พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ขอบพระคุณครับพี่เพชรที่นำหลวงปู่องค์งามๆมาให้ชมครับผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยครับพี่ ผมเข้าไม่ได้เลยครับเพิ่งเข้าได้ไม่ว่าจะใช้3.2ก็ตามครับ

 

เป็นไปตามที่กูรูน้องนู๋บอกไว้ทุกอย่างเลยครับ

 

ผมได้มานานมากแล้ว 1 องค์พระพุทธโธน้อย ของคุณแม่บุญเรือน โดยท่านเจ้าคุณอุดม (อาจารย์สุวัฒน์) ท่านมอบให้อ่ะครับ ตอนนี้ท่านเป็นเจ้าอาวาสที่วัดถ้ำวัฒนมงคล จ.ระยอง ครับ

ปล.สมัยก่อนอยู่ปูนซิเมนตืไทย ผมชอบไปทานก๋วยเตี๋ยวไก่ที่ซอยวัดอาวุธครับ อร่อยมากๆเรยครับ (มีก๋วยเตี๋ยวเนื้อด้วย อร่อยมากเหมือนกันแต่ผมไม่ทานเนื้อแล้วครับ)

 

เรียนท่านเลขาฯ อยากทราบว่ามีพระพิมพ์ที่มีขนาดประมาณพระหางหมาก พระคำข้าว หรือเปล่าครับ เผื่อบางทีผมมีวาสนาจะได้นำมาแขวนรวมเป็น 5 องค์ โดยมีพระสมเด็จ tott4 เป็นพระประธานหลักครับ

 

อ่า....เป็นความโชคดีอีกครั้งหนึ่ง ที่มั่วไปแล้วถูกครับ อย่าซีเรียสครับ s6 s6

 

พระพิมพ์เมตตา ๓ โลกไงครับ s6s6

 

จะไปมั่วถูกทุกครั้งได้ยังไงหนาท่าน

 

ผมจะเรียกว่า พิมพ์เป็นที่รักของสามโลก ผมว่าคำพูดจะสวยกว่ามากครับ

พิมพ์เป็นที่รักของสามโลก ผมจะนำมาให้ร่วมทำบุญปลายปีนี้ น่าจะเป็นงานผ้าป่ามหากุศล(ถ้าพี่แอ๊วจัดทำผ้าป่า) ครับ

ส่วนพิมพ์อื่นก็มีครับ เป็นพิมพ์ปิดตาโลกอุดร หรือพิมพ์ต้นรังคู่ ที่เป็นเนื้อกรมท่าครับ

.

 

เตือนโพสต์ข้อความทางเน็ต ระวังผิด พ.ร.บ.คอมฯ

ICT เตือนโพสต์ข้อความเน็ตระวังผิด พรบ.คอม (ไอเอ็นเอ็น)

ไอซีที เตือน ประชาชนส่งคลิป โพสต์ข้อความผ่านเน็ต ระวังเข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

นายอารีย์ จิวรรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร หรือ ไอซีที เปิดเผยว่า ขณะนี้พบการกระทำผิดเกี่ยวกับเว็บไซต์หมิ่นสถาบันเบื้องสูง และหมิ่นประมาทมากที่สุด รองลงมาเป็นเว็บไซต์ลามกอนาจาร, ยาเสพติด ยาทำแท้ง ยาเพิ่มพลังทางเพศ ส่วนที่พบน้อยที่สุด เป็นเว็บไซต์ด้านการพนัน ที่ลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากจบการแข่งขันฟุตบอลโลก เช่นเดียวกับเว็บไซต์กระทำผิดด้านการเมืองที่ลดลง

นอกจากนี้ ยังพบว่า ในช่วงนี้มีการโพสต์ข้อความ แสดงความคิดเห็น และส่งคลิปเกี่ยวกับข่าวดารานักร้องนักแสดงค่อนข้างมาก จึงอยากเตือนประชาชน ให้ระมัดระวัง การโพสต์ข้อความผ่านทางอินเทอร์เน็ต และการส่งต่อคลิป จะเข้าข่ายการกระทำผิดทางพระราชบัญญัติว่า ด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ที่มา ไอเอ็นเอ็น


.

 

เตือนภัย 22 จังหวัด เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก

ปภ. แจ้งเตือน 22 จังหวัด ระวังอันตรายจากภาวะตกฝนหนัก ระหว่างวันที่ 13 -16 ตุลาคม นี้ (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย 22 จังหวัด ทั้งบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ ในพื้นที่ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวม 22 จังหวัด ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก ระหว่างวันที่ 13 -16 ตุลาคม 2553 อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม

ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ พร้อมประสานให้ศูนย์ป้องกัน บรรเทาสาธารณภัยเขตสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง และจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคใต้ตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย พัดนำความชื้นเข้าสู่พื้นที่รับลมมรสุมบริเวณภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ระหว่างวันที่ 13 – 16 ตุลาคม 2553 อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ ในพื้นที่บริเวณภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวม 22 จังหวัด ได้แก่

กาญจนบุรี
ราชบุรี
ชลบุรี
ระยอง
จันทบุรี
ตราด
เพชรบุรี
ประจวบคีรีขันธ์
ระนอง
ภูเก็ต
กระบี่
พังงา
ตรัง
ชุมพร
สุราษฎร์ธานี
นครศรีธรรมราช
พัทลุง
สงขลา
ยะลา
ปัตตานี
นราธิวาส
สตูล

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมการป้องกัน และระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและคลื่นลมแรงที่อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนพืชผลทางการเกษตรของประชาชน โดยให้ติดตามพยากรณ์อากาศ และหมั่นสังเกตสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติอย่างสม่ำเสมอ

สำหรับชาวเรือชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ด้วย พร้อมทั้งได้สั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวังแจ้งเตือนภัย และรายงานสถานการณ์ภัยให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจทราบ และดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยฯ ของจังหวัด ให้สามารถช่วยเหลือประชาชน หากเกิดสถานการณ์ภัยขึ้นในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง และจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย หากประชาชนในพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป





ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย


.



.

 

ตักบาตรขนมครก งานบุญ'บางคนที'

คอลัมน์ สดจากเยาวชน

ยศศยามล กรมติ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ในวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 10 ที่ผ่านมา ชาวบ้านบางพลับ ต.บางพรม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ต่างร่วมแรงร่วมใจ เป็นส่วนหนึ่งในการจัดงานประเพณีภายในบริเวณวัดแก่นจันทร์เจริญ

งานประเพณีที่ว่าเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน และมีเพียงแห่งเดียวในโลก คืองานทำบุญตักบาตรขนมครก-น้ำตาลทราย ซึ่งทางชุมชนจัดต่อเนื่องยาวนานถึงร้อยกว่าปีมาแล้ว

จากงานเล็กๆ ที่มีชาวบ้านในชุมชนช่วยกันจัดด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ปัจจุบันกลายเป็นงานยิ่งใหญ่ระดับจังหวัด มีส่วนราชการเข้ามาช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน งานนี้จึงมีชื่อเสียงมีนักท่องเที่ยวสนใจเข้ามาแวะเวียนเยี่ยมชมและทำบุญกันล้นหลาม

ทั่วทั้งบริเวณงานหอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นขนมครกร้อนๆ ทั่วบริเวณวัดแก่นจันทร์เจริญมองเห็นเตาขนมครกกว่า 40 เตา วางเรียงรายอยู่โดยรอบศาลาการเปรียญ ผู้คนมากมาย ทั้งชาวบ้านและเด็กๆ ในชุมชน รวมไปถึงนักท่องเที่ยว ต่างช่วยกันหยอด แคะ และช่วยนำขนมครกจัดเรียงใส่ในกระทงใบตองสีเขียวสวย ไปวางเรียงบริเวณหน้าศาลาการเปรียญ

หากใครอยากทำบุญก็หยิบกันไปคนละกระทง สองกระทง หยอดปัจจัยที่ตู้หยอดเหรียญตามจิตศรัทธา บรรยากาศคึกคักได้บุญกันถ้วนหน้า

หลายคนอาจอยากทราบถึงความเป็นมาเป็นไปของประเพณีการตักบาตรขนมครก ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่าผู้ริเริ่มประเพณีนี้คือ พระครูสมุทรสุตกิจ หรือหลวงปู่โห้ เจ้าอาวาสรูปแรกประจำวัดแก่นจันทร์เจริญ ริเริ่มประเพณีนี้ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2437 <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ด้วยเหตุที่ว่าในสมัยนั้น ชาวชุมชนวัดแก่นจันทร์เจริญที่มาทำบุญตักบาตรโดยมากมีฐานะยากจน ท่านเจ้าอาวาสจึงเกิดความคิดที่ว่าจะให้ชาวบ้านทำบุญตักบาตรด้วยวิธีใดจะไม่ต้องเสียเงินจำนวนมาก จึงให้นำขนมครกมาถวายแทนการตักบาตรด้วยอาหาร เพราะขนมครกสำหรับผู้คนที่นี่เป็นสิ่งที่ไม่ต้องซื้อหา วัตถุดิบที่เป็นส่วนประกอบของขนมครกก็หาได้ไม่ยากในชุมชน อีกทั้งยังเป็นขนมหวานซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครนำมาถวาย จึงกลายเป็นประเพณีการตักบาตรขนมครกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ด.ญ.ยอกร อยู่ทน หรือน้องแตงโม เด็กหญิงในชุมชนวัดแก่นจันทร์เจริญ บอกว่า "วัตถุดิบที่นำมาใช้ทำขนมครก ส่วนใหญ่จะมีอยู่แล้วในหมู่บ้าน ราคาก็ไม่แพง ใช้เพียงแค่ไม่กี่อย่าง ก็ได้ขนมครกแสนอร่อยแล้วค่ะ"

วัตถุดิบที่แตงโมบอกว่าหาได้ง่ายในชุมชน ได้แก่ แป้งข้าวเจ้า กะทิ น้ำตาล และเกลือ เชื่อว่าคนบางคนทีต้องมีวัตถุดิบเหล่านี้อยู่ทุกหลังคาเรือนอยู่แล้ว โดยเฉพาะมะพร้าวที่จะนำมาคั้นทำกะทิ หาได้ง่ายๆ ในสวนหลังบ้าน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

แตงโมแอบกระซิบบอกเคล็ดลับการทำขนมครกให้ได้รสกลมกล่อมแสนอร่อยมาอีกว่า "ให้หยอดแป้งขนมครกลงไปครึ่งหนึ่งก่อน ทิ้งไว้สักพัก แล้วค่อยเติมน้ำกะทิตามลงไป จากนั้นให้โรยต้นหอมตามค่ะ"

"เคล็ดลับอีกอย่างคือ เราจะแคะได้ตอนไหน ให้ดูว่าขอบขนมครกเริ่มเหลืองหรือยัง ถ้าเริ่มเหลืองแล้วก็แคะได้ค่ะ" คำบอกเล่าจากน้องส้มโอ ด.ญ.สิริกานต์ มณฑาทิพย์ ชี้ให้เห็นว่าเด็กๆ ในชุมชนต่างสนใจการสืบสานประเพณีทำบุญตักบาตรขนมครก แม้เพียงขั้นตอนเล็กๆ ก่อนจะได้มาซึ่งขนมครกเด็กๆ ก็พิถีพิถันไม่แพ้ผู้ใหญ่ในชุมชน

แรกเริ่มเดิมที ชาวบ้านบอกว่าต่างคนต่างทำขนมครกกันเองที่บ้าน แล้วนำมาตักบาตรรวมกันที่วัด โดยไม่ผิดแผกกับปัจจุบัน คือนำขนมครกใส่ใบตองนำไปวางถวายให้พระสงฆ์ไว้บนถาด และนำน้ำตาลทรายใส่บาตรที่เรียงรายอยู่

แต่ที่แตกต่างคือสมัยนี้เมื่อประเพณีได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักมากขึ้น ชาวบ้านจึงต้องมาช่วยกันทำขนมครก ทั้งหยอด แคะ กันที่วัด เพื่อให้ขนมครกมีปริมาณเพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่อยากมาร่วมทำบุญกันในงานนี้ รายได้ที่ได้จากนักท่องเที่ยว ชาวบ้านนำไปถวายวัดทั้งหมดเพื่อพัฒนาวัดต่อไป อีกทั้งยังเป็นการทำบุญร่วมกันทั้งคณะศรัทธาและนักท่องเที่ยวที่สนใจ

การเตรียมงานจึงต้องเริ่มกันตั้งแต่ฟ้ายังมืด เช้าตรู่วันนี้ชาวบ้านมารวมตัวกัน เพื่อร่วมแรงร่วมใจกันตั้งแต่การโม่แป้งขนมครกเลยทีเดียว มีหลายส่วนที่ชาวบ้านร่วมกันช่วยดูแลและจัดการ ทางโรงเรียนวัดแก่นจันทร์เจริญจึงไม่รอช้าที่จะนำเด็กๆ ที่โรงเรียนมาเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในวันนี้ เพื่อให้เด็กๆ ซึมซับความสำคัญของงานบุญประเพณีประจำถิ่นของตน และเกิดความรู้สึกอยากสืบสานไว้ต่อไป

สิ่งที่ชาวบ้านและเด็กๆ ได้รับหลังจากจัดงานบุญประเพณีตักบาตรขนมครกนี้ขึ้นมา เห็นจะเป็นความสามัคคีที่แฝงมาในความหอมกรุ่นของขนมครกหลายร้อยฝา ที่ชุมชนวัดแก่นจันทร์เจริญร่วมแรงแข็งขันจัดงานนี้ขึ้นมาด้วยความศรัทธา

เชื่อว่าเด็กๆ และชาวบ้านจะยังคงอนุรักษ์งานบุญตักบาตรขนมครกนี้ไว้ได้อีกนานเท่านาน

ติดตามความสนุกสนานภายในงานตักบาตรขนมครก และเจตคติดีๆ ที่แฝงมาในขนมหวานโบราณของไทย ในรายการทุ่งแสงตะวัน ตอน ตักบาตรขนมครก วันเสาร์ที่ 16 ต.ค. ช่อง 3 เวลา 06.25 น. www.payai.com

 

sithiphong
สวัสดีตอนเย็น งานยุ่ง ยังไม่กลับหรือครับพี่

 

นิดหน่อยครับ

อีกสักพักว่าจะกลับแล้วครับ

.

 

:::เพชร:::, sittiporn.s, tawatd สวัสดียามค่ำครับพี่ๆทุกท่าน

 

อยู่กันน้อยๆในค่ำคืนดึกๆแบบนี้ ก็แอบนำพระผงเส้นบรรจุเส้นเกศาหลวงปู่แหวน ดอยแม่ปั๋งมาฝากกันครับ...

 

ทักทายยามดึกครับ ช่วงนี้ธุระไปโน่นไปนี่ หลายที่ก็เลยไม่ค่อยมีเวลามาเยี่ยม ทักทายครับยังเป็นชมรมที่อบอุ่นเหมือนเดิมเลย แวะเข้ามาที่ไรรู้สึกถึงมิตรไมตรีอันดีของพวกพี่ได้เสมอครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ

 

sithiphong สวัสดีตอนเช้าวันหยุดครับพี่หนุ่ม

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat, sithiphong+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

โอ้โฮ ... มีเพียงเราสองคน หุหุ ...

 

สวัสดีตอนเช้าครับพี่ท่าน

 

​

สาธุครับพี่
ผมเคารพรักท่านมากๆครับ สำหรับหลวงปู่แหวน ตลอดทั้งพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายกัมมัฏฐานทุกๆรูป ...

กราบ กราบ กราบ
กราบ กราบ