พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

พอจะว่างแล้วครับ คือช่วงนี้ผมเองไม่ได้เข้าเวปในช่วงเช้าเท่าไร เนื่องจากเป็นอาทิตย์ที่รับผิดชอบอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน
ปรากฏว่าคนไข้อุบัติเหตุ และ อาการหนักๆมากันเยอะมาก ต้องปั๊มหัวใจ ใส่ท่อช่วยหายใจกันทุกวัน วันละหลายราย
พอตกเย็นก็ติดนู่นติดนี่กว่าจะได้เข้ามากระทู้ก็มืดค่ำ เมื่อวานนี้พอดีมีคนทำคอมพ์ให้สามารถเล่นเน็ตที่บ้านพักได้
ซึ่งแต่เดิมทำไม่ได้ จึงได้เข้าเน็ตแต่เช้าที่บ้านพักเป็นวันแรก ก็มาพบโพสของคุณเพชร ก็นึกในใจว่าอยากจะชวนคนอื่นทำบุญด้วย จึงได้โพสในส่วนของตนเองก่อน เพราะรู้สึกแปลกๆว่าถ้ารอคนอื่นจะต้องเต็ม
พอมาโพสของตนเองได้ไม่เกิน 5 นาที คนไข้ก็หลั่งไหลกันเข้ามาอีกครั้ง ทั้งๆที่ไม่มีวี่แวว
ทำให้ไม่ได้ชักชวนผู้อื่นเสียที
เมื่อชวนและได้รับคำตอบว่ามีผู้สนใจร่วมบุญ 10 เล่มก็ได้ refresh เห็นว่าเหลือ 10 เล่มพอดี ตอนแรกก็แอบตกใจเพราะเห็นชื่อพี่ katicat ก็คิดว่าคงจะหมดไปแล้ว
เมื่อเห็นว่าเหลือ 10 เล่มพอดีจึงคิดว่าช่างประจวบเหมาะเสียจริง เราคงคิดมากไปเองที่คิดว่าผู้อื่นจะพลาด
กว่าจะโพสได้ก็ใช้เวลาพอสมควรเพราะคนไข้เข้ามาจากไหนอีกไม่รู้ จนโพสเสร็จ จึงได้เห็นว่ามีผู้ร่วมจองกันไปหมดแล้ว ก็ตกใจว่าอะไรจะบังเอิญขนาดนี้

ก็คงจะกลับไปบอกบุญอีกอย่างกับผู้ที่ตั้งใจร่วมบุญมา เพราะแต่เดิมตั้งใจจะไปชักชวนอยู่แล้ว เพียงแต่เห็นว่ายังมีเวลากว่าจะครบกำหนด
เรื่องของวาระนั้น ไม่เชื่อก็เห็นจะไม่ได้จริงๆครับ แต่ก่อนไม่เคยเห็นจะรู้สึกอย่างนี้ ไม่รู้ว่าเพราะไม่มี หรือ ไม่สังเกตเองก็ไม่ทราบ

 

สร้างฐานรองรับพระสีวลีสูง ๙ เมตร "วัดทุ่งกุลาเฉลิมราษฎร์" จ.ร้อยเอ็ด(องค์พระสร้างเสร็จแล้ว ยังขาดเจ้าภาพสร้างฐานพระประมาณ ๓๐,๐๐๐ บาท)ปิดรับการโอนเงินเพื่อโอนเงินต่อไปยังพี่สุพิตราภายในวันศุกร์ที่ ๓๐ มกราคมนี้ เท่าไหร่ก็เท่านั้น ให้บุคคลอื่นได้ร่วมบุญนี้ตามวาระกันบ้าง..

๑) คุณ:::เพชร::: 500 บาท
๒) คุณdragonlord xxx บาท(รอแจ้งยอด)
๓) คุณhongsanart 760 บาท
๔) คุณaries2947 200 บาท
๕) คุณnongnooo 360 บาท
๖) คุณnewcomer 300.72 บาท
๗) คุณkwok 260 บาท
๘) คุณตั้งจิต 200 บาท
๙) คุณsira 271 บาท
๑๐)คุณlittlelucky xxx บาท(รอแจ้งยอด)
๑๑)คุณteerachaik 500 บาท
๑๒)คุณkaticat 500 บาท
๑๓)คุณคีตา 500 บาท


จะสรุปยอดทั้งหมดในวันที่ 30 มกราคม ช่วงบ่าย 2 โมงครับ


สามารถโอนเงิน ทั้ง ๒ รายการนี้ได้ที่
บัญชีคุณอภิวัฒน์ ชัฎอนันต์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาซอยไชยยศ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 040-2-25999-6

 

ตั้งใจว่าจะแจกเป็นธรรมทานแน่นอนครับ อ่านเพียงส่วนต้นก็รู้สึกทึ่งแล้วครับ
เพียงแต่ว่าสงสัยแค่ 9 เล่มก็คงจะใช้เวลานานแล้วครับ เพราะรู้สึกเนื้อหาจะหนักไปหน่อยสำหรับคนทั่วไป
คงต้องเลือกคนให้อย่างที่คุณเพชรบอกครับ
และพูดกันตรงๆ บางทีคนที่อยากร่วมบุญกับผม ไม่ได้ไปอาจจะดีกว่าครับ ตอนแรกที่ผมชวนยังไม่เห็นเนื้อหาส่วนหลังที่นำมาโพสนี้ครับ
โอ...วาระ วาระ คำนี้ดังก้องในหัวใจผมจริงๆครับ

 

ผมเองได้อ่านแล้ว ก็มีความรู้สึกว่าดี ตรงไหนที่ไม่รู้ก็ได้รู้ การวางอารมณ์ให้เข้าถึงนี่มีความสำคัญอย่างมาก หลวงพ่อท่านเคยแนะนำเรื่องการวางอารมณ์ไว้ตอนหนึ่งว่า ให้จดจำอารมณ์กรรมฐานว่าเราไปได้อย่างไร ครั้งต่อไปให้ใช้อารมณ์แบบนี้ไปอีก ทีนี้เรามาจินตนาการดูว่า หากวันหนึ่งเราทำสมาธิ(อยากใช้คำนี้มากกว่าคำว่า นั่งสมาธิ เพราะทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่จิตเป็นสมาธิ ก็ถือว่ากำลังทำสมาธิ เราไม่สามารถกำหนดเวลาตายได้ว่าจะตายท่าไหน ดังนั้นจิตเป็นสมาธิทุกเวลา เรียกว่าต้องได้ทุกท่า) 1/2 ช.ม. แล้วปรากฎว่า วันพรุ่งนี้เราก็ทำสมาธิกันใหม่อีก แต่เหมือนเราต้องมาเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง พอจะได้กำหนด 1/2 ช.ม. ก็ยังไม่ไปไหนมากกว่าเดิม การจดจำอารมณ์กรรมฐานในช่วงนี้ให้จิตเคลื่อนต่อจากเมื่อวานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่อย่างนั้นจะเสียเวลามากครับ เท่าที่ผมลองใช้เทคนิคการน้อม...ใจนี่จะได้ผลอย่างมากช่วยร่นเวลาไปมากกว่าครึ่งเลยครับ..

ผมพิจารณาหนังสือเล่มน้อยนี้อยู่นานว่า เอ! เราเองก็อ่านไปรอบหนึ่งแล้วทำยังไงถึงจะให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ก็นึกได้วิธีนี้ แต่ใช้เวลาในการดำเนินการมากก็ไม่ได้ กระจายกันไปรับผิดชอบ จึงน่าจะดีที่สุดครับ ความรู้สึกองผมคือหนังสือเล่มนี้คล้ายบทบรรยายสั้นกระชับได้ใจความที่เป็นแก่น คล้ายหนังสือที่เหล่าอาจารย์ทางด้านนิติศาสตร์ตีความตัวบทกฎหมายให้เข้าไปในรายละเอียด แต่ไม่ทราบว่ายิ่งตีความยิ่งงงหรือไม่ เพราะมีการยกตัวอย่างตุ๊กตา เช่นนายก. นายข. นายค. แต่ธรรมะจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้านี้สั้น และกระชับเข้าใจในทันที ต้องลองอ่านกันครับ ผมคิดว่า ย่อจากพระไตรปิฎกเล่มโตๆเหลือ ๖๖ หน้า และพระพุทธเจ้าแนะนำอารมณ์จิตไว้ แบบนี้ง่ายกว่ามาก..ต้องลองอ่านเองครับ...

 

คำว่า"วาระ" นี้ ยิ่งใหญ่มาก มันยิ่งกว่าความพอดีพอเจาะ ทั้งบุคคล และสถานการณ์ มันเหมือนมีการวัดทั้งเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพไปในตัว หลายปีมานี้ ไม่อยากดิ้นรนไปมาก หากใช่ของเรา เดี๋ยวเราก็ได้ ๖ วัน ๕ คืนที่ไปยังสถานที่หนึ่ง และได้พบคุณย่า ซึ่งท่านก็มีเวลาให้พบได้เพียง ๑ วันใน ๑ เดือน (คนสูงอายุจะมีกิจกรรมที่จะยุ่งอะไรขนาดนั้น) และก็เป็น ๑ ในวันที่ผมมีเพียง ๖ วัน นี้เท่านั้น ก็เป็นเรื่องที่จัดสรรไว้แล้ว ผมอ่านจบ ก็แทบจะไปขอหนังสือเก่าๆของที่คุณย่าเขียนมาอ่านอีก แต่ประตูบ้านก็ปิดสนิทครับ กว่าจะได้พบก็ไปเดือนมีนาคมต้นเดือนเลย เดือนกุมภาพันธ์คุณย่าไม่ว่างทั้งเดือนไม่อยู่ให้พบ

 

ได้อ่านเจอคำว่า ง่ายกว่ามาก ก็ทำให้ย้อนมานึกถึงเวลาที่ได้ฟังหลวงพ่อฤๅษีฯท่าน
ท่านมักจะเล่าอะไรง่ายๆ ฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มส่ายหัวว่าช่างง่ายอะไรเสียจริง (แต่เราก็ช่างโง่เสียจริงที่ฟังง่ายๆแต่ทำจิตให้เข้าใจไม่ได้)

โมทนาสาธุกับธรรมทานในครั้งนี้ของคุณเพชรครับ

 

55555 เมื่อก่อนก็สงสัยว่าทำไมชาวป่าชาวเขาชาวบ้านชาวช่อง ทำไมได้มโนมยิทธิเต็มกำลังกัน บางท่านก็ไม่เคยพบหลวงพ่อด้วยซ้ำไป อ่านแต่หนังสือ แล้วทำตามก็ได้ผล หลวงพ่อ หลวงพี่สอบอารมณ์แล้ว เขาก็ได้จริงๆ คงเป็นเพราะกรรมฐานเป็นภาษาปฏิบัติ ไม่ใช่ภาษาพูดกระมัง หากเห็นแล้ว เข้าใจแล้ว เขาก็ทำไปเรื่อย ไม่นึกสงสัยให้เสียเวลา ผมเคยพบคนกลุ่มหนึ่งเขาบอกว่าทำไมนิพพานของหลวงพ่อฤาษีง่ายจัง ลองแล้วไม่เห็นได้ ไหนคุณลองเล่าให้ฟังหน่อยว่าทำยังไง ผมทำแบบนี้ๆ เราฟังดูแล้ว รู้สึกว่า aura มันด้านๆ ไม่แจ่มใส พลังไม่ดี เหอะ..ตัวใครตัวมัน กรรมใครกรรมมัน(ว๊อย!!) คุยเรื่องการปฏิบัติต่างกัน ก็ไม่ต่างอะไรกับคุยเรื่องการเมืองเสื้อเหลือง เสื้อแดงนิ...หากลองเช็ค"ภูมิธรรม"ดูคร่าวๆว่ากระแสมันขนานกัน เราไปดีกว่า เอ่อ...เอ่อ...ผมติดธุระครับ ขอตัวก่อน วันหน้าค่อยคุยกันนะ...55555

 

เริ่มต้น(บางส่วน)
.............เริ่มต้นสายธรรมะเริ่มเรียนครั้งแรก อารมณ์จิตต้องเป็นสมาธิ นี่คือสายสุขะวิปัสสโก แล้วเอาอารมณ์จิตนึกถึงพระพุทธเจ้า หรือพระอรหันต์ก็ได้ นี่คือสายเตวิชโช ต้องเห็นพระด้วยนะถึงจะเรียกว่าได้ว่า ได้สายเตวิชโช แล้วเอาอารมณ์จิตดูในจิตแล้วใช้จิตกราบพระพุทธเจ้าในกายธาตุของตนเอง นี่คือสายฉฬภิญญา(คุณย่าเขียนฉลอภิญญา) ต้องทำอารมณ์จิตได้ด้วยนะ ต้องเห็นทั้งตา และจิตด้วยนะ ถึงจะเรียกได้ว่า ได้สายฉฬภิญญา แล้วเอาอารมณ์จิตกราบไหว้พระพุทธเจ้าในกาย หรือบนพระนิพพานกราบไหว้บูชาท่าน แล้วพูดกับท่านด้วย นี่คือสายปฏิสัมภิทาญาณ ต้องทำได้อย่างด้วยนะ ถึงจะเรียกได้ว่า ได้สายปฏิสัมภิทาญาณ ต้องเรียนได้ทั้งหมดนี้ ถึงจะเรียกได้ว่า ท่านนี้ได้สายธรรมกาย และต้องทำได้ทั้งกายธาตุ และกายทิพย์ด้วยนะถึงจะเรียกได้ว่าได้ธรรมกาย จะเอาลูกแก้วไว้ในกายตรงไหนก็ได้ นี่เรียกว่าใช้ฤทธิ์ทางใจอยู่ในสายฉฬภิญญา เพราะฉะนั้นท่านต้องได้ครบทั้งหมด ๔ สาย ความหมายท่านต้องเรียนได้อารมณ์จิตทั้งกายทิพย์ และกายธาตุ ทั้งตา ทั้งใจ ถึงจะเรียกได้ว่า ท่านได้ธรรมกาย ได้สำเร็จมรรคผล ส่วนมโนมยิทธิท่านก็ต้องเรียนได้ครบ ๔ สายเหมือนกัน ถึงจะเรียกได้ว่า ท่านเรียนสายมโนมยิทธิสำเร็จมรรคผล แต่ขาดสายใดสายหนึ่งถือว่าไม่ได้ มโนมยิทธิไม่ต้องเถียงกัน ทำให้ได้ทั้งสองสาย คือมโนมยิทธิ และธรรมกาย ต้องทำอารมณ์จิตให้ได้ด้วยนะ ............


เอาแค่ส่วนต้นนี้ เช็คดูว่า เขาไม่ได้เดินมาแบบนี้ เขาก็ทำไม่ได้ เพียงสุขะวิปัสสโก ก็ยังไม่เป็นสมาธิ จะไปเข้าใจที่ปฏิบัติสายเตวิชโช หรือฉฬภิญญาได้อย่างไร หรือเข้าใจว่าคำว่า"สมาธิ"ผิดๆ ก็เรียบร้อยเลย เช่นครั้งหนึ่งในมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิต ท่านผู้หนึ่งเอ่ยออกไป ก็มีคนรู้จักชื่อเสียงเรียงนาม ได้จัดรายการประกวดนั่งสมาธินาน เรารึกลั้นหัวเราะแทบแย่...55555 ทำไปได้ยังไง ทำไปทำไม ได้ประโยชน์อะไร

 

เช็คauraให้หนูมั่งซีคะ

 

โห! ทำไมชื่อพี่น่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

 

ก๊ากกกกก ทำไมถึงอยากรู้aura กันนัก ความจริงเป็นของทำไม่ยาก ก่อนอื่นต้องเชื่อว่ามีก่อน(จริงๆน่าจะเชื่อได้แล้ว เพราะมีอุปกรณ์ตรวจให้เห็นได้แต่ค่อนข้างแพง) และaura นั้นเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะของอารมณ์โกรธ สบายใจ ไม่สบาย ท้อแท้ แข็งแรง แจ่มใส สภาวะต่างกันให้แสงสีต่างกัน เราทุกคนสามารถตรวจแสง aura ได้ด้วยตาเนื้อของเราเอง เพียงแต่เราไม่ได้ไปสังเกตมันเท่านั้น การตรวจลองไปยืนที่ฉากหลังเป็นสีขาว ให้มีแสงสว่างพอควร แล้วทำตาเหม่อๆลอยๆ จะเห็นรัศมีรอบตัวของคนๆนั้นหุ้มอยู่เป็นชั้นๆ การป่วยไข้ของคนไม่ได้ป่วยเพราะตาเห็นว่าป่วยแต่เชื้อโรคจะชำแรกผ่านชั้น aura เข้ามาแล้วอย่างน้อยใช้เวลาประมาณ ๒-๓ วันกว่าที่เราจะรู้สึกว่าป่วยจริงๆ

เคยไปคุยกับพวกคลั่งไคล้ aura ท่านหนึ่ง คือเขาเชื่อว่าเขามี aura สวยเพราะเขาปฏิบัติธรรม เขาชอบ aura สีม่วง เราดันนิสัยเสียไปเห็นของเขาเป็นสีฟ้า(จริงๆเขาไม่น่า serious เพราะโทนสีมันใกล้เคียงกันมาก) เขาโกรธไม่พอใจ ให้ดูใหม่ 555555

 

เขากลัวกันนะ..อิ..อิ.....ดั่งหนู กัว แมว...

 

ผมขออนุญาต ลงอะไรนิดครับ จากคำสอนของคุณพ่อผมเอง "คนเราในชีวิต10ส่วนมีสมหวังแค่ไม่เกิน2ส่วนเท่านั้น" เพราะฉะนั้นผมฝากกับทุกคนครับต้องรู้จักรักษากำลังใจของตนเอง ทำใจให้สงบลง แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นครับ ทุกเรื่อง.

 

คนบางคน(ผมคิดว่าเยอะมาก) เมื่อมีตำแหน่งหน้าที่ที่สูงขึ้น ส่วนใหญ่มีอัตตาในตนเองสูง คิดว่าตนเองเก่งแล้ว แน่แล้ว และนิสัยของคน ต้องเห็นแก่ตัว เอาตัวรอดโดยทิ้งสิ่งที่ไม่ดีให้กับคนอื่น ทั้งๆที่คนอื่นได้บอกในผลของสิ่งนั้นๆแล้ว แต่ก็ไม่ฟัง ยึดถือความคิดของตนเองเป็นใหญ่ไม่ฟังใคร

อีกส่วนนอกจากอัตตา คุณnongnooo แสดงความเห็นว่า เป็นเพราะสันดานดั้งเดิมมา มักจะเป็นอย่างนั้นมาก่อน

ผมมาเตือนสำหรับผู้ที่มีตำแหน่งใหญ่ๆ หรือเพิ่งจะเริ่มใหญ่ ให้หัดฟังผู้อื่นบ้าง รู้จักนำธรรมะของพระพุทธองค์มาสอนใจตัวเองซะบ้าง

อย่ามัวแต่เก่งเรื่องเล่นเกมส์กันในที่ทำงาน เกมส์ที่เล่นกันไม่ใช่เกมหมากรุก เกมส์หมากฮอส แต่เป็นเกมส์การสร้างกรรมระหว่างกัน

เก่งในวิชาความรู้ เก่งในหน้าที่การงาน แต่หารู้ไม่ว่า ตัวเองโง่ในเรื่องอื่นๆอีกเยอะ สุดท้ายก็เก่งไปนรก

ของจริงต้องพิสูจน์ได้ ต้องให้ไปพิสูจน์ด้วยตัวของตัวเองเท่านั้น

.

 

วันที่พบกันพร้อมกันหรือยัง...

 

พร้อมนี่ต้องมีติดอาวุธอารายไปบ้างหรือเปล่าครับ มีด หรือปืน หรือแว่นขยาย หรือ .....ครับ

 

ผมดูกำลังพลแล้ว ประมาณ 10 กว่าท่าน น่าจะ 10 กว่าต้นๆ พระอาจารย์นิลท่านฉันมังสวิรัติ คงต้องเตรียมให้ท่านเป็นพิเศษ

ส่วนท่านที่เหลือ
ขาหมูเจริญแสง เป็นไงครับ
หรือว่าจะเป็นข้าวหมกแพะ(ธรรมดา) ดีครับ

หรือว่า ผัดไทย ,หอยทอด หน้าปากซอย

ออกความเห็นกันหน่อย

 

55555 ท่าทางคุรน้องนู๋จะหนักไปทางชาตรี คงกระพันนะ..หุ...หุ...

อย่าลืมเอาพระฉมเด็ดน้ำลายสอไปด้วยนา..อุ..อุ...ดูว่าน้ำลายจะสอจริงอ่ะเปล่า

 

รายการอาหารนี่ดูแล้ว สงสัยว่าจะเอาไปทำให้พระตบะแตกทำไม มันบาปหนาท่าน..

 

เมนูคุณหนุ่ม ผม OK หมดเลย ครับ

ช่วงเย็น แวะไปทำบุญและนั่งสมาธิที่วัดปทุมฯ ครับ ได้รับฟังเทปธรรมะ
ท่านสอนให้เน้นสติ ไม่เน้นอภิญญา(บางท่านอาจติดลาภ,สรรเสริญ) ครับ