พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

s6...s6...มีคำถาม ๑ ข้อจากห้องพระป้ายฉลองพระองค์ครับ ไปชมจุดต่อไปกันดีกว่า..

 

โห.....สุดยอด!!! ประสิทธิพลังเพิ่มด้วยเหรอครับ หุ หุ

 

อาสาสมัครพาคณะผมเดินชมจุดต่อไป เก๋งจีนนุกิจราชบริหาร

ข้อมูลจากวิกิพีเดีย ให้ข้อมูลว่า เป็นอาคารสถาปัตยกรรมจีนภายในพระราชวังบวรสถานมงคล หรือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครในปัจจุบัน สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างจีนทั้ง 3 ด้าน ปัจจุบัน เป็นสถานที่เก็บรักษาป้ายอวยพรขนาดใหญ่ซึ่งเข้าใจว่าเป็นของถวายพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว

สถานที่นี้เองที่ผมก็ได้เข้าใจว่าทำไมถึงได้มีพระพิมพ์ปัญจสิริเก๋งจีนไตรโลกอุดรเกิดขึ้น พระพิมพ์นี้จึงเป็นพิมพ์ที่น่าจะสร้างเอาไว้ก่อนปีพ.ศ. ๒๔๒๘ เป็นอย่างน้อย ผมสันนิษฐานจากที่ว่า หลังจากที่พระองค์ท่านเสด็จสวรรคตในปีพ.ศ ๒๔๐๘ และกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญเสด็จทิวงคตปีพ.ศ. ๒๔๒๘ จนยุบวังหน้าในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว คงจะไม่ได้บูรณะใดๆ ซึ่งนั่นก็คือ สีของภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ช่างชาวจีนวาดเอาไว้น่าจะเป็นสีเดิมๆเมื่อร้อยกว่าปีก่อน (ความนี้สามารถเทียบเคียงได้กับภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดเชิงท่า จ.พระนครศรีอยุธยา เอาไว้ผมจะนำภาพเปรียบเทียบมาให้ชมกัน) Trip ต่อไป หากมีโอกาสได้ไปชมวังหน้าอีก ต้องใช้เวลากับจิตรกรรมฝาผนังทั้ง ๓ ด้านนี้เป็นพิเศษแล้ว เท่าที่พิจารณาดูก็เสียหายไปมาก สีปัญจสิริเดิมหลุดร่อนไปมาก

และโดยส่วนตัว คิดว่า มีความหมายมากกว่าเป็นสถานที่เก็บป้ายอวยพรขนาดใหญ่ ผมเชื่อว่า เพื่อนๆชาวพระวังหน้าคงมีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป..

 

s6...s6...อย่าเอ็ดไป คุณหนุ่มบอกว่าไม่ต้องอธิบายเพิ่ม.....สำหรับผมหากเป็นพระปลอม พระเก๊ ตอนนี้ไม่เก๊ ไม่ปลอมละ..

 

ว้าวๆๆๆๆ.... วันหน้าอย่าให้พบเจอพิมพ์เก๋งจีนอีกรึกันครับ หุ หุ

 

ยอดเลยครับพลัง ท่านเต็มที่เลยนะครับ เพียงแต่ท่านดุครับ หุ หุ

 

ภาพเก๋งจีน ๓ ภาพนี้ มีอะไรแปลกๆ ๒ ภาพ...๒ ภาพแรกถ่ายก่อน ภาพที่ ๓ หรือจะเกิดจากการอธิษฐานจิตขอพระองค์ท่านว่า พระพิมพ์เก๋งจีนไตรโลกอุดรที่ข้าพระพุทธเจ้าได้เก็บรักษาไว้ ขอองค์เหนือหัว หลวงปู่ท่านเจ้าวัง เทพเทวา ครูบาอาจารย์ ช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ที่ได้ร่วมสร้าง ร่วมเสก พระพิมพ์มีความละม้ายคล้ายคลึงกับ"เก๋งจีนนุกิจราชบริหาร" ขอทุกๆพระองค์ได้โปรดอโหสิกรรม ขอพระเมตตาสงเคราะห์ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเทอญ....

 

ผมเริ่มตั้งคำถามเลยนะครับง่ายมากครับ
-ชื่อเรือพระที่นั่งของพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากที่ได้รับการสถาปนาเป็นวังหน้าแล้ว ชื่อว่าอะไร และบอกชื่อเดิมพร้อมประวัติการได้มาด้วยครับ

 

คำถามที่ ๒ ของผม ในห้องป้ายฉลองพระองค์ ตรงป้ายสถิตดวงพระวิญญาณมีตู้ทองด้านซ้าย และด้านขวา ถามว่า คืออะไร ด้านซ้าย และด้านขวามือของเราต่างกันอย่างไร

คำถามข้อที่ ๓ รอคุณหนุ่มแป๊บเดียวครับ

 

หลังจากชมเก๋งจีนนุกิจราชบริหาร ก็ได้พบผนังทางเดินแถบหนึ่งได้ติดตั้งชิ้นส่วนไม้ที่ใช้สร้างเรือรบ ผมเห็นว่าลวดลายสวยงาม และเก่าดี เลยบันทึกภาพมาฝากเพื่อนๆกันครับ...

 

ใกล้กันบริเวณเก๋งจีนนุกิจราชบริหาร มีอาคารสร้างใหม่เกิดขึ้น

 

ก่อนจะไปกราบสักการะพระศักดิ์สิทธิ์ ๙ องค์ ไปกราบสักการะพระคเณศ ศิลปะชวา ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๕-๑๖ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงได้รับมาจากจันทิสิงหส่าหรี เมืองสิงหส่าหรี ประเทศอินโดนีเซีย ปีพ.ศ. ๒๔๓๙ ทรงประทับเหนือบัลลังก์กะโหลกในฐานะคณปติเจ้าแห่งภูติปีศาจ เพื่อขจัดอุปสรรคทั้งปวง ณ อาคารมหาสุรสิงหนาท

ปกติไม่ให้ถ่ายภาพในส่วนนี้ แต่วันนี้ยกเว้นให้ประชาชนทุกท่านสามารถบันทึกภาพได้

 

ระหว่างเส้นทางไปสักการะพระพุทธรูปแสดงธรรมสมัยทวารวดี ก็ได้พบสมอเรือรบของพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมทั้งตู้สำหรับประดิษฐานเทียนชัย แกะสลักเป็นสัญญลักษณ์ จปร

 

พระพุทธแสดงธรรม สมัยทวารวดี พุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๖ ชิ้นส่วนพระพุทธรูปเศียร และบั้นพระองค์จากวัดพญากง ต.สำเภาล่ม จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนพระอุระ พระเพลา พระบาท ขากวัดพระเมรุ จ.นครปฐม สรุปคือ มาจากต่างองค์มาต่อกัน

 

ภาพปูนปั้นสมัยรัชกาลที่ ๓ อยู่ภายในวังหน้า ลวดลายละเอียดแสดงให้เห็นถึงศิลปะของช่างจีน

 

๙ พระศักดิ์สิทธิ์ ....

๑) พระพุทธสิหิงค์
๒) พระหายโศก
๓) พระไภษัชยคุรุ
๔) พระชัยเมืองนครราชสีมา
๕) พระพุทธรูปทรงเครื่องพระมหาจักรพรรดิ
๖) พระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์แดงองค์ที่ ๑
๗) พระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์แดงองค์ที่ ๒
๘) พระพุทธรูปหลวงพ่อนาก
๙) พระพุทธรัตนมหามุนี

 

คำถามสุดท้าย

ให้เขียนประวัติโดยย่อของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าและกรมพระราชวังบวรวิชัย ชาญ (อย่่างน้อย 5 บรรทัด) , เครื่องดนตรีที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าทรงโปรดปรานคือ เครื่องดนตรีชื่ออะไร

และ สิ่งที่ตั้งใจทำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า และ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (สิ่งที่ตั้งใจทำ เป็นการกระทำครับ ไม่ใช่การทำบุญด้วยเงิน เช่น ขอถือศีล 5 เป็นระยะเวลา 3 เดือน เป็นต้น)


.

 

ใครจะว่าปลอมก็ช่างเขา ท่านผู้มีหน้าที่ ท่านทำหน้าที่ของท่านเอง

ว่าแต่ว่า เพียงแค่เห็นก็เป็นวาสนาแล้วครับ

เรื่องพิมพ์ฝีพระหัตถ์พระปิ่นเกล้า หากรุ่นไหนมีพระธาตุ ระวังด้วยนะครับ หากนำไปเลี่ยม อย่าเจาะรู เนื่องจากเราไม่รู้ว่า จะพลั้งเผลอทำพระธาตุหกออกมาหรือไม่ครับ


.

 

<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>

อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันอาทิตย์ หรรษา ครับ


.

 

นำภาพจิตรกรรมฝาผนังเปรียบเทียบมาให้ชมกัน

๓ ภาพแรกข้างบนเป็นจิตรกรรมฝาผนังที่เก๋งจีนนุกิจราชบริหาร

๓ ภาพถัดมาข้างล่าง สังเกตุกรอบรอบนอกของประตู เป็นจิตรกรรมฝาผนังที่วัดเชิงท่า

ข้อมูลจาก<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=686><TBODY><TR><TD width=686 colSpan=3>กรมศิลปากร. กองโบราณคดี. งานอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง. การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง..วัดเชิงท่า</TD></TR><TR><TD width=686 colSpan=3>.......... ต. ท่าวาสุกรี อ. เมือง จ. พระนครศรีอยุธยา. กรุงเทพฯ : กรม., 2526...(ND2552.ศ645ช73)*</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=686><TBODY><TR><TD width=686 colSpan=3>...........จิตรกรรมฝาผนัง วัดเชิงท่า เขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยฝีมือครูแขและคณะ เป็นจิตรกรรม</TD></TR><TR><TD width=686 colSpan=3>สีฝุ่น วรรณะสีเย็น เนื้อหาจิตรกรรมเป็นภาพพุทธประวัติ ทศชาติชาดก เทพชุมนุม ฮกลกซิ่ว ภาพชีวิต</TD></TR><TR><TD width=686 colSpan=3>ความเป็นอยู่ และธรรมชาติ ที่ตั้งจิตรกรรมอยู่ที่ศาลาการเปรียญ ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารที่กว้างใหญ่</TD></TR><TR><TD width=686 colSpan=3>การจัดวางองค์ประกอบภาพจึงแตกต่างจากวัดอื่นๆ สภาพจิตรกรรมลบเลือนมาก เริ่มดำเนินการ</TD></TR><TR><TD width=686 colSpan=3>อนุรักษ์ตั้งแต่ปี 2526 ด้วยการศึกษาและบันทึกหลักฐานจิตรกรรมก่อนการอนุรักษ์ และดำเนินการ</TD></TR><TR><TD width=686 colSpan=3>อนุรักษ์ด้วยวิธีการทำความสะอาดพื้นผิว เสริมความมั่นคงของชั้นสีรองพื้น และชั้นปูน เขียนซ่อมสี</TD></TR><TR><TD width=686 colSpan=3>และอาบผิวจิตรกรรมให้อยู่ในสภาพคงทนสืบไป


</TD></TR></TBODY></TABLE>
ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ลบเลือนของที่วัดเชิงท่าก็เป็นภาพที่เขียนเอาไว้ตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ก็พอจะเทียบสภาพของสีที่ผ่านกาลเวลามากกว่า ๑๕๐ ปี ว่าควรจะมีสภาพอย่างไร

ในรายละเอียดของที่กรมศิลปากรระบุไว้ที่วัดเชิงท่า(ที่ผมทำ hight light ไว้) มีการกล่าวถึงทัศนะในเรื่องของฮก ลก ซิ่ว ซึ่งก็ไปพ้องกับบทความในตำราวิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จฯ และพระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า ในส่วนของพระสมเด็จปัญจสิริ หรือสมเด็จฮกลกซิ่วนั่นเอง