พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>ขอจัดการมรดก
http://www.komchadluek.net/
</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1>เนื่องด้วย นางโอว หรือสุรินทร์ แซ่ตั้น หรือตั๊น (แม่ผม) เป็นลูกค้าธนาคารออมสิน สาขานครปฐม มาร่วม 20 ปีเศษ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2546 ต่อมาทราบภายหลังว่า

สมุดบัญชีของแม่ได้ถูกพี่สาว ชื่อ น.ส.ศรีอนันต์ เอกจริยกร ได้นำออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2546 และหายสาบสูญไปพร้อมกับบัญชีธนาคาร เป็นเวลา 5 ปีเศษ ผมจึงไปติดต่อที่ธนาคารออมสิน พร้อมหลักฐานต่างๆ เพื่อขอให้ธนาคารตรวจสอบข้อมูลของแม่ แต่พนักงานธนาคารไม่ยอมตรวจสอบให้ ผมจึงขอพบผู้จัดการธนาคารเรื่องบัญชีธนาคารของแม่ แต่กลับมาถามว่าแม่คุณเปิดบัญชี พ.ศ.อะไร จะได้ตรวจสอบต้นขั้วให้ มีกฎระเบียบข้อไหนที่คนเป็นญาติ (บุตร) จะตรวจสอบไม่ได้ (ผมส่งเอกสารต่างๆ มาพร้อมกับจดหมายด้วย) ผมอยากทราบว่าบัญชีของแม่ที่พี่สาวเอาไปนั้น เขาสามารถไปแจ้งที่ธนาคารว่าหาย แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นบัญชีของเขาได้หรือไม่ ผมจะฟ้องพี่สาวสาบสูญได้หรือไม่ และจะยื่นเป็นผู้จัดการมรดกหรือฟ้องแบ่งมรดกได้หรือไม่

</TD></TR></TBODY></TABLE>

บัญชีธนาคารไม่ได้อยู่กับผม และถ้าบัญชีที่ไม่ได้ฝากถอนประมาณ 10 ปี เงินในบัญชีจะเป็นของธนาคารหรือไม่

รบกวนช่วยหาคำตอบให้ด้วยครับ
อนันต์เดช เอกจริยกร
ตอบ
นายวิชัย จันทรวิมล ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขานครปฐม ชี้แจงว่า ตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ของสาขาแล้ว ไม่พบชื่อบัญชีของคุณแม่คุณเลย ส่วนสาขาอื่นๆ มีชื่อบัญชีนี้หรือไม่นั้น ทางสาขาไม่สามารถแจ้งให้ทราบได้ เพราะข้อมูลต่างๆ ของลูกค้าถือเป็นความลับส่วนบุคคล เจ้าของบัญชีหรือผู้จัดการมรดกเท่านั้นที่จะสามารถขอตรวจสอบได้
ตามหลักเกณฑ์ทั่วไป ผู้ที่จะสามารถสอบถามข้อมูลบัญชีได้ ถ้ามีชีวิตอยู่เจ้าของบัญชีต้องติดต่อเอง ถ้าเป็นบุคคลอื่นก็ต้องให้ศาลสั่งว่าเป็นผู้จัดการมรดกจึงจะขอตรวจสอบบัญชีของผู้อื่นได้ นั่นก็หมายความว่า พี่สาวของคุณซื่งถือว่าเป็นบุคคลอื่น ก็ไม่สามารถทำธุรกรรมต่างๆ แทนคุณแม่ของคุณได้เช่นกัน
กรณีที่มาติดต่อสอบถามกับพนักงานของสาขา และพนักงานแจ้งว่า ขอปีที่เปิดบัญชีด้วยนั้น เพื่อเป็นการยืนยันความถูกต้องและสะดวกในการค้นหาข้อมูล เพราะบางกรณีชื่อและนามสกุลของบุคคลอาจซ้ำกันได้ และถ้าแจ้งเลขที่บัตรประชาชนและที่อยู่ด้วยก็ยิ่งดี เนื่องจากบัญชีที่เปิดไว้นานกว่า 5 ปี ขึ้นไปนั้น จะถูกย้ายข้อมูลไปอยู่ในส่วนอื่น ถ้ามีการค้นหาข้อมูลบัญชีเงินฝากในระบบฐานข้อมูลปกติอาจตรวจสอบไม่พบ
ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขานครปฐม บอกว่า ถ้ามีเงินอยู่ในบัญชีที่ไม่เคลื่อนไหวเลย นานกี่ปีก็ตาม เงินก็จะยังอยู่ ไม่หายไปไหน จนกว่าเจ้าของบัญชีจะมาติดต่อขอรับเงินคืน หรือเปิดบัญชีใหม่ ส่วนในเรื่องของการขอเป็นผู้จัดการมรดก หรือฟ้องพี่สาวหายสาบสูญนั้น อาจารย์ยศศักดิ์ โกไศยกานนท์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แนะนำว่า ถ้าพี่สาวไม่ได้ขอตัวเองเป็นผู้จัดการมรดก พี่สาวไม่มีสิทธิ์ที่จะไปขอเปลี่ยนชื่อบัญชีของแม่มาเป็นของตัวเองได้ ดังนั้นกรณีนี้ เมื่อพี่สาวหายไปมากกว่า 5 ปีแล้ว คุณสามารถไปยื่นเรื่องต่อศาล เพื่อขอแจ้งพี่สาวเป็นบุคคลที่สาบสูญได้ ขณะเดียวกัน ก็ยื่นเรื่องฟ้องต่อศาล เพื่อขอให้ตัวเองเป็นผู้จัดการมรดกของแม่ได้ด้วย เพราะคุณก็เป็นลูกของแม่เหมือนกัน จึงมีสิทธิ์ที่จะขอให้ตัวเองเป็นผู้จัดการมรดกของแม่ เพื่อนำมาจัดการแบ่งให้แก่พี่น้องทุกคนที่มีอยู่ และคุณมีสิทธิ์ที่จะขอดูข้อมูลจากธนาคารด้วย

 

เพิ่งถ่ายรูปหน้าบ้านตัวเองเมื่อสักครู่ แปลกมากๆเลยค่ะ ดวงสว่างจ้าไม่ใช่พระจันทร์นะคะ อยู่คนละทิศกันเลย

 

ผู้เชี่ยวชาญชี้เกิดเหตุแปรปรวนที่ "เส้นศูนย์สูตร" เป็นผลอากาศเย็นกระจายปกคุลมเหนือ-อีสานหนาวต่อเนื่อง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1231767479&grpid=00&catid=04

สังเวยภัยหนาวแล้ว4ชีวิต ผู้เชี่ยวชาญแจงเกิดความแปรปรวนที่เส้นศูนย์สูตร มวลอากาศเย็นเข้ามาลึก เหนือ-อีสานอุณหภูมิลดต่อเนื่อง แม่คะนิ้งโผล่ขาวโพลน

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรม การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 12 มกราคม ว่า อากาศหนาวเย็นครอบคลุมหลายพื้นที่ในประเทศไทย เกิดจากความแปรปรวนที่บริเวณเส้นศูนย์สูตร ทำให้มวลอากาศเย็นแพร่เข้ามาลึกและกินพื้นที่มากกว่าปกติ ความแปรปรวนนี้เกิดขึ้นจากการสลับที่ระหว่างมวลอากาศร้อนและเย็น


ขณะที่ภาคเหนือและภาคอีสานยังคงหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทย จ.เลย อุณหภูมิอำเภอต่างๆ ของจังหวัดต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสในวันที่ 12 มกราคม อุณหภูมิยอดหญ้าบางพื้นที่ต่ำกว่าศูนย์จนน้ำค้างแข็ง สำหรับอุทยานแห่งชาติภูกระดึงต่ำสุด 2.0 องศาเซลเซียส อุทยานแห่งชาติภูเรือ 5.5 องศาเซลเซียส


ส่วนที่ จ.นครราชสีมา ครูโรงเรียนวัดดอนขวาง ถนนเพชรมาตุคา ต.หัวทะเล อ.เมือง นำเด็กนักเรียนออกมาเรียนหนังสือกลางสนามฟุตบอลของโรงเรียนเพื่อรับไออุ่นจากแสงแดด และก่อนการเรียนการสอนนำนักเรียนออกมากลางสนามเพื่อออกกำลังกายผ่อนคลายความหนาวด้วยเช่นกัน
นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ประกาศให้ 18 อำเภอเป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน หลังจากอุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 13 องศาเซลเซียสมาหลายวัน จ.พิษณุโลก อุณหภูมิลดลงต่ำสุดวัดได้ 11 องศา และต่ำกว่านั้นในอำเภอตามเขตเทือกเขาสูง ได้แก่ อ.ชาติตระการ และ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก โดยที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก อุณหภูมิได้ลดต่ำมาถึง 7 องศาเซลเซียส


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศอันหนาวเหน็บทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 4 ราย ประกอบด้วยนายธัญญา แสงอรุณ อายุ 37 ปี นอนตายที่บ้านเลขที่ 114 หมู่ 6 ต.ป่าอ้อ อ.เมือง จ.เชียงราย นายชัยวัฒน์ สยองพันธุ์ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 20 หมู่ 11 ต.วังม่วง อ.วังม่วง จ.สระบุรี นายทวี วงษ์ท้าว อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 8 ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี และนางสายฝน ดาราศรี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 17 ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ นอนเสียชีวิต ที่ตลาดเมคอิน ซอยบัวขาว หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

 

แปลกดีครับ เวลาที่ผมถ่ายรูป ก็ไม่เคยออกมาแบบนี้เลยครับ

เป็นดวงกลม สวยมากครับ

 

อันนี้ก็แปลก มีวงสีแดงชัดมาก

 

ขอเรียนถามพี่ sithipong และท่านผู้รู้ทุกท่านครับ

พระ ที่พี่ส่งมาจากการร่วมกิจกรรมครั้งนั้น ที่เป็นพระสมเด็จ 2 หน้ามีเนื้อพระธาตุ พรุ่งนี้จะนำไปเลี่ยมขึ้นคอ ... ไม่ทราบว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไร เพราะติดตรงที่มีพระธาตุด้วยน่ะครับ

และที่บ้านผม เขาไม่มีเลี่ยมแบบเปิดหน้าหลัง พอมีวิธีอื่นหรือไม่ครับ

ขอขอบคุณคำตอบ พี่ๆ ล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

ใส่กรอบสแตนเลสแล้วเจาะรูด้วยไขควงเล็กครับ...

 

The incredibly shrinking Citigroup

Shares of the troubled bank tumble on reports of a sale of the company's Smith Barney division -- and some analysts warn a breakup of the banking giant could soon follow.

<!--startclickprintexclude--><SCRIPT src="http://i.cdn.turner.com/money/.element/ssi/javascript/2.0/cnnShare.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.2 src="http://i.cdn.turner.com/money/javascript/clickability/button2200_1newlayout.js"></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript> window.onerror=function(){clickURL=document.location.href;return true;} if(!self.clickURL) clickURL=parent.location.href; </SCRIPT>EMAIL | PRINT | SHARE | RSS

• <LI id=yahooLink>Yahoo! Buzz <LI id=diggLink>DIGG <LI id=fbLink>FACEBOOK <LI id=delLink>DEL.ICIO.US <LI id=redditLink>REDDIT <LI id=stumbleLink>STUMBLE UPON <LI id=myspaceLink>MYSPACE
• MIXX IT

Subscribe to Companies

feed://rss.cnn.com/rss/money_news_companies.rss
Paste this link into your favorite RSS desktop reader
See all CNNMoney.com RSS FEEDS (close)


<SCRIPT> try { cnnShareLinks.init('Companies','rss.cnn.com/rss/money_news_companies.rss'); // EDIT THIS } catch(e) { alert(e); }</SCRIPT><!--endclickprintexclude-->By David Ellis, CNNMoney.com staff writer
Last Updated: January 12, 2009: 5:31 PM ET
<!--startclickprintexclude-->
<!--endclickprintexclude-->
<!-- CONTENT --><!-- REAP --><!--startclickprintexclude-->AMERICA'S MONEY CRISIS

• The incredibly shrinking Citigroup
• Alcoa posts bigger-than-expected loss
• Fed could keep rates near zero in '09
• The case for a quick recovery
• Wall Street in sharp retreat

<!-- KEEP --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=220 border=0><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left>If Citigroup's Smith Barney asset management division is sold, other business units could soon follow, warn analysts.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- KEEP -->Steel man eyes banks

More Videos


<!-- KEEP -->
<!-- ADSPACE: business_news/quigo/ctr.220x200 -->

<SCRIPT type=text/javascript> cnnad_createAd("264122","http://ads.cnn.com/html.ng/site=cnn_money&cnn_money_position=220x200_ctr&cnn_money_rollup=business_news&cnn_money_section=quigo&params.styles=fs","200","220");</SCRIPT><IFRAME id=264122 style="VISIBILITY: visible; POSITION: relative" border=0 marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://ads.cnn.com/html.ng/site=cnn_money&cnn_money_position=220x200_ctr&cnn_money_rollup=business_news&cnn_money_section=quigo&params.styles=fs&tile=1231799809750&page.allowcompete=yes&domId=264122" frameBorder=0 width=220 scrolling=no height=200 allowTransparency></IFRAME>​

<!--endclickprintexclude--><!-- /REAP -->NEW YORK (CNNMoney.com) -- Investors are having a hard time finding much faith in Citigroup. The stock plunged 17% Monday, despite speculation that the financial services giant was engaged in talks to raise capital by selling a stake in its Smith Barney brokerage division to Morgan Stanley.
A deal with Morgan Stanley (MS, Fortune 500) has yet to crystallize. But a growing chorus of analysts have suggested that if one does, it could herald the first in a series of asset sales by Citigroup (C, Fortune 500) as it aims to scrap its "universal-bank" business model.
"We are now in the dismantling phase," said William Smith, senior portfolio manager at SAM Advisors LLC, whose firm owns shares of Citigroup.
The New York City-based bank has come under intense pressure to consider all of its options in recent weeks.
Citigroup is expected to report a $3.8 billion loss for the fourth quarter next week, and analysts are already anticipating that 2009 will be another year of red ink as the U.S. consumer and broader economy remain severely strained.
At the same time, regulators are keeping a close eye on the bank. In November, the government delivered a massive rescue package for Citigroup as it teetered on the brink of collapse, agreeing to absorb a portion of its future losses tied to more than $300 billion in assets.
Less international focus
Citigroup watchers agree that if the company is dismantled any further, international operations will be among the first to go.
As the credit crisis spread around the globe, Citigroup has been particularly hard hit due to its international exposure, which was once considered a strength for the bank.
Last quarter, Citigroup reported surging credit costs in both its credit card and consumer banking businesses in countries such as India and Brazil.
The bank has already trimmed some of its foreign assets. Last month, the company completed the sale of its German retail banking operations and an India-based outsourcing business called Citigroup Global Services Limited.
Some analysts suggest that Citigroup could sell Banamex, one of Mexico's largest commercial banks. According to a report in The Wall Street Journal this past weekend, the bank has shelved plans to sell it though.
"They would like to keep it. But at the same time it is one of their strongest international franchises and definitely a valuable unit," said Joe Scott, a senior director at Fitch Ratings who tracks the company.
Tough choices
Scott added that it probably would be easier for Citigroup to sell some its international units since there should be willing buyers. But it may be trickier for Citigroup to figure out what to do with the rest of its U.S. operations.
Since Citicorp merged with insurance company Travelers in 1998 to form Citigroup, top company executives have pledged their commitment to the "universal bank" business model.
Supporters have touted Citigroup's potential as a one-stop shop for businesses and individuals needing to conduct financial transactions, and noted that having a diversified business model helps to smooth out earnings volatility.
But the company's lackluster performance even in the pre-credit crisis days has served as fodder for critics and shareholders alike.
Citigroup CEO Vikram Pandit has maintained his commitment to the "universal bank" model since taking over the top spot at the company last year -- even as he has still pushed for the company to scale back.
Last May, he unveiled a massive restructuring program, which included plans to shed more than $400 billion in assets. He followed that up in November with plans to cut more than 50,000 jobs.
While some divisions of the company continue to struggle, including the firm's investment banking business, others have remained consistently healthy and could be ripe for a sale, such as Citigroup's Primerica insurance division.
"In this environment the only thing you can sell are the good bits of the business," said Jonathan Monk, senior portfolio manager at Aerion Fund Management in London, whose firm does not own shares of Citigroup.
A more bold, though seemingly less likely approach, could be for Citigroup to try and sell its transaction services business or even its credit card unit.
Analysts are skeptical, however. For one, Citigroup's credit card division faces a bleak forecast given the current economic climate, meaning finding a buyer could be tough, notes Monk.
But maybe the biggest fear among analysts and investors is that if Citigroup sells off reliable divisions such as Smith Barney, the company risks losing a key source of profits for the future.

"There are a lot great pieces to this puzzle," said SAM's Smith. "It didn't have to be this way." First Published: January 12, 2009: 5:01 PM ET


วงจรอุบาตมันเริ่มมาอีกแล้วครับ จาก cnnfn.com ราคาหุ้นนำลงมาก่อนแล้วก็มีปัญหาเกิดในตัวธนาคารนั้นครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=540 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width=540 align=center border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#000000></TD><TD align=middle bgColor=#000000 colSpan=7>New York Spot Price

</TD><TD></TD><TD align=right bgColor=#000000></TD></TR><TR bgColor=#f3f3e4><TD bgColor=#000000></TD><TD align=middle bgColor=#f3f3e4 colSpan=7>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]MARKET IS CLOSED[/FONT]
[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif](Will open in 14 hrs. 37 mins.)[/FONT]
</TD><TD align=middle bgColor=#f3f3e4 colSpan=2></TD></TR><TR align=middle bgColor=#f3f3e4><TD bgColor=#000000></TD><TD bgColor=#cccc99>Metals

</TD><TD bgColor=#cccc99>Date

</TD><TD bgColor=#cccc99>Time
(EST)

</TD><TD bgColor=#cccc99>Bid

</TD><TD bgColor=#cccc99>Ask

</TD><TD bgColor=#cccc99 colSpan=2>Change

</TD><TD bgColor=#cccc99>Low

</TD><TD bgColor=#cccc99>High

</TD></TR><TR align=middle bgColor=#f3f3e4><TD noWrap bgColor=#000000></TD><TD align=left>GOLD

</TD><TD>01/12/2009

</TD><TD>17:15

</TD><TD>819.90

</TD><TD>820.70

</TD><TD>-33.70

</TD><TD>-3.95%

</TD><TD>814.60

</TD><TD>836.50

</TD></TR><TR align=middle bgColor=#f3f3e4><TD bgColor=#000000></TD><TD align=left>SILVER

</TD><TD>01/12/2009

</TD><TD>17:15

</TD><TD>10.62

</TD><TD>10.70

</TD><TD>-0.63

</TD><TD bgColor=#f3f3e4>-5.60%

</TD><TD>10.53

</TD><TD>11.12

</TD></TR><TR align=middle bgColor=#f3f3e4><TD bgColor=#000000></TD><TD align=left>PLATINUM

</TD><TD>01/12/2009

</TD><TD>16:45

</TD><TD>952.00

</TD><TD>962.00

</TD><TD>-37.00

</TD><TD>-3.74%

</TD><TD>943.00

</TD><TD>980.00

</TD></TR><TR align=middle bgColor=#f3f3e4><TD bgColor=#000000></TD><TD align=left>PALLADIUM

</TD><TD>01/12/2009

</TD><TD>16:40

</TD><TD>185.00

</TD><TD>190.00

</TD><TD>-7.00

</TD><TD>-3.65%

</TD><TD>184.00

</TD><TD>195.00

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

นี่ก็เหมือนกันครับ ทำเป็นจะขึ้น สุดท้ายก็ลง จาก kitco.com ฝากคุณนิวครับ หุ หุ

 

ผมไม่เข้ามาเยี่ยม หลายเดือน ได้คุยกับคุณหนุ่ม จำเสียงไม่ได้ขอโทษ ด้วย แต่ก้อฟังดูยังสด..เหมือนเดิม
ผมขอร่วมทำบุญ ด้วยครับ

 

ใช้เข็มเจาะก็ได้นะครับ แต่เจาะบริเวณด้านบน อย่าเจาะด้านล่าง หากพระธาตุหลุดออกมาจากองค์พระ ถ้าเจาะด้านล่าง เกิดพระธาตุหล่นออกมาจากกรอบ แย่เลยครับ

อีกเรื่อง หากจะห้อย ศีลต้องครบนะครับ
.

 

ยินดีครับ
โมทนาสาธุครับ

 

คุณอ้อย(ขุนท้าว...) ครับ
คิดถึงนะครับ แวะมาทักทายด้วยนะครับ

.

 

ขอบพระคุณครับ

จะกำลัง จะเอาออกไปทำเดี๋ยวนี้แล้วครับ

 

ภาพ หลวงพ่อโอภาสี ในงานศพ หลวงพ่อกบ

ภาพ หลวงพ่อโอภาสี ในงานศพ หลวงพ่อกบ

 

ดีครับห้อยแล้วรู้สึกเสียวๆบริเวณอกดีครับ หุ หุ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ภาษาไทยเปลี๊ยนไป๋ ในเว็บบอร์ด
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000003353
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 มกราคม 2552 08:56 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ถ้าถามพวกวัยรุ่น วัยทีนในยุคสังคมการเมืองปั่นป่วนแบบนี้ว่า “ใครไม่เคยเล่น อินเทอร์เน็ตบ้าง” คงไม่มีใครตอบว่าไม่เคยเล่น แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการเมืองไหมเนี่ย ?? ตอบได้เหมือนกันว่าไม่เกี่ยวแต่หาเรื่องมาเอี่ยวเท่านั้นเอง ในยุคสมัยอินเทอร์เน็ตครองเมือง จะอยู่ที่ไหนก็มีแต่อินเทอร์เน็ต จะวัยไหน รุ่นไหน ก็นิยมหันมาเล่นเน็ตกันหมดแล้ว

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=374 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=374> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เมื่อมีอินเทอร์เน็ตก็เริ่มมีวิวัฒนาการของโปรแกรมใหม่ๆ เข้ามาเสริม เพื่อตอบรับความต้องการของผู้ใช้ที่นับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น อย่างเกมออนไลน์ โปรแกรมการสนทนา MSN และเว็บบอร์ด ที่ตอนนี้กำลังฮิตติดลมบนอยู่ทั่วทุกแห่งหนของเมืองไทย อุปกรณ์เสริมต่างๆ เหล่านี้ที่ยกมาก็เพราะว่าผู้ที่ใช้นั้นจะมีการตอบโต้กันในรูปแบบของการสนทนาผ่านเว็บบอร์ดที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์ต่างๆ โดยการพิมพ์สื่อสารกัน จึงเป็นที่มาของภาษาไทยในเว็บบอร์ดที่แปลกใหม่ และกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของภาษาไทย ?

“ปกรณ์ สันติสุนทรกุล” หรือ พี่ปอนด์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหารบริษัท เด็กดี อินเตอร์แอกทีฟ จำกัด ผู้ผลิตเว็บไซต์ DEK-D.COM เล่าถึงวิวัฒนาการของภาษาไทยในเว็บบอร์ด ว่า เว็บบอร์ดเป็นเทคโนโลยีที่คนไทยได้สัมผัสมานานแล้วประมาณ 10 ปี เกือบทุกเว็บไซต์ในปัจจุบันมีเว็บบอร์ดเป็นของตนเอง การเกิดของพัฒนาการของภาษาที่ใช้กันในเว็บบอร์ดจึงมีหลากหลายรูปแบบ

“ส่วนใหญ่มาจากความตั้งใจที่จะพิมพ์ผิด เพื่อสื่อให้เห็นถึงอารมณ์และความรู้สึกของผู้พิมพ์ อย่าง ถ้าพิมพ์ว่า “ไม่รู้นะ เค้าไม่ทราบจริงๆ” แบบนี้จะรู้สึกว่าผู้พูดเป็นคนทางการ จริงจัง ไม่ใช่คนสนุกขี้เล่น ขณะที่เด็กวัยรุ่นปัจจุบันมักจะพิมพ์ว่า “ม่ายรู้นะ เค้าม่ายทราบจิงๆ” เราสามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่แตกต่างกัน ภาษาที่น้องคนนี้ใช้มันน่าเอ็นดูมากกว่าคนแรก” พี่ปอนด์ เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไป

ในปัจจุบันวัยรุ่นจำนวนมาก ใช้เวลาอยู่กับการแชตกับเพื่อนในอินเทอร์เน็ต หรือการโพสต์ข้อความวิบัติในเว็บบอร์ดบ่อยครั้งมากกว่า การได้อ่านหนังสือ ตำรา ที่ใช้ภาษาอย่างถูกต้อง ทำให้วัยรุ่นจำนวนมากซึมซับสิ่งที่ไม่ถูกต้องไปตลอดเวลา จนอาจจะเกิดอาการลืมนึกถึงไปว่าคำอย่างเช่น “ก้อ” “จิง” จริงๆ แล้วเป็นภาษาไทยที่ไม่ถูกต้อง

ด้านวิวัฒนาการของภาษาในเว็บบอร์ดตอนนี้ พี่ปอนด์ให้ความเห็นว่า เว็บบอร์ดสำหรับผู้ใหญ่อย่าง pantip.com ยังมีการใช้ภาษาที่ถูกต้องตามหลักภาษาไทยกันแต่ในเว็บบอร์ดสำหรับวัยรุ่นอย่าง Dek-D.com หรือเว็บพูดคุยกับเพื่อนอย่าง hi5.com จะเห็นว่า มีการใช้ภาษาที่สะกดแปลกๆ เพื่อเน้นการสื่ออารมณ์อยู่มาก

“บางทีพวกผู้ใหญ่มาเห็น ก็มักจะเกิดความรู้สึกว่ารับไม่ได้ แต่ถ้าเด็กวัยรุ่นด้วยกันจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก ไม่ได้มีอยู่แค่ในเว็บบอร์ดนะครับ ในอีเมลที่ส่งระหว่างเพื่อนเอง หรือการแชตผ่านโปรแกรม Instant Messenger ต่างๆ ก็เป็นไปในทางเดียวกัน ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงนะครับ” พี่ปอนด์กล่าวฝาก

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ผู้ใหญ่เองก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา คำหลายคำถูกบิดเบือน เพี้ยนไปเพราะการใช้เวลาในอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เช่น คำว่า "Shopping" ซึ่งในอินเทอร์เน็ตก็แปลกันเป็นภาษาไทยไม่เหมือนกันสักเว็บไม่ว่าจะเป็น ช้อปปิ้ง ช๊อปปิ้ง ชอปปิ้ง ช็อปปิ้ง หรือ คอลัมน์ คอลัมภ์ หากเราลองเอาคำเหล่านี้ไปค้นหาผ่าน Google ดูเราจะพบว่าคำที่สะกดผิด กลับกลายเป็นคำที่มีผลการค้นหามากที่สุด หรือหมายถึงมีคนใช้อยู่มากที่สุด ผู้ใหญ่เองยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าแบบไหนสะกดถูก ถ้าต่างคนต่างไม่ทราบและใช้ตามๆ กัน ก็มีโอกาสทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “พวกมากลากไป” ทำให้สุดท้ายภาษาไทยบน อินเทอร์เน็ตมีโอกาสเพี้ยนไปอย่างรวดเร็วมาก

“การเปลี่ยนแปลงย่อมเป็นสิ่งที่เกิดได้หากผู้ที่ใช้ภาษาวิบัติต่างๆ รู้ว่าการที่ตนตั้งใจพิมพ์ภาษาแบบนี้ เพื่อมีจุดประสงค์ว่าต้องการสื่อความรู้สึกและหากรู้ว่า ต้องทำรายงานส่งครู หรือเขียนจดหมายทางการถึงผู้ใหญ่ และสามารถเลือกใช้ภาษาที่ถูกต้องได้ ก็คงจะเป็นสิ่งที่ยอมรับได้” พี่ปอนด์ กล่าวทิ้งท้าย

ในส่วนของ ผศ.ดร.กุลทิพย์ ศาสตระรุจิ ผู้อำนวยการนิเทศศาสตรดุษฎีบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวถึงภาษาที่เกิดขึ้นในเว็บบอร์ด ว่า ภาษาที่ใช้สื่อสารกันภายในเว็บบอร์ดนั้นเป็นคำพูดที่แสดงออกทางด้านอารมณ์ และความรู้สึกของผู้ใช้ ส่วนใหญ่ในเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เลือกเข้าไปนั้นก็จะมีสังคมของเขาอยู่ การพูดคุยก็จะเป็นไปในทางเดียวกัน มีการใส่สัญลักษณ์เพื่อแสดงความรู้สึก มันแสดงถึงความเป็นอัตลักษณ์ของผู้ใช้

“ภาษาในเว็บบอร์ดเป็นภาษาเพื่อการสื่อสาร เพื่อการสนทนาไม่ใช่เพื่อการเขียน เพราะภาษาก็มีทั้งแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเรา ภาษามันดิ้นได้มันก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง วิวัฒนาการของภาษามันก็เป็นไปตามเทคโนโลยีที่เติบโตเรื่อยๆ ดังนั้น การที่คนที่ใช้จะแสดงความรู้สึกที่ออกมาเป็นภาษาที่ผิดก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะภาษาที่เกิดขึ้นเป็นเพียงภาษาที่ใช้ในการสนทนาและแสดงออกถึงอารมณ์เท่านั้น”ผศ.ดร.กุลทิพย์ กล่าวแสดงความคิดเห็น

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ทางด้านกลุ่มวัยรุ่นที่ชื่นชอบการเล่นแชต สนทนาผ่านเว็บบอร์ด ก็มีความเห็นที่หลากหลายแตกต่างกันไปแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน บ้างว่ามันเป็นภาษาที่ผิด บ้างก็ว่าเป็นภาษาที่น่ารักสื่อสารอารมณ์ของผู้ส่งได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีบางกลุ่มที่คิดว่าภาษาที่ใช้กันอยู่ในเว็บบอร์ดนั้นเป็นเรื่องที่น่ารำคาญสำหรับคนอ่าน

“ภาษาในเว็บบอร์ดเป็นเหมือนอีกภาษานึงที่เราใช้ในการสื่อสารกับบุคคลอื่น แต่ที่ต้องใช้คำที่มันสั้นหรือสะกดผิดก็เป็นเพราะว่า มันสื่อถึงอารมณ์ที่เราอยากจะบอก โดยไม่ต้องใช้คำพูด” เสียงบอกเล่าของ นริศ เด็กสาววัยรุ่นซึ่งเป็นอีกคนที่ใช้ภาษาเว็บบอร์ดสื่อสารกับเพื่อน

“ถ้าใช้เขียนในประโยคที่มันสั้นๆ น่ารักๆ มันก็น่าอ่านดีนะ แต่เวลาเขียนเป็นประโยคที่ยาวแล้วสะกดเป็นภาษาเว็บบอร์ดทุกคำเลยมันก็น่ารำคาญนะ ขี้เกียจอ่านด้วย เพราะอ่านแล้วต้องมานั่งแปลความหมายใหม่อีก มันก็น่าเบื่อ” แอน นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเพาะช่าง ให้ความเห็น

เช่นเดียวกับ นะมล ที่ให้ความเห็นว่า หากผู้เล่นยังใช้ภาษาที่สะกดผิดมากเกินไป ก็อาจจะทำให้ติดเป็นนิสัยไปเลยก็เป็นได้

“เราว่าบางทีการใช้ภาษาที่มันผิดๆ มากเกินไปมันก็อาจทำให้ติดเป็นนิสัยได้ อย่างเราใช้เขียนอะไรที่มันเป็นทางการก็อาจทำให้เขียนผิด ติดภาษาเว็บบอร์ดมาในงานด้วยก็เป็นได้ ทางที่ดีคนที่ใช้ก็ควรมีวิจารณญาณในการใช้ รู้กาลเทศะว่าจะใช้เมื่อไหร่ ใช้ยังไงให้ถูกที่ถูกเวลา” นะมล เอ่ยฝากถึงผู้ใช้เว็บบอร์ด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ค้ำประกันรถยนต์
http://yestna.is.in.th/?md=news&ma=show&id=3

ดิฉันค้ำประกันรถยนต์ให้เพื่อน เพื่อนมีปัญหาไม่จ่ายค่างวดตั้งแต่งวดที่ 1-2 ทางไฟแนนซ์มีหนังสือมาทวงคนค้ำ ดิฉันก็ไปบอกเพื่อน เพื่อนก็ไปจ่ายเพียงงวดเดียว เป็นอยู่แบบนี้ประมาณ 2 ปี หลังจากนั้นก็ค้างค่างวดอีก 7-8 งวด ไฟแนนซ์ก็โทรมาหาดิฉันให้บอกเพื่อนนำรถไปคืน แถมพูดจาไม่ดี ขู่ต่างๆ นานา เห็นว่า ดิฉันเป็นข้าราชการ

ดิฉันก็ทำใจ คิดว่าเป็นประสบการณ์ที่จะต้องจำไปอีกนาน อย่าค้ำประกันใครเด็ดขาด เสียความรู้สึกมากๆ

ต่อมาเพื่อนนำรถไปคืนไฟแนนซ์ ทางไฟแนนซ์ออกหนังสือให้ว่าได้ยึดรถคืนแล้ว เพื่อนำขายทอดตลาด เพื่อนผู้ซื้อตัวจริงก็สบายใจว่า ได้คืนรถไปแล้ว เป็นอันว่า หมดพันธะสัญญาต่อกัน

ต่อมา ไฟแนนซ์มีหนังสือแจ้งมาที่ดิฉันในฐานะผู้ค้ำประกันว่า มีส่วนต่างเกิดขึ้นหลังจากนำรถไปขายทอดตลาดแล้ว ประมาณ 15,000 บาท ให้ดิฉันนำเงินไปชำระภายใน วันที่ 1 ตุลาคม 2548 ถ้าพ้นกำหนดจะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

แรกๆ ดิฉันกังวลใจมาก ในฐานะคนค้ำ แต่สอบถามผู้มีประสบปัญหาคล้ายๆ กัน เขาแนะนำให้อยู่เฉยๆ พอไปพูดกับเพื่อนผู้ซื้อตัวจริง เขาก็บอกว่าไม่ต้องจ่าย เพราะเขาปิดบัญชีแล้ว พวกมีหน้าที่ทวงหนี้ ก็ทวงไป ไม่ต้องจ่าย แต่น่าแปลกที่มักจะเปลี่ยนคนทวงหนี้บ่อยๆ อ้างโน่น อ้างนี่ บอกว่า ถ้าไม่จ่าย ดิฉันจะเสียเครดิต ชื่อจะติดแบล็คลิสต์ ดิฉันว่า ไม่เห็นจริงเลย เพราะเพื่อนก็ได้ถอยรถคันใหม่ออกมาได้อีก แต่ปล่อยให้ดิฉันคนค้ำทนต่อการถูกทวงถามหนี้ค้าง

ทำไมบริษัทไม่ดำเนินการกับผู้ซื้อโดยตรง ทั้งที่ผู้ซื้อโดยตรงยังไม่หนีหายตายจากไปไหน มาขู่เข็ญบังคับเอากับผู้ค้ำ ดิฉันควรทำอย่างไรดี ตอนแรกดิฉันตั้งใจจะปิดบัญชีให้หมด จะได้จบๆ แล้วให้เพื่อนผู้ซื้อผ่อนให้ภายหลัง แต่เพื่อนไม่ยอมเล่นด้วย ถ้าดิฉันจ่ายไป เขาจะไม่รับรู้ด้วย ตอนนี้ดิฉันก็ทำใจว่า ถ้าวันหนึ่งหมายศาลมา คงต้องใช้หนี้ตามสัญญา จะจ่ายเลยมันก็ง่ายไป บริษัทเอาเปรียบ ขู่แต่คนค้ำ ทีผู้ซื้อ ไม่ยอมติดตาม

สมหญิง

ตอบ

ไม่ต้องรอหมายศาลหรอกครับ ถ้ามีก็รีบไปจ่ายไฟแนนซ์เขาซะ ไม่งั้นต้องจ่ายดอกเบี้ยอื้อซ่า

แล้วก็ไม่ต้องกลัวถูกว่า เป็น "คนโง่" ด้วย เพราะคนที่บอกน่ะ "โง่กว่า"

ทนายที่ปรึกษา สภาทนายความ แนะนำว่า ให้คนค้ำประกันไปหารือกับคนซื้อ เพื่อนำเงินส่วนต่างจากการนำรถไปขายทอด ไปชำระตามที่บริษัทไฟแนนซ์มีหนังสือแจ้งมา อย่าปล่อยไว้นาน เพราะดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 จะเดินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบอายุความ 10 ปี หรือบริษัทไฟแนนซ์อาจจะฟ้องร้องในปีที่ 9 ก็ได้ ซึ่งถ้าถึงตอนนั้น คุณจะเสียเงินมากกว่า 15,000 บาท ไม่รู้จะกี่เท่า

ทวงคนซื้อยากกว่าทวงจากคนค้ำ เพราะคนซื้อมักจะหลบเก่ง แต่ทวงคนค้ำโอกาสได้เงินมีสูงกว่า เพราะคนค้ำส่วนใหญ่จะกลัวเสียเครดิต

คราวหน้า คราวหลังตรวจสอบประวัติคนซื้อให้ดีก่อนค้ำประกัน ยิ่งคนใกล้ตัวต้องยิ่งตรวจสอบให้ดี ถูกโกงมาเยอะแล้ว

ลุงแจ่ม
ที่มาของข่าว

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=bottom> เว็บบอร์ดตำรวจ
กลุ่ม การสนทนา หรือ ความรู้ตำรวจ
บอร์ด ถาม-ตอบ กฏหมายในงานตำรวจ (ผู้ดูแล: somboon51, therd)
ผมโดนหลอกให้ค้ำประกันรถยนต์(ใครช่วยผมได้บ้างครับ)</TD></TR></TBODY></TABLE>

ผมโดนหลอกให้ค้ำประกันรถยนต์(ใครช่วยผมได้บ้างครับ)
http://www.wutthi.com/forum/index.php?PHPSESSID=cdf13e16d6415f5adea8abec1faf83aa&topic=2624.0

โพสโดย ukkarin

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="85%" height="100%">เรื่องมันยาวหน่อยนะครับ แต่อาจเป็นประโยชน์ต่อคนที่ได้อ่านก้อได้
เมื่อประมาณเดือนตุลาคมปีทีแล้ว ได้มีคนทีรู้จักกันค่อนข้างสนิท มาบอกว่าจะออกรถ ให้เราช่วยค้ำประกันให้หน่อย
ด้วยความที่เป็นคนไว้ใจคนง่าย เห็นว่าหน้าที่การงานและครอบครัวของเค้า(นาย ก.)พอใช้ได้ และก็คิดว่าเค้าคงช่วยค้ำประกันเราบ้างในอนาคตถ้าเราอยากจะซื้อรถ
ผ่านไปประมาณ1อาทิตย์ เค้าได้พาเซลล์นำเอาเอกสารมาให้ผมเซ็นถึงที่บ้าน ผมก้อก้อเซ็นต์ไปโดยที่คิดว่าเค้า(นาย ก.)เป็นคนซื้อรถ ทุกคนก้อต้องเข้าใจอย่างผมใช่ไหมครับ ว่าเค้าต้องเป็นผู้ซื้อ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นอะซิ เวลาต่อมามีจดหมายยืนนันมาถึงบ้านผมว่า ผมได้เซ็นต์ค้ำประกันรถไป แต่ซื้อผู้รถกลับไม่ใช่คนที่ผมจะเซ็นต์ค้ำให้ กลับกลายเป็นชื่อพี่ชายเค้า(นาย ข.) ที่ไม่ได้ติดต่อกัน และไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน และผมไม่เชื่อมั่นในตัวพี่ชายของเค้าอยู่แล้วเพราะว่า(นาย ข.)เป็นคนที่ติดการพนันและยังเป็นหนี้ผมอยู่เลย ผมเลยไปโวยกับนาย ก.ให้รีบหาคนค้ำมาเปลี่ยนแทนที่ผม นาย ก.รับปากและผมได้บอกอีกว่าถ้ามีปัญหาเกิดขึนคุณต้องรับผิดชอบนะ
หลังจากที่รอให้ นาย ก. หาคนค้ำมาเปลี่ยนเพื่อแทนที่ผม ก้อเกิดปัญหาขึ้นจนได้
ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2550 บริษัทไฟแนนช์ได้โทรมาแจ้งว่าผู้ซื้อรถที่ผมเป็นคนค้ำประกันให้ไม่ได้จ่ายค่างวดรถเลยตั้งแต่ซื้อรถไป ทำให้ผมร้อนใจไปทวงถามกับนาย ก.เพื่อที่จะให้เค้าติดต่อกับานาย ข. ว่ามันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เค้า(นายก.)ก้อบอกว่าจะช่วยตามให้เหมือนที่ผมเคยบอกว่าเค้าต้องรับผิดชอบถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้น
เวลาผ่านไป 3-4 เดือนเรื่องก้อยังไม่คืบหน้า ไฟแนนซ์ก้อๆม่สามรถติดต่อผู้ซซื้อได้ จึงได้มาบี้กับทางผม ผมก้อไม่รู้จะทำไง และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้ไปหานาย ก.ที่บ้านอีกครั้ง ปรากฏว่าเค้าเลิกกับแฟนแล้วได้ย้ายออกจากบ้านหลังนี้ไปไปแล้ว คราวนี้ผมเคว้งเลย ไม่รู้จะทำไง ไม่รู้จะไปตามที่ไหน เบอร์โทรศัพท์ก้อเลิกการใช้งาน
ผมจะทำยังไงต่อไปดีครับ เพื่อนๆพี่คนไหนที่เคยเจอปัญหาแบบนี้ช่วยผมที
ว่าผมจะทำยังไงดี ต้องมารับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองไม่ได้สร้างขึ้นมา
ตอนนี้ผมเป็นคนดูแลรายจ่ายทุกอย่างของที่บ้าน หาเช้ากินค่ำแค่นี้ก้อจะไม่พอใช้อยู่แล้ว ยังมาเจออย่างนี้อีก

ผู้ซื้อ(นาย ข.) มันชื่อ xxxxxxxxxxxxxxxxxx
ส่วนน้องชาย(นาย ก.) มันชื่อ xxxxxxxxxxxxxxxxxx
รถยนต์โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน ตม.1516
ใครรู้จัก2คนนี้หรือว่าเห็นรถคันนี้ กรุณาติดต่อผมด้วยนะครับ
ขอบคุณนะครับที่สละเวลาอ่านจนจบ


ใครมีความคิดเห็นหรือคำแนะนำช่วยคอมเม้นต์ด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ

</TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=smalltext align=left width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom align=left>« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 15, 2007, 19:35:37 โดย v Cop » </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
----------------------------------------------------------

โพสตอบโดย คุณsomboon51
<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="85%" height="100%">คงต้องแก้ไขจากหนักให้เป็นเบาครับ
ตอนนี้ก็ต้องช่วยบริษัทไฟแนนซ์ติดตามรถคันดังกล่าวที่นาย ข เช่าซื้อ กลับคืนไปทางบริษัทไฟแนนซ์ ช่วยหารายละเอียดเกี่ยวกับที่อยู่และที่ทำงานของ นาย ข และสถานที่ที่ถูกนำไปจอดเก็บรักษาไว้ มาลงให้หน่อยครับ เพื่อจะได้มีข้อมูลในเบื้องต้นว่าจะติดตามรถยนต์คันดังกล่าวไปจากแหล่งหรือสถานที่ใดหรือสถานที่ใกล้เคียง คุณต้องลงทุนไปเฝ้านาย ข ที่บ้านหรือที่ทำงานติดตามว่านาย ข ยังใช้รถยนต์คันดังกล่าวหรือไม่ หากยังใช้รถอยู่ก็ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ของไฟแนนซ์ให้ไปติดตามยึดรถคืนไป คุณจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบในหนี้ที่ค้ำประกันทั้งหมดเต็มจำนวน รับผิดชอบแค่ค่าเสื่อมค่า เสื่อมราคาที่เกิดจากการใช้รถ และค่างวดที่ไม่ผ่อนชำระ โดยให้นาย ข รับผิดชอบชดใช้ให้กับทางบริษัทไฟแนนซ์ก่อน หากไม่ได้จริงๆ จึงให้บริษัทฯ มาไล่เบี้ยกับคุณ ขอแนะนำให้แก้ไขไปตามนี้ก่อนครับ

อีกทางหนึ่งคุณไปตกลงกับนาย ข เอารถยนต์คันนั้นมาใช้เอง แล้วก็เป็นผู้ผ่อนชำระค่างวดในงวดต่อๆ ไป โดยให้นาย ข ชำระค่างวดที่ค้างชำระ ผมก็คงจะแนะนำได้เท่านี้ละครับ





</TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=smalltext align=left width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom align=left>« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 17, 2007, 16:59:30 โดย somboon51 » </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=fontblacksm cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>อยากทราบกฎหมายในการค้ำประกันรถยนต์ค่ะ
http://guru.sanook.com/answer/question/อยากทราบกฎหมายในการค้ำประกันรถยนต์ค่ะ/

หมวด : ข้อมูล และความรู้
สร้างเมื่อ 08-02-2008 โดย amrain05

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=fontblacksm cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD>รายละเอียดคำถาม

ค้ำประกันรถให้เพื่อนค่ะ แล้วตอนนี้รถโดนยึดกำลังจะขายทอดตลาด และมีจดหมายแจ้งถึงภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นถ้าหลังจากขายรถได้ราคาไม่ถึงภาระหนี้สินที่ต้องชำระทางบริษัทไฟแนนซ์จะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายนั้นเพิ่มใครจะต้องเป็นคนรับผิดชอบภาระนั้นค่ะ? แล้วBlacklist ที่ติดพันอยู่เมื่อไหร่ถึงจะหมดไปค่ะ?
</TD></TR></TBODY></TABLE>


----------------------------------------------------

คำตอบ
โดย :Benzcup

สร้างเมื่อ 08-02-2008

คุณสามารถโทรไปปรึกษาได้ที่
ศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เลขที่ 2 ท่าพระจันทร์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทร : 0-2224-8106, 0-2225-6827, 0-2613-2128

กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
ชั้น 15 ตึกกระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
(รับให้คำปรึกษาหารือทางโทรศัพท์ ด้วยหมายเลข 0 2502 8219-23)