชาว ตะวันตก และพร้อมกับเป็น พระกำลังที่สำคัญยิ่งของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ทรงเข้าร่วมการเจรจาทำสัญญาทางพระ ราชไมตรีกับต่างประเทศ เช่น สนธิสัญญาเบาริ่ง ซึ่งเป็นสนธิสัญญา ที่มีชื่อเสียงโด่งดังกับราชทูตประเทศอังกฤษ พระเกียรติยศชื่อเสียง ในด้านความรอบรู้ของใต้ฝ่าละอองธุลี พระบาทในภาษา หลายภาษา และในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชั้นสูงหลายวิชา ซึ่งทรงรอบรู้ผิดไปจากคนในหมู่ชาติตะวันออกมาก ซึ่งก็ได้แพร่สะพัดถึงสหรัฐอเมริกา ด้วยทรงทราบชื่อประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาทุกคนด้วย
    พระราชอัชฌาสัย และพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
    [​IMG]

    <center>พระราชลัญจกรประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว</center>
    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชอัธยาศัยต่างจากพระเชษฐามาก เพราะฝ่ายแรกชอบสนุกเฮฮา ไม่มีพิธีรีตองอะไร ส่วนฝ่ายหลังค่อนข้างเงียบขรึม ฉะนั้นจึงมักโปรดในสิ่งที่ไม่ค่อย จะตรงกันนัก แต่ถ้าเป็นความสนิทสนมส่วนพระองค์แล้วพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงทำอะไรก็มักนึกถึงพระราชอนุชาอยู่เสมอ เช่น คราวหนึ่งเสด็จขึ้นไปปิดทองพระพุทธรูปใหญ่วัดพนัญเชิง ก็ทรงปิดเฉพาะพระพักตร์ เว้นพระศอไว้พระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ทรงปิดต่อ นอกจากนี้ทั้ง 2 พระองค์ ก็ทรงล้อเลียนกันอย่างไม่ถือพระองค์ และส่วนมากพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ จะเป็นฝ่ายเย้าแหย่มากกว่า


    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ ทรงพระปรีชาสามารถมาก ทรงรอบรู้งานใน ด้านต่าง ๆ มากมาย เช่น งานด้านกองทัพบก กองทัพเรือ ด้านต่างประเทศ วิชาช่างจักรกล และวิชาการปืนใหญ่ ทรงรอบรู้ภาษาอังกฤษเป็นอย่างดีจนสามารถที่จะทรงเขียนโต้ตอบจดหมายเป็นภาษา อังกฤษ กับ เซอร์ จอห์น เบาริง ราชทูตอังกฤษ ที่เดินทางมาเจริญพระราชไมตรีกับประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2398 (ค.ศ. 1855) ซึ่งข้อความในสนธิสัญญานั้น


    ถ้าเอ่ยถึง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ จะมีคำกำกับว่า The First King ส่วนพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ จะมีคำกำกับว่า The Second King สำหรับในภาษาไทยนั้น ตามสนธิสัญญา ทางไมตรีกับประเทศอังกฤษ ในบทภาค ภาษาไทยจะแปลคำว่า The First King ว่า พระเจ้าแผ่นดินสยามพระองค์เอก ส่วนคำว่า The Second King นั้นจะแปลว่า พระเจ้าประเทศสยามพระองค์ที่ 2 พระบาทสมเด็จประปิ่นเกล้า ฯ มีพระนามปรากฏอยู่ในประกาศในอารัมภบทให้ดำเนินการเจรจาทำสนธิสัญญาฉบับนี้ ด้วย ในฐานะพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 2 คู่กับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ


    พระองค์มีสายพระเนตรที่กว้างไกล ในด้านการ ต่างประเทศ ทรงรอบรู้ข่าวสารในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นอย่างดี ทรงทราบพระราชหฤทัยดีว่า ถ้าหากทรง ดำเนินนโยบายที่แข็งกร้าวแล้วไซร้ ไทยเราจะเสียประโยชน์ ส่วนบรรดาฝรั่งที่รู้จักมักคุ้นกับวังหน้ามักจะยกย่องชมเชยว่า ทรงเป็นสุภาพบุรุษเพราะพระองค์มีพระนิสัยสุภาพ โดยเฉพาะกับพระราชชนนี กรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ด้วยแล้ว ทรงแสดงความเคารพเกรงกลัวเป็นอันมาก


    นอกจากนี้ทรงโปรดการท่องเที่ยวไปตามหัวบ้านหัวเมือง ทั้งเหนือและใต้ สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะมีพระอาการประชวรกระเสาะกระแสะอยู่เสมอ จึงต้องเสด็จไปเที่ยวรักษาพระองค์ตามหัวเมือง อยู่เนือง ๆ กล่าวกันว่า มักเสด็จไปประทับตามถิ่น ที่มีบ้านลาว เสด็จไปประทับที่บ้านสัมปะทวน แขวงนครไชยศรีบ้าง ทางเมืองพนัสนิคมบ้าง แต่เสด็จไปประทับที่ตำหนัก บ้านสีทา จังหวัดสระบุรีเสียโดยมาก แต่แท้ที่จริงแล้ว พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ ได้เคยเสด็จไปเที่ยวประพาสตามหัวเมือง ต่างๆ มาตั้งแต่ครั้งยังดำรงพระยศเป็น เจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิสเรศรังสรรค์แล้ว เพราะทรงประจักษ์แจ้งแก่พระปรีชาญาณว่า การเสด็จประพาสหัวเมืองเป็นประโยชน์แก่ราชการบ้านเมือง ด้วยสามารถทรงทราบทุกข์สุขของไพร่ฟ้าประชาชนได้เป็น อย่างดีซึ่งดีกว่ารายงานในกระดาษมากนัก

    [แก้ไข] พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ กับการทหารเรือ

    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ ทรงใฝ่พระราชหฤทัยในวิชาการด้านจักรกลมาก และเพราะเหตุที่พระองค์โปรดการทหาร จึงทรงสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับอาวุธยุทธภัณฑ์เป็นพิเศษ เท่าที่ค้นพบพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ นั้น ก็มักจะ ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบทหาร และเป็นเครื่องแบบทหารเรือด้วย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าไม่มีการบันทึกพระราชประวัติ ในส่วนที่ทรงสร้างหรือวางแผนงานเกี่ยวกับ กิจการทหารใด ๆ ไว้บ้างเลย แม้ในพระราชพงศาวดาร หรือในจดหมายเหตุต่าง ๆ ก็ ไม่มีการบันทึกผลงานพระราชประวัติใน ส่วนนี้ไว้เลย และแม้พระองค์เองก็ไม่โปรดการบันทึก ไม่มีพระราชหัตถเลขา หรือมีแต่ไม่มีใครเอาใจใส่ทอดทิ้ง หรือทำลายก็ ไม่อาจทราบได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีงานเด่น ที่มีหลักฐานทั้งของฝรั่ง และไทย กล่าวไว้ แม้จะน้อยนิดแต่ก็แสดงให้เห็นถึงการริเริ่มที่ ล้ำหน้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน

    ผลงานนั้นคือการทหารเรือ การทหารเรือ ของไทยเรานั้น เริ่มมีเค้าเปลี่ยนจากสมัยโบราณเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ในสมัยรัชกาลที่ 3 และผู้ที่เป็นกำลังสำคัญ ในกิจการด้านทหารเรือในสมัยนั้น คือ เจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ และ จมื่นไวยวรนาถ (สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ : ช่วง บุนนาค) ด้วยทั้ง 2 ท่านนี้มีความรู้ในวิชาการต่อเรือในสมัยนั้น เป็นอย่างดี จึงได้รับหน้าที่ปกครอง บังคับบัญชาการทหารเรือในสมัยนั้น


    ต่อมาได้แบ่งหน้าที่กันโดยพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ ทรงบังคับบัญชาทหารเรือ วังหน้า ส่วนทหารเรือบ้านสมเด็จอยู่ในปกครองบังคับบัญชาของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรี สุริยวงศ์ ในยามปกติทั้ง 2 ฝ่าย นี้ ไม่ขึ้นแก่กันแต่ขึ้นตรงต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ ทรงฝึกฝนทหารของพระองค์ โดยใช้ทั้งความรู้และความสามารถ และ ยังทรงมุ่งพระราชหฤทัยในเรื่องการค้าขายให้มีกำไร สู่แผ่นดินด้วยมิใช่สร้าง แต่เรือรบเพราะได้ทรงสร้างเรือเดินทะเล เพื่อการค้าระหว่างประเทศอีกด้วย นอกจากนี้พระองค์ได้ทรงนำเอาวิทยาการ สมัยใหม่ของยุโรป มาใช้ฝึกทหารให้มีสมรรถภาพเป็นอย่างดี ทรงให้ร้อยเอก น็อกส์ (Thomas George Knox) เป็นครูฝึกทหารวังหน้า ทำให้ทหารไทยได้รับวิทยาการอันทันสมัยตามแบบ ทหารเกณฑ์หัดอย่างยุโรป


    การฝึกหัดใช้คำบอกทหารเป็น ภาษาอังกฤษทั้งหมดเริ่มมีเรือรบกลไฟเป็นครั้งแรก ชื่อเรืออาสาวดีรส3 และเรือยงยศอโยชฌิยา4 (หรือยงยศอโยธยา) ซึ่งเมื่อครั้งเรือยงยศอโยชฌิยา ได้เดินทางไปราชการที่สิงคโปร์ ก็ได้รับคำชมเชยจากต่างประเทศเป็นอันมาก ว่าพระองค์มี พระปรีชาสามารถทรงต่อเรือได้ และการเดินทางในครั้งนั้นเท่ากับเป็นการไปอวดธงไทยในต่างประเทศ ธงไทยได้ถูกชัก ขึ้นคู่กับธงอังกฤษ ที่ฟอร์ทแคนนิ่งด้วย และแม้พระเจ้าลูกยาเธอหลายพระองค์ก็ทรงโปรด ฯ ให้เป็นทหารเรือเช่นกัน ประวัติของเรือที่พระองค์ทรงมีใช้ในสมัยนั้น ตามที่พลเรือตรี แชน ปัจจุสานนท์ ได้รายงานเล่าไว้ในหนังสือ ประวัติทหารเรือไทย มีดังนี้

    1. เรือพุทธอำนาจ (Fairy) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2379 เป็นเรือชนิดบาร์ก (Bark) ขนาด 200 ตัน มีอาวุธปืนใหญ่ 10 กระบอก เรือลำนี้เป็นของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ เมื่อ พ.ศ. 2384 ไปราชการทัพรบกับญวน ใช้เป็นเรือพระที่นั่งของแม่ทัพ คือพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ เมื่อครั้งทรงเป็นกรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ยกกองทัพไปรบกับญวน ตีเมืองบันทายมาศ (ฮาเตียน)
    2. เรือราชฤทธิ์ (Sir Walter Scott) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2379 เป็นเรือแบบเดียวกันกับพุทธอำนาจ เมื่อ พ.ศ. 2384 ไปราชการทัพรบกับญวน
    3. เรืออุดมเดช (Lion) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2384 เป็นเรือชนิดบาร์ก (Bark) ขนาด 300 ตัน เรือลำนี้เป็นของพระบาทสมเด็จ พระปิ่นเกล้า ฯ เมื่อ พ.ศ. 2384 ได้ใช้ไปราชการทัพรบกับญวน พ.ศ. 2387 ได้นำสมณทูตไปลังกา
    4. เรือเวทชงัด (Tiger) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2386 เป็นเรือชนิดสกูเนอร์ (Schooner) ขนาด 200 ตัน เรือลำนี้เป็นของพระบาท สมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ
    5. เรือพุทธสิงหาศน์ (Cruizer) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2398 เป็นเรือชนิดชิพ ขนาด 400 ตัน เรือลำนี้เป็นของพระบาทสมเด็จ พระปิ่นเกล้า ฯ
    6. เรือมงคลราชปักษี (Falcon) ซื้อเมื่อ พ.ศ. 2400 เดิมเป็นเรือของชาวอเมริกัน ชนิดสกูเนอร์ (Schooner) ขนาด 100 ตัน พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ ทรงซื้อมา แล้วดัดแปลงใช้เป็นเรือรบ เรือพระที่นั่งของพระองค์

    เกียรติประวัติของการทหารเรือไทยสมควรจะต้องยกถวายแด่พระบาทสมเด็จ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะพระองค์เป็น ผู้ที่ทรงสนพระราชหฤทัยในกิจการทหารเรือในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก เมื่อปรากฏว่ามีเรือรบต่างประเทศเข้ามาเยี่ยม ประเทศไทยคราวใดพระองค์ก็มักหาโอกาสเสด็จไปเยี่ยมเยียนเรือรบเหล่านั้นเสมอ เพื่อจะได้ทรงทราบว่าเรือรบต่าง ประเทศเขาตกแต่งและจัดระเบียบเรือกันอย่างไร แล้วนำมาเป็นแบบอย่างให้กับเรือรบของไทยในเวลาต่อมา


    จากพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้นำในเรื่องเรือสมัยใหม่ ซึ่งผู้คนในสมัยนั้นไม่มีใครเชื่อเลยว่าเหล็กจะลอยน้ำได้แต่พระองค์ได้ทรง แสดงพระปรีชาสามารถให้ปรากฏ ทรงต่อเรือรบ กลไฟขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ทรงมีพระปรีชาสามารถหลายด้าน ทรงแตกฉานเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษจนสามารถติดต่อ กับชาวต่างประเทศได้เป็นอย่างดีพระสหาย และพระอาจารย์ เป็นชาว อเมริกันเสียเป็นส่วนมากทรงหมกมุ่นกับกิจการทหารเรือมาตั้งแต่ต้น ด้วยเหตุนี้จึงถือได้ว่าพระองค์ทรงเป็น ผู้บัญชาการ ทหารเรือ พระองค์แรก และควรถวายพระนามว่า ผู้บัญชาการทหารเรือวังหน้า สมควรได้รับการถวายพระเกียรติยศขั้นสูงสุด


    การศิลป์


    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดทางศิลป ทั้งทางดนตรี กวี และนาฏศิลป์ โดยเฉพาะทรงพระปรีชาสามารถด้านการทรงแคนและแอ่ว โดยทรงพระราชนิพนธ์คำแอ่วไว้เป็นจำนวนมาก และทรงมีพระราชดำริให้สร้างระนาดทุ้มเหล็กขึ้น เพื่อใช้ประกอบการเล่นกับระนาดแบบเดิม รวมเป็นเครื่องดนตรี ๔ ชนิด เรียกว่า "ปี่พาทย์เครื่องใหญ่" สืบมาจนทุกวันนี้ รวมทั้งโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมอุปถัมภ์ศิลปินที่มีความสามารถด้วย เช่น สุนทรภู่ ครูมีแขก และคุณพุ่ม เป็นต้น

    นอกจากนั้น ยังทรงมีฝีพระหัตถ์งดงามในการแกะแม่พิมพ์พระเครื่องสมเด็จ เรียกว่า "พิมพ์จุฑามณี" และสมเด็จพระพุทธาจารย์โต พรหมรังษี สร้างเนื้อบรรจุรัตนไตรยานุภาพถวาย

    วางผังถนนเจริญกรุง


    ได้มีเรื่องเล่ากันว่า ด้วยเหตุที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระปรีชาสามารถเรื่องปืนใหญ่ จึงได้ทรงทักท้วงการวางผังการตัดถนนเจริญกรุง ซึ่งเดิมร่างการตัดถนนจะเป็นถนนสายตรงจากสามแยกพุ่งเข้ามายังพระนคร โดยพระองค์ทรงมีพระราชวินิจฉัยข้อด้อยที่ประตูเมืองจะเป็นจุดที่ง่ายต่อการ โจมตี หากข้าศึกนำปืนใหญ่มาตั้งยิงที่ถนน ดังนั้นจึงได้ตัดถนนเจริญกรุงโค้งอ้อมมาทางสะพานดำรงสถิต ซึ่งจะเห็นว่าหักมุมอยู่

    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นกิจวัตรตามกำหนดการพระราชพิธีฝ่ายพระบวรราชวัง นอกจากนั้น ได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดหงส์รัตนาราม ต่อจากสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ทั้งพระอุโบสถ พระวิหารการเปรียญ ศาลาราย สะพานหน้าวัด และส่วนอื่น ๆ อีก มีธรรมเนียมถือกันมาว่า วัดนี้เป็นวัดของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ยังได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดอื่น ๆ อีก อาทิเช่น วัดศรีสุดาราม วัดโมลีโลกยาราม วัดบวรสถานสุทธาวาส และวัดชนะสงคราม เป็นต้น

    พระนิพนธ์ในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้บันทึกไว้ว่า พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เคยทรงผนวชที่วัดระฆังโฆษิตาราม เมื่อทรงผนวชได้ทรงอุตสาหวิริยะหัดเทศน์กัณฑ์มหาราช ซึ่งเป็นกัณฑ์ที่โปรดมาก

    พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระยศเป็น เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ สร้างวัดส้มเกลี้ยงขึ้นใหม่แทนวัดเดิม ซึ่งญวนทหารปืนใหญ่ ที่อยู่ในบังคับบัญชาของพระองค์ได้รื้อ เพื่อเอาอิฐไปสร้างบ้านเรือนและวัดของตนที่เสียหาย พระองค์จึงทรงสร้างวัดส้มเกลี้ยงขึ้นใหม่ โดยโปรดให้ย้ายไปสร้างทางด้านทิศเหนือ พ้นเขตจากชุมชนบ้านญวนเข้ารีตออกไป และสันนิษฐานว่าทรงสร้างวัดนี้ต่อมา เมื่อได้รับบวรราชาภิเษก แต่การก่อสร้างมาแล้วเสร็จในรัชกาลที่ ๕ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ พระโอรสพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างสืบมาจนแล้วเสร็จ

    สาธารณสุข


    มิชชันนารีอเมริกันที่เข้ามาในประเทศไทย ได้นำวิทยาการความรู้เข้ามาเผยแพร่เพื่อต้องการให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม มีทั้งที่เป็นแพทย์รักษาพยาบาล และครูสอนหนังสือแต่ปรากฏว่าชาวไทยไม่นิยมหมอฝรั่ง เพราะรังเกียจและอายที่ต้องมีการสัมผัสในการตรวจร่างกาย

    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงยอมรับการแพทย์แผนปัจจุบัน ที่เข้ามาเผยแพร่โดยทรงเชิญหมอบลัดเลย์ มาตรวจดูอาการของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่เมื่อครั้งยังทรงผนวช ทรงพยายามนำหมอบลัดเลย์ เข้ามาถวายการรักษาเจ้าจอมมารดาเอิบ และพระธิดาของพระองค์ รวมทั้งพระราชชนนี แต่เนื่องจากการแพทย์แผนใหม่ยังไม่เป็นที่ยอมรับ จึงไม่ได้รับการสนับสนุนจากราชสำนัก
    แต่ในที่สุดการรักษาแผนปัจจุบัน ก็ได้รับการยอมรับ เมื่อหมอบลัดเลย์ปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษได้สำเร็จ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หมอหลวงไปหัดปลูกวัคซีนทรพิษกับหมอบลัดเลย์ พร้อมทั้งพระราชทานรางวัลในการนี้ด้วย

    การต่างประเทศ



    บัตรพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นที่ปรึกษาในการทำสนธิสัญญากับชาติต่าง ๆ ในช่วงรัชกาลที่ ๓ เพราะทรงสนพระทัย และแตกฉานในภาษาอังกฤษ วิชาการทันสมัย รวมทั้งขนบธรรมเนียมของชาติตะวันตก และเหตุนี้จึงทรงรู้จักและสนิทสนมกับพวกมิชชันนารีอเมริกัน พวกอังกฤษและชาวตะวันตกอีกหลายชาติ ที่เข้ามาในประเทศไทย ตั้งแต่ดำรงพระยศเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์
    พระองค์ทรงได้รับการส่งเสริม และสนับสนุนในส่วนราชการจากชาวต่างชาติเป็นอย่างดี มีทั้งบทความและคำกล่าวยกย่องในพระปรีชาสามารถ แต่อาจกล่าวได้ว่า บางประเทศนั้นพยายามที่จะหาประโยชน์จากจุดนี้ และมีนโยบายแอบแฝงที่มุ่งจะให้เกิดการขัดแย้ง การแข่งขันในพระราชอำนาจของ พระมหากษัตริย์ทั้ง ๒ พระองค์ มุ่งที่จะให้เกิดการแตกร้าว และเปลี่ยนเป็นความวุ่นวาย เพื่อที่จะได้เข้าแทรกแซงได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตระหนักถึงสภาวการณ์ที่ล่อแหลมนี้ ดังนั้นพระองค์จึงได้ทรงแสดงออกถึง ความจงรักภักดีต่อพระเชษฐา และมั่นคงในการเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นของราชบัลลังค์ จนตลอดพระชนม์ชีพ

    พระโอรส-ธิดา ประสูติก่อนบวรราชาภิเษก

    1. พระองค์เจ้าหญิง (พ.ศ. 2378) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเอม
    2. พระองค์เจ้าหญิง (พ.ศ. 2380) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดามาลัย สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 3
    3. พระองค์เจ้าชายยอดยิ่งยศ บวรราโชรสรัตนราชกุมาร (พ.ศ. 2381-2428) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเอม ทรงบวรราชาภิเษกเป็น กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ เมื่อ พ.ศ. 2408
    4. พระองค์เจ้าชาย (พ.ศ. 2381) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดากุหลาบ
    5.พระองค์เจ้าหญิงดวงประภา (พ.ศ. 2381-2438) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดามาลัย
    6.พระองค์เจ้าหญิง (พ.ศ. 2381) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาตาด
    7.พระองค์เจ้าหญิง (พ.ศ. 2382) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาใย
    8.พระองค์เจ้าหญิงบุปผา (พ.ศ. 2382) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดากลีบ
    9.พระองค์เจ้าหญิง (พ.ศ. 2382) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาบาง
    10.พระองค์เจ้าชายสุธารส (พ.ศ. 2383-2436) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดากุหลาบ ทรงเป็นต้นสกุล สุธารส
    11.พระองค์เจ้าหญิงสุดาสวรรค์ (พ.ศ. 2383-2455) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดามาลัย
    12.พระองค์เจ้าชายวรรัตน์ (พ.ศ. 2384-2449) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเกด ทรงได้รับสถาปนาเป็นกรมหมื่นพิศาลบวรศักดิ เมื่อ พ.ศ 2424 ในรัชกาลที่ 5 ทรงเป็นต้นสกุล วรรัตน์
    13.พระองค์เจ้าหญิง (พ.ศ. 2384) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาบัว
    14.พระองค์เจ้าหญิงตลับ (พ.ศ. 2384) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดากลีบ
    15.พระองค์เจ้าชายปรีดา (พ.ศ. 2385) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเอม
    16.พระองค์เจ้าหญิง (พ.ศ. 2387) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาบาง
    17.พระองค์เจ้าชาย (พ.ศ. 2387) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเพื่อน
    18.พระองค์เจ้าชายภาณุมาศ (พ.ศ. 2388-2431) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเอี่ยม ทรงเป็นต้นสกุล ภาณุมาศ
    19.พระองค์เจ้าชายหัสดินทร์ (พ.ศ. 2388-2429) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาหนู ทรงได้รับสถาปนาเป็นกรมหมื่นบริรักษ์นรินทรฤทธิ์ เมื่อ พ.ศ. 2424 ในรัชกาลที่ 5 ทรงเป็นต้นสกุล หัสดินทร
    20.พระองค์เจ้าชายเนาวรัตน์ (พ.ศ. 2388-2433) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเอม ทรงได้รับสถาปนาเป็นกรมหมื่นสถิตย์ธำรงศักดิ เมื่อ พ.ศ. 2424 ในรัชกาลที่ 5 ทรงเป็นต้นสกุล นวรัตน์
    21.พระองค์เจ้าชายเบญจางค์ (พ.ศ. 2388-2419) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเพื่อน
    22.พระองค์เจ้าชาย (พ.ศ. 2390) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาด๊า
    23.พระองค์เจ้าชายยุคนธร (พ.ศ. 2391) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาแย้ม สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 5 ทรงเป็นต้นสกุล ยุคนธรานนท์
    24.พระองค์เจ้าหญิง (พ.ศ. 2391) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดากลีบ
    25.พระองค์เจ้าหญิงราษี (พ.ศ. 2391-2442) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเยียง
    26.พระองค์เจ้าชาย (พ.ศ. 2392) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเอี่ยม
    27.พระองค์เจ้าชาย (พ.ศ. 2392) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาด๊า
    28.พระองค์เจ้าชาย (พ.ศ. 2392) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเท้ย
    29.พระองค์เจ้าชายกระจ่าง (พ.ศ. 2392) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเพื่อน สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 5
    30.พระองค์เจ้าหญิงวงจันทร์ (พ.ศ. 2393-2459) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเอม
    31.พระองค์เจ้าชายวัชรินทร์ (พ.ศ. 2393) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาตาด
    32.พระองค์เจ้าหญิงจำเริญ (พ.ศ. 2393-2450) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดากลีบ
    33.พระองค์เจ้าหญิงถนอม (พ.ศ. 2393-2428) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาพัน

    พระโอรส-ธิดา ประสูติเมื่อบวรราชาภิเษกแล้ว

    1.พระองค์เจ้าชายโตสินี (พ.ศ. 2394-2458) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดากลีบ ทรงเป็นต้นสกุล โตษะณีย์
    2.พระองค์เจ้าชายเฉลิมลักษณวงศ์ (พ.ศ. 2396-2456) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาขลิบ ทรงได้รับสถาปนาเป็นกรมหมื่นวรวัฒน์สุภากร เมื่อ พ.ศ. 2446
    3.พระองค์เจ้าชายนันทวัน (พ.ศ. 2396-2434) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาหนู ทรงเป็นต้นสกุล นันทวัน
    4.พระองค์เจ้าชาย (พ.ศ. 2396) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาจัน
    5.พระองค์เจ้าหญิง (พ.ศ. 2396) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดากลีบ
    6.พระองค์เจ้าชาย (พ.ศ. 2397) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาพลับ
    7.พระองค์เจ้าชายวัฒนา (พ.ศ. 2397) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาลำภู
    8.พระองค์เจ้าหญิง (พ.ศ. 2397) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดากลีบ
    9.พระองค์เจ้าหญิงภัควดี (พ.ศ. 2398) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาพลอย สิ้นพระชนม์ พ.ศ. 2483 ในรัชกาลที่ 8
    10.พระองค์เจ้าหญิง (พ.ศ. 2398) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาช้อย
    11.พระองค์เจ้าหญิง (พ.ศ. 2398) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดากลีบ
    12.พระองค์เจ้าหญิงวรภักตร์ (พ.ศ. 2398-2427) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาส่วน
    13.พระองค์เจ้าหญิงวิลัยทรงกัลยา (พ.ศ. 2398) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาขลิบ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 5
    14.พระองค์เจ้าหญิงเฉิดโฉม (พ.ศ. 2399-2489) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสีดา
    15.พระองค์เจ้าหญิงประโลมโลก (พ.ศ. 2399-243) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาแก้ว
    16.พระองค์เจ้าชาย (พ.ศ. 2399) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาพลับ
    17.พระองค์เจ้าชายพรหเมศ (พ.ศ. 2399-2434) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาพรหมา ทรงเป็นต้นสกุล พรหเมศ
    18.พระองค์เจ้าหญิงโศกส่าง (พ.ศ. 2399) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาหงส์
    19.พระองค์เจ้าหญิงพิมพับสรสร้อย (พ.ศ. 2399-2468) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาวันดี
    20.พระองค์เจ้าชายจรูญโรจน์เรืองศรี (พ.ศ. 2399-2451) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาช้อย ทรงได้รับสถาปนาเป็นกรมหมื่นจรัสพรปฏิภาณ เมื่อ พ.ศ. 2439 ในรัชกาลที่ 5 ทรงเป็นต้นสกุล จรูญโรจน์
    21..พระองค์เจ้าชาย (พ.ศ. 2400) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดากลีบ
    22.พระองค์เจ้าชายสนั่น (พ.ศ. 2400) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาอ่อน ทรงเป็นต้นสกุล สายสนั่น
    23.พระองค์เจ้าชาย (พ.ศ. 2400) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาช้อย
    24.พระองค์เจ้าหญิง (พ.ศ. 2401) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสายบัว
    25.พระองค์เจ้าหญิงสอางองค์ (พ.ศ. 2403-2465) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาวันดี
    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว มิได้ทรงสถาปนาพระอัครมเหสี จึงมิได้มีพระโอรสและพระธิดาชั้นเจ้าฟ้า แต่ทรงมีพระสนมเอกคือ เจ้าคุณจอมมารดาเอม ซึ่งภายหลังได้รับสถาปนาเป็น เจ้าคุณพระชนนีเจ้าคุณจอมมารดาเอม

    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคตหลังจากพระราชพิธีบวร ราชาภิเษกแล้ว 10 ปี พระองค์ก็เริ่มทรงพระประชวรบ่อยครั้ง หาสมุฏฐานของพระโรคไม่ได้ เสด็จสู่สวรรคตเมื่อวันอาทิตย์ เดือน 2 แรม 6 ค่ำ เวลาเช้าย่ำรุ่ง ตรงกับ วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2408 พระชนมพรรษา 58 พรรษา ทรงอยู่ในอุปราชาภิเษกสมบัติทั้งสิ้น 15 พรรษา



    <hr> ขอขอบคุณข้อมูลจาก

    ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
    Retrieved from ".:: พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว - คลังปัญญาไทย ::."
    ประเภทของหน้า: บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์



    .:: พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว - คลังปัญญาไทย ::.

    ที่มา คลังปัญญาไทย


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949







    [​IMG] [​IMG]

    เชิญชาวสมาชิกชมรมพระวังหน้า ตอบกันมาได้เลยครับ




    .
     
  8. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    โมทนาสาธุ
    กราบ กราบ กราบ กราบ กราบ
     
  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    สำหรับเพื่อนชาวพระวังหน้า หากไม่สามารถร่วมบำเพ็ญกุศลถวายพระองค์ท่านได้ทันวันที่ ๗ ที่ผ่านมา ก็ยังสามารถน้อมถวายบุญกุศลแด่พระองค์ท่านได้อีกวันตรงกับวันแรม ๖ ค่ำ เดือนยี่ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๔ พระองค์ท่านทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรม หนังสือที่มอบให้กับเพื่อนที่ตอบคำถามได้ถูกต้องมีคุณค่ามากครับ พระราชหัตถเลขา(จดหมาย)ที่พระบรมเชษฐาธิราช(พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)มีถึงพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว มีไว้อย่างไรก็อยู่ในหนังสือเล่มนี้ น่าอ่านมากๆ คำที่พระองค์ท่านพูดถึงพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวใช้ว่าอย่างไร และอีกหลายอย่าง เห็นถึงพระอัจฉริยภาพของทั้ง ๒ พระองค์...
     
  10. Pinkcivil

    Pinkcivil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +1,644
    สวัสดีทุกท่านครับ
    เสาร์อาทิตย์ ที่ผ่านมาไปพิจิตรทำบุญตัดลูกนิมิต+ถวายพระอุโบสถ และไปพิษณุโลกทำบุญไหว้พระมาครับ เอารุปบรรยากาศ+รูปพระท่านมาฝากทุกท่านครับ
    ในภาพ หลวงพ่อเพชร ที่ วัดท่าหลวง พิจิตรและหลวงพ่อพระพุทธชินราชครับ

    ตอนไปกราบหลวงพ่อพระพุทธชินราช ก็เป็นเรื่องแปลก VVIP อีกแล้วครับ เมื่อวานวันอาทิตย์คนเยอะมากครับ พอเดินเข้าไปในพระอุโบสถ คนเต็มไปหมดเรย ก็เรยเดินเลาะออกด้านข้าง ไปๆมาๆ มาแบบงง งง อยู่ด้านหน้าสุดกว้างๆ ไม่มีคนเบียด ได้กราบและขอท่านถ่ายรูปแบบสบายๆครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1083521.JPG
      P1083521.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.9 MB
      เปิดดู:
      65
    • P1083530.JPG
      P1083530.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      56
    • P1083538.JPG
      P1083538.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.4 MB
      เปิดดู:
      67
    • P1083539.JPG
      P1083539.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.6 MB
      เปิดดู:
      63
    • P1093548.JPG
      P1093548.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.7 MB
      เปิดดู:
      72
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949

    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]

    รูปสวยมากครับ

    .
     
  12. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583

    พระพุทธชินราชผมเคยไปวันธรรมดาคนไม่ค่อยเยอะครับ
    สวยที่สุดจริงๆครับส่วนหลวงพ่อเพชรยังไม่มีโอกาสครับ
    วันอาทิตย์ที่ผ่านมาไปพิพิธภัณฑ์แล้วแต่หาที่จอดรถไม่ได้
    ผมจะไปTAXIแต่ ผบ ที่บ้านให้ขับรถไปเลยอดครับ แต่
    โชคดีที่เค้าเพิ่มเวลาถึงปลายเดือนนี้อาทิตย์นี้ยังไงก็ต้องไปครับ
     
  13. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    เมื่อวันอาทิตย์ผมไปวัดหน้าต่างนอก (หลวงพ่อจง) ไปกราบอัฐหลวงพ่อจงและกราบขอพรหลวงพ่อแม้นเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน พอเดินลึกเข้าไปในวัด ไปเจอหลวงพี่องค์หนึ่งกำลังเทตะกั่วหล่อพระอยู่ ผมไปกราบท่าน ได้คุยกันเล็กน้อย อยู่ดีๆ ท่านเอานิ้วชี้แตะพระทุกองค์ที่ห้อยอยู่โดยแตะข้างนอกเสื้อแล้วบอกว่า ขอดูองค์นี้หน่อยแรงดีจัง ปรากฏว่า เป็นพระพิมพ์ปัญจสิริเจ้าคุณกรมท่า พิมพ์พระประธานเอครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 มกราคม 2011
  14. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ก่อนไปวัดหน้าต่างนอก ผมไปกราบรูปองค์หลวงปู่มูนียะเถระเจ้าที่วัดสระมณฑล พอกราบเสร็จ หลวงพ่อไผ่ได้ให้ขนมที่ท่านเสกให้ผมรับประทานเดี๋ยวนั้นสองชิ้น และให้ดื่มน้ำมงคลที่เหลือถวายหลวงปู่ฯ ด้วยครับ วันนี้อิ่มบุญจริงๆ เพราะตอนเช้าผมก็ไปบริจาคทรัพย์เพื่อสงฆ์อาพาธ (ใช้หนี้สงฆ์) พร้อมกับปัจจัยที่คุณพ่อคุณแม่และ เพื่อนๆ ในบริษัทฯ ได้สมทบมาครับ ผมจะไปร.พ.สงฆ์ทุกเดือน ๆ ละครั้ง จึงแจ้งมาให้ทุกท่านร่วมโมทนาบุญด้วยกันครับ
     
  15. คุณเชิด

    คุณเชิด สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +11
    รบกวนถามหน่อยครับ ยังพอมีรุ่นนี้ไหมครับ
    [​IMG]
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  17. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]

    ผมเริ่มตั้งคำถามเลยนะครับง่ายมากครับ
    -ชื่อเรือพระที่นั่งของพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากที่ได้รับการสถาปนาเป็นวังหน้าแล้ว ชื่อว่าอะไร และบอกชื่อเดิมพร้อมประวัติการได้มาด้วยครับ

    </td> </tr> </tbody></table>


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    คำ ถามที่ ๒ ของผม ในห้องป้ายฉลองพระองค์ ตรงป้ายสถิตดวงพระวิญญาณมีตู้ทองด้านซ้าย และด้านขวา ถามว่า คืออะไร ด้านซ้าย และด้านขวามือของเราต่างกันอย่างไร
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]


    คำถามข้อที่ ๓ รอคุณหนุ่มแป๊บเดียวครับ

    </td> </tr> </tbody></table>


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    คำถามสุดท้าย
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]


    ให้เขียนประวัติโดยย่อของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าและกรมพระราชวังบวรวิชัย ชาญ (อย่่างน้อย 5 บรรทัด) , เครื่องดนตรีที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าทรงโปรดปรานคือ เครื่องดนตรีชื่ออะไร


    และ สิ่งที่ตั้งใจทำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า และ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (สิ่งที่ตั้งใจทำ เป็นการกระทำครับ ไม่ใช่การทำบุญด้วยเงิน เช่น ขอถือศีล 5 เป็นระยะเวลา 3 เดือน เป็นต้น)



    .

    </td> </tr> </tbody></table>


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    ๑) ชื่อ เรือพระที่นั่งของพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากที่ได้รับการสถาปนาเป็นวังหน้าแล้ว ชื่อว่าอะไร และบอกชื่อเดิมพร้อมประวัติการได้มาด้วย


    ๒) ในห้องป้ายฉลองพระองค์ ตรงป้ายสถิตดวงพระวิญญาณมีตู้ทองด้านซ้าย และด้านขวา ถามว่า คืออะไร ด้านซ้าย และด้านขวามือของเราต่างกันอย่างไร (ดูภาพประกอบ)
    [​IMG]




    ๓) ให้ เขียนประวัติโดยย่อของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าและกรมพระราชวังบวรวิชัย ชาญ (อย่่างน้อย 5 บรรทัด) , เครื่องดนตรีที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าทรงโปรดปรานคือ เครื่องดนตรีชื่ออะไร

    และ สิ่งที่ตั้งใจทำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า และ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (สิ่งที่ตั้งใจทำ เป็นการกระทำครับ ไม่ใช่การทำบุญด้วยเงิน เช่น ขอถือศีล 5 เป็นระยะเวลา 3 เดือน เป็นต้น)


    ไม่ต้องส่งทาง PM ตอบในกระทู้ได้เลยครับ สามารถลอกกันได้ตามสะดวก หรือจะสอบถามอากู๋ก็ได้ตามสบายครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>

    [​IMG] [​IMG]


    ไม่ยากครับ

    ถ้าไม่มีท่านใดตอบ เดี๋ยวตอบเองน๊ะครับ vb vb


    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เล่มขวา คือเล่มที่จะให้คุณหนุ่ม คุณน้องนู๋ และพี่ไฟดูด จะไปซื้อมาทำไมหรือครับ..s6..s6..
     

แชร์หน้านี้

Loading...