พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ไปปีนี้จะห้อยอะไรไปตรวจสอบรังสีออร่าอีกครับ?

 

พิมพ์เป็นที่รักของสามโลก และ พระกริ่งปวเรศ ครับ


.

 

ไว้จะรอลุ้นนะครับผม...อยากรู้พระกริ่งปวเรศองค์จารรอบเพิ่มเติมเหมือนกัน

 

ฝนถล่มสั่งลา ก่อนหนาวเยือน

ฝนถล่มสั่งลา ก่อนหนาวเยือน (ไทยโพสต์)

เตือนฝนยังตกหนักในทุกภาค โดยเฉพาะตั้งแต่ภาคกลางลงไปและตะวันออก คลื่นลมแรง อาทิตย์หน้าลมหนาวเริ่มกรายมาแล้ว

นายต่อศักดิ์ วานิชขจร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมนี้ เตือนภัยสภาวะอากาศของประเทศไทยในขณะนี้ว่า ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง พื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ที่ราบใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ดังนี้

ในช่วงวันที่ 12-13 ต.ค. บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี และราชบุรี ในช่วงวันที่ 14-17 ต.ค. บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ในช่วงวันที่ 12-17 ต.ค. บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต

สำหรับชาวเรือทั้งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 12-15 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียง เหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรกและอากาศเย็นลง

"ช่วงนี้อากาศของบ้านเรา ตัวการใหญ่ต้องสนใจไปที่ร่องมรสุมผ่านภาคกลาง อ่าวไทย และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณภาคกลางมีฝนค่อนข้างมาก และมีความกดอากาศต่ำ เข้ามากระทบจะทำให้ฝนตกหนักบ้างเป็นช่วงๆ ปลายสัปดาห์นี้ก็จะมีความกดอากาศต่ำเข้ามาอีกลูกหนึ่ง จะทำให้ภาคตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้น และตอนนี้ฝนได้เคลื่อนตัวไปทางตะวันตกแล้ว จะมีอิทธิพลต่อทางจังหวัดภาคตะวันตกในคืนนี้ และจะมีตัวใหม่เกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้ หลังจากนี้ไปจะเป็นเรื่องของลมหนาว จะเข้ามาทางภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ จะทำให้ทางเหนือรู้สึกเย็นมากขึ้น และในเวลาเดียวกันในอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรงโดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออกและ ฝั่งอ่าวไทยในด้านบน ตั้งแต่ประจวบลงถึงสุราษฎร์ธานี ก็ต้องระมัดระวังเรื่องของดีเปรสชันที่จะเกิดขึ้นในอ่าวไทย" นายต่อศักดิ์กล่าว



ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์





http://www.thaipost.net/x-cite/131010/28641


.




.

 

โรคกระเพาะ... เพราะอะไร?

โรคกระเพาะ
​

โรคกระเพาะ... เพราะอะไร? (BE Magazine)
เรื่อง : ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ

เวลา พักกลางวันมาถึงแล้ว ครั้นจะชวนเพื่อน ๆ ร่วมงานไปกินข้าว ก็เหมือนกับไม่มีใครอยากลุก หันไปทางซ้าย หัวหน้าก็ขะมักเขม้นกับงานตรงหน้า ไม่กล้าเรียก หันทางขวาเพื่อนร่วมงานก็กำลังเครียดกับเอกสารสารพันบนโต๊ะ สรุปว่าไม่มีใครไปกินข้าวเลยหรอ? นี่หรือเปล่าที่ทำให้คนทั้ง 2 บ่นปวดท้อง ไม่ว่าจะก่อนกิน หรือหลังกิน

สาเหตุของการเกิดโรคกระเพาะ

ผู้ร้าย ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะคือ "เชื้อโรค" ที่ชื่อว่า เอช.ไพโลไร (Helicobacter pylori)* ซึ่งเป็นแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร มันจะอยู่ภายในกระเพาะอาหารของผู้ติดเชื้อไปตลอดชีวิต โดยจะอยู่บริเวณด้านล่างของกระเพาะอาหาร เชื้อนี้จะไปกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในกระเพาะอาหาร ทำให้กรดถูกขับออกมามากขึ้น จนเกิดการอักเสบที่เยื่อบุกระเพาะ นำไปสู่การเกิดแผลเลือดออกในกระเพาะอาหาร และลำไส้ส่วนบนนั่นเอง

หมายเหตุ : *แบร์รี เจ มาร์แชลล์ แพทย์ด้านทางเดินอาหาร และเจ โรบิน วาร์เรน แพทย์ด้านพยาธิวิทยา ได้ค้นพบเชื้อแบคทีเรีย "เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร" (Helicobacter pylori) และได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์

การป้องกันการเกิดโรคกระเพาะ

อันดับแรกเลยคือ ควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลา ไม่ ได้หมายความว่าต้องกินให้ครบ 3 มื้อ ถ้าปกติกินแค่ 2 มื้อ ก็ขอให้ตรงเวลาทั้งสองมื้อนั้น เช่น รับประทานอาหารตอนเช้า 9.00 น. กลางวัน 12.30 น. และตอนเย็น 16.00 น. ก็ควรที่จะตามนี้ทุกวัน หากหิวก่อนเวลา ให้ดื่มน้ำ หรือน้ำข้าวแทน ให้คิดว่ากระเพาะเหมือนแฟนคนหนึ่ง ถ้ามากินข้าวไม่ตรงเวลาก็อาจมีหงุดหงิดแสบร้อนได้จนถึงเป็นแผล!

อย่านอนดึก พอเรายิ่งดึกเราก็จะยิ่งหิว เพราะกรดถูกหลั่งออกมาในท้องมากเกินไป เราเลยหิว ถ้าหิวเมื่อไรก็ให้เข้านอนไปเลย อย่ากิน ดีออก! เป็นวิธีควบคุมน้ำหนักไปในตัวด้วย

เลี่ยงอาหาร "มัน" ที่ดูอร่อยลิ้น เพราะ ความมันจะอยู่ในกระเพาะได้นาน ทำให้น้ำย่อยมีโอกาสหลั่งออกมาท่วมท้นมากกว่าปกติ อาการปวดท้องก็จะตามมาติด ๆ รวมทั้งอาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด และสิ่งที่ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร เช่น น้ำอดลม ยาแก้ปวดแอสไพริน ยาแก้ปวดข้อ เป็นต้น

ที่สำคัญควรงดเหล้าและบุหรี่ เพราะมันมีส่วนกระตุ้นการหลั่งของกรดในท้องเช่นกัน ส่วนสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็น วิ่งเหยาะ ๆ เดินเร็ว ขี่จักรยาน หรือว่ายน้ำ เพื่อขจัดความเครียดที่ซึมซาบอยู่ทุกอณูของร่างกาย การล้างความเครียดเห็นท่าจะง่ายกว่าการไม่เครียดเยอะ!

​

โรคกระเพาะถามหาแล้ว จะรักษาอย่างไร... ไม่อยากกินยา

ใคร ๆ ก็คงไม่อยากไปหาหมอ หรือกินยาเป็นกำ การรักษาโรคกระเพาะก็ต้องเริ่มจากการกิน คือ ให้กินกล้วยแบบสุกแข็ง เช่น กล้วยหักมุก หรือกินกะหล่ำปลีปรุงสุกบ่อย ๆ เพราะกะหล่ำปลีมีสารที่ช่วยสมานแผลในกระเพาะ (ผลจากงานวิจัย Thaly H. A new therapy of peptic ulcer: The anti-ulcer factor of cabbage. Gaz Med Fr 1965; 72:1992-3) อย่ากินวิตามินที่เป็นกรดมากเกินไป อย่าง "วิตามินซี" เพราะอาจไประคายเยื่อกระเพาะอ่อน ๆ ได้ โดยเฉพาะเมื่อกินตอนก่อนนอน

กดจุดปรับการทำงานของกระเพาะและม้าม**

ใช้นิ้วหัวแม่มือกดลงไปที่จุดบริเวณใต้ขอบล่างของสะบ้าลงมา 4 นิ้วมือ และห่างจากสันหน้าแข้งมาทางด้านนอก 1 นิ้วมือ กดนวดจุดหนัก ๆ ด้วยหัวแม่มือ นาน 2 นาที นวดทั้ง 2 ขา ว่ากันว่า จุดนี้จะปรับการทำงานของกระเพาะอาหารและม้ามได้

ใช่ ว่าคนที่เป็นแผลในกระเพาะอาหารจะติดเชื้อ H.pylori กันทุกคน แต่จากสถิติผู้ติดเชื้อ 60-70% ของประชากรทั้งประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อนี้ประมาณ 80-90% และกว่า 90% สามารถหายจากโรคนี้ได้อย่างถาวร แต่ถ้าแผลดังกล่าวไม่หาย และเชื้อนี้ยังไม่หายไป ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดเป็นโรคมะเร็งในกระเพาะอาหารได้

อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกคนใส่ใจดูแลสุขภาพ ระวังอย่าให้เกิดแผลในกระเพาะ หากเกิดแล้วต้องรีบรักษาให้หายโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยการกินแบบธรรมชาติ หรือการกินยาลดกรด ยาเคลือบกระเพาะอาหาร แต่หากปล่อยไว้เรื้อรัง มะเร็งวายร้ายตัวการใหญ่สุด อาจจะมาคุกคามคุณได้นะคะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

- มูลนิธิหมอชาวบ้าน
- นพ.กฤษดา ศิรามพุช พบ.(จุฬา) ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ
- **หนังสือ รักษาโรคด้วยวิธีธรรมชาติ : รีดเดอร์ส ไดเจสท์


โรคกระเพาะ อาการโรคกระเพาะ สาเหตุ โรคกระเพาะอาหาร
.




.




.

 

ขอบคุณคุณหนุ่มนะครับ
เดี๋ยวอาทิตย์นี้ค่อยไปซื้อ

 

ปัญญาเซน : คนเรา หากต้องการใช้ชีวิตบนโลกอย่างมีความสุข ทุกข์น้อย วิธีการคือต้องลดความทุกข์ เปิดใจให้กว้าง เมตตาต่อตนเอง อดกลั้นต่อผู้อื่น จึงจะมีชีวิตที่สุขสบาย ดำเนินชีวิตด้วยความเยือกเย็น นิ่งสงบ ไม่เร่งร้อน

ใกล้เคียงกับคำคมที่ว่า "รีบอย่างช้าๆ" นะเนี่ย ...

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat, ปฐม+

เป็นไงบ้างครับทางนู้นนนน ... ฝนตกม๊ายย? ทางนี้เปาะแปะๆๆ แต่เย็นดี..
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สำหรับงานบุญ สังฆทานยา ถวายพระอาจารย์นิล และ พระอาจารย์รูปหนึ่ง

เดิมผมเองตั้งใจว่า สำหรับ 3 ท่านแรก ที่ได้แสดงเจตนาในการร่วมทำบุญและโอนเงินร่วมทำบุญมา 3 ท่านแรก ผมจะมอบพระบูชา พระมหากัจจายนะ หน้าตัก 3" ให้

ตอนนี้มีผู้ที่โอนเงินร่วมทำบุญเกิน 3 ท่านแล้ว

ท่านแรกโอนเงินร่วมทำบุญมาเมื่อวันที่ 8 ตค.2553

ท่านที่สองและท่านที่สามมอบเงินร่วมทำบุญเมื่อวันที่ 10 ตค.2553 (ผมนำเข้าบัญชีเมื่อ 11 ตค.2553)

ท่านที่สี่โอนเงินร่วมทำบุญเมื่อวันที่ 13 ตค.2553

มาเฉลยสำหรับท่านที่ได้รับ พระบูชา พระมหากัจจายนะ หน้าตัก 3"

1.คุณปฐม
2.คุณณฑนน (โคราช)
3.คุณธวัช (น่าน)

สำหรับท่านที่ 4 ก็ไม่ต้องเสียใจนะครับ น้องpsombat

โมทนาบุญทุกประการ


.

 

สำหรับรูปแทนตัวของ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->psombat<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3912035", true); </SCRIPT>



องค์พระบูชา เชียงแสน นั่นเป็นพระบูชา เนื้อเงิน หน้าตัก 12 นิ้ว

สวยมากๆครับ



.

 

เมื่อคืนนี้ ผมคุยกับพี่สิทธิพร เรื่องของประสบการณ์ของพระพิมพ์ของวังหน้าที่ผมห้อยอยู่

พี่สิทธิพรบอกผมว่า หนุ่มก็ลองเล่าประสบการณ์ให้ฟังกันบ้าง

ผมบอกพี่สิทธิพรว่า ที่ผมไม่ได้เล่าเรื่องออกอากาศก็เนื่องจากว่า ผมไม่ต้องการให้ทราบว่า ผมเองทำงานที่ไหน เนื่องจากพระวังหน้าที่ห้อย จะขึ้นอยู่กับอาชีพที่ผู้สวมใส่ห้อยอยู่ด้วย

ไว้ผมเรียบเรียงดู แล้วจะนำมาเล่าสู่กันฟังครับ


.

 

เหมาะสมดีแล้ว ยินดีด้วยนะครับทั้งสามท่าน

โมทนาสาธุครับพี่

 

ขอบคุณมากครับพี่ และขอบคุณท่านเจ้าสัวที่แบ่งมาให้ขึ้นบ้านใหม่...

ส่วนพระแก้วมรกต(ฤดูร้อน-ตรงกับราศีเกิดพอดี) นั่น ประดับด้วยอัญมณีและพระโลหิตธาตุขององค์ปัจจุบันครับผม

 

ขอขอบพระคุณพี่หนุ่มและพี่ๆทุกท่านที่เมตตากระผมครับ แค่ความรู้รวมถึงรูปพระที่พี่ทั้งหลายนำมาให้ชมก็ถือเป็นพระคุณยิ่งแล้วครับผม

 

สบายดีครับพี่ท่าน แต่ทางนี้ฝนเริ่มหนักแล้วละครับ ว่าไปแล้วพระที่โต๊ะหมู่บูชาพี่ท่านงามๆทั้งนั่นเลยนะครับคุณพี่

 

อืม...ขอบคุณครับ กว่าจะมาถึงจุดๆนี้ได้ ก็เหนื่อยหลายรอบเลย หุหุ

แต่ก็คุ้มค่ามากๆครับ ลองดู..

ถ้าได้เห็นรูปห้องพระหมู่ของพี่หนุ่มกะพี่เพชร รับรองอึ้งไปหลายวันนะ อิอิ

 

เป็นเคล็ดลับที่สมาชิกหลายๆท่านยังครุมเครืออยู่ ... จะรอฟังอีกครั้งครับผม

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 19 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 13 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, aeziss, nongnooo+, psombat+, เอ๋เชียงใหม่ </TD></TR></TBODY></TABLE>

สวัสดีครับทุกท่าน

มีสมาชิกล่องหนมาอีกแล้วครับ

.

 

เสดงว่าพี่ท่านเคยอึ้งมาแล้วละจิครับหุหุหุ นี่ถ้าเป็นผมคงอ้าปากค้างแน่ๆเลย555

 

หุหุ ปริมาณ+คุณภาพ=ห้องพระหมู่พี่หนุ่มหรือพี่เพชร หุหุ ( ได้ข่าวแว่วๆว่าท่านพี่สิทธิพรอีกคน )

ปล: ต้องบอกว่าห้องพระหมู่ มิใช่โต๊ะหมู่หรือหิ้งพระหมู่นะจ๊ะ