ลดราคาพิเศษ ระดมทุน /พระผงอ.สง่า วิหารเซียน เกศาเยอะ/หลวงพ่อมนัส/แม่ชีปทุมฯลฯ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย gaara99, 21 กุมภาพันธ์ 2016.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นว

    นว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +2,445
    โอนเงินแล้วครับ 350 วันที่ 4/7/59
    รายการ 25

    ชื่อที่อยู่แจ้งใน pm.ครับ
     
  2. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    แจ้งเลขที่จัดส่งครับ

    Livelight EQ752830078TH
    รักจันทร์ EQ752830064TH
    rt5038 EQ752830081TH
     
  3. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    ได้ครับผมเช็คแล้วเหรอ 2องค์พอดี

    --------------------------------------------
    ต้องขออภัยด้วย หมดแล้วครับผม ถ้าได้มาอีกจะแจ้งให้ทราบครับ

    ---------------------------------------------
    รับทราบการโอนเงินครับ สาธุ
    จัดส่งภายในสัปดาห์นี้ครับ
     
  4. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    รับทราบการโอนเงินครับ
    จัดส่งภายในสัปดาห์นี้ครับ
     
  5. sitprogpo

    sitprogpo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +357
    แจ้งการโอนแล้วครับ แจ้งทางข้อความส่วนตัว
     
  6. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    รับทราบครับผม
    สาธุครับ
     
  7. rang551

    rang551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,363
    ค่าพลัง:
    +3,131
    โอนเรียบร้อยตามSMSที่ส่งไปสักครู่ครับ ที่จัดส่งที่เคยแจ้งไปแล้วครับผม ขอบคุณครับ
     
  8. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    รับทราบการโอนเงินครับ
    แพ็คให้เรียบร้อย จัดส่งภายในสัปดาห์นี้ครับ:cool:
     
  9. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    รายการที่ 26 เหรียญปู่มังกรขาว รุ่นแรก ที่ระลึกเปิดตำหนัก ปี 2531

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]


    [​IMG]

    ตำหนักหลวงปู่มังกรขาว หรือ ถ้ำมังกรขาว (White Dragon King temple) เป็นศาลเจ้า (ไป่หลงกง) ที่ตั้งอยู่ในเขตตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ข้างโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร อยู่ติดกับหมู่บ้านศรีราชาวิลล่า
    นับเป็นตำหนักที่มีชื่อเสียงอย่างมากโดยเฉพาะในกลุ่มชาวฮ่องกง ชาวจีน และชาวไต้หวัน สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2530 โดยมี อาจารย์กิมน้ำ จิรรัตนพิเชษฐ์ (แซ่จิว) ซึ่งเป็นร่างทรงของ หลวงปู่มังกรขาว หรือ แป๊ะ เล้ง ฮ้วง เป็นผู้ดูแล

    [​IMG]
    ทั้งนี้ มีลูกศิษย์จากทั่วสารทิศทั้งในและต่างประเทศหลั่งไหลมารอการลงประทับทรงของหลวงปู่มังกรขาว เพื่อปัดเป่าบรรเทาสิ่งร้ายต่าง ๆ ให้กลับกลายเป็นดี ทำนายดวงชะตา และสะเดาะเคราะห์ ซึ่งแต่ละคนที่มาตำหนักหลวงปู่มังกรขาว เมื่อกลับไปก็มักจะประสบกับความสำเร็จทั้งสิ้น หลวงปู่ขาวจึงเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างมาก

    [​IMG]

    ย้อนตำนานตำหนักหลวงปู่มังกรขาว


    [​IMG]

    [​IMG]
    ตำหนักมังกรขาว และหลวงปู่มังกรขาวนั้น ตั้งอยู่ที่ ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งถ้ามาจากกรุงเทพฯ ถึงเขตตัวอำเภอศรีราชา เลยห้างโรบินสันไปหน่อยตรงไฟแดงเลี้ยวเข้าสถาบันการศึกษานามกระเดื่อง “อัสสัมชัญศรีราชา” วิ่งรถไปตามถนนสายนั้นข้ามทางรถไฟไปสักพักให้มองทางซ้ายมือจะมีป้ายบอกทางเข้าตำหนักมังกรขาว สถานที่สงบในแมกไม้ร่มรื่น ทุกเสาร์-อาทิตย์ จะมีสานุศิษย์จำนวนมากมารอการลงประทับทรงของหลวงปู่มังกรขาวตามบัตรคิว

    [​IMG]
    ตามตำนาน หลวงปู่มังกรขาว ลงมาประทับทรงเพื่อโปรดมนุษย์มาตั้งแต่ปี 2519 ที่หนองมน และย้ายมาอยู่ที่ใหม่ที่บ้านพักของอาจารย์กิมน้ำ แซ่จิว เมื่อเดือนธันวาคมปี 2527 และต่อมา ปี 2530 อาจารย์กิมน้ำ ซื้อที่ดิน 35 ไร่ บริเวณที่ติดบ้านพัก ในราคา 1.5 ล้านบาท เพื่อสร้างตำหนักโดยใช้เงินก่อสร้างประมาณ 10 ล้านบาท เสร็จเมื่อปี 2531 เปิดฉลองตำหนักเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ปีเดียวกัน

    [​IMG]
    ลูกศิษย์คนแรกๆ หลวงปู่มังกรขาวนั้น เป็นที่รู้จักกันดีในเมืองไทย และฮ่องกง คือนายหว่อง ชองชาน หรือนายคีรี กาญจนพาสน์ นักธุรกิจระหว่างชาติ ไปจนถึงดารานักร้อง คนในวงการบันเทิงฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็น อลัน ทัม และเหล่าดาราจาก ATV เช่น หลิว เต๋อ หัว, เหมียว เฉียว เหว่ย, เจิงหัวเจียน, หรือกระทั่งหงจินเป่า ทุกคนต่างพากันมาหาหลวงปู่มังกรขาวเมื่อมีปัญหา และเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต สำหรับ อลัน ทัม แล้ว ถือว่าเป็นศิษย์คนโปรดอีกคนหนึ่งในช่วงปี 2531 ถึง 2534 เพราะเขาเป็นเพื่อนกับ คีรี กาญจนพาสน์

    [​IMG]
    ตามเรื่องเล่าต่อๆ กันมานั้น ครั้งแรกที่หลวงปู่ ปรากฏสังขารให้สานุศิษย์ได้เห็น ท่านบอกชื่อของท่านเป็นภาษาจีนว่า “แป๊ะ เล้ง ฮ้วง” แปลว่ามังกรขาว และต่อมามีการวาดภาพออกมาโดยช่างวาดภาพตามศาลเจ้าจุดธูปบอกท่าน จึงวาดได้ ผู้วาดคือ นายเอี๋ยว ไม่ทราบนามสกุล และต่อมาก็มีการปั้นรูปของท่าน โดยขณะปั้นรูปเป็นแบบนั้น หลวงปู่มังกรขาว ได้มาบัญชาการปั้นเอง จนคนปั้นพูดว่า “อาปู่เฮี้ยน”

    [​IMG]
    “ข้าจะเฉลยประวัติของข้าสักเล็กน้อย ชะตาของข้ากำหนดให้ข้าลงมาโปรดมนุษย์นี่ก็มีสัญญาอยู่เบื้องบน ร่างของข้าลงมาเกิดมีสัญญากันไว้ อยู่เบื้องบนมีบันทึกต่างๆ เอาไว้ว่า ลงมาโปรดมนุษย์นี่ต้องเป็นตัวแทนพญามังกรขาว ชาติกำเนิดมีอะไรต่างๆ อยู่ในตัว แต่ห้ามเปิดเผยอะไรต่างๆ ไม่ให้ผู้คนได้รู้ ...”

    [​IMG]
    มีคำเทศนาบทหนึ่งที่เขียนติดไว้ในตำหนักหลวงปู่มังกรขาว

    มัวแต่รุ่มร้อน ใครจะชื่นชอบ
    อารมณ์ไม่ดี สำเร็จไม่ได้
    อารมณ์ไปเถิด คนไม่เข้าใกล้
    เสียงดังไปเถิด ลูกมือไม่มี
    ไม่มีเหตุผล หามิตรไม่มี
    ไม่อดทนไว้ เมื่อไรเจริญ
    จะให้ถูกใจ ต้องทำคนเดียว
    คิดให้ซึ้งซึ้ง จะรู้สึกเอง

    สาธุ สาธุ สาธุ.

    เนื้อกะไหล่เงินสภาพสวยมาก หายาก
    ร่วมบุญ 3,500 บาท
    ลดเหลือ 1,950 บาทครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2021
  10. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    ***ปิดรายการแล้วครับ***
    รายการที่ 27 รูปเหมือนปั๊มเนื้อผง อาจารย์สง่า แห่งวิหารเซียน


    คุณอำพลแกะพิมพ์ มวลสารทั้งหมดทางวิหารเซียนเป็นผู้จัดหามา
    มีทั้งอังคารธาตุ และเกศาอ.สง่า ผงธูป ฯลฯ
    ขนาด 2.1 x 2.6 ซม.

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    ด้านหน้ามีติดเส้นเกศา 1เส้นครับ


    ประวัติเซียน ลื้อท๊งปิง วิหารเซียน จ.ชลบุรี


    [​IMG]
    กระผมเคยคุยกับท่านอ.สง่า ที่เป็นผู้ก่อตั้งวิหารเซียนที่ชลบุรี ท่านบอกว่า องค์ลื่อตงปินสามารถสื่อกับท่านได้โดยทางจิตแต่ท่านไม่เคยเห็นตัวองค์ท่าน ทางนิมิตเลย ท่านบอกว่าตำแหน่งของท่านลื่อตงปินมีหน้าที่เหมือนรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยมี หน้าที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อยและปรามปรามผู้ร้าย

    มูลเหตุที่ท่านได้รู้จักกับองค์ท่านนั้นเนื่องมาจากคุณแม่ของอ.สง่าท่านป่วย เป็นโรคทานอะไรไม่ได้ ทำให้ไม่มีกำลังแม้แต่จะลุกยืน ตอนนั้นพวกญาติท่านก็พาไปหาซินแสหรือหมอแผนปัจจุบันมาหลายท่านก็ไม่ดีขึ้น ประจวบกับท่านอ.สง่าในสมัยนั้นไม่ค่อยเชื่อในเรื่องการเผาฮู้ต้มกินแล้วจะ หาย ยิ่งพวกเข้าทรงเจ้าต่างๆท่านไม่เชื่อเลย แต่เมื่อเป็นความต้องกรของญาติๆก็เลยได้แตลองทำดูเพราะไม่มีวิธีอื่นแล้ว จนวันหนึ่งได้เชิญคนทรงมาซึ่งคนทรงนี้ตามปกติจะไม่ใช่ร่างทรงของท่านองค์ เซียนลื่อตงปิน แต่เป็นร่างทรงเทพองค์อื่น แต่วันนั้นพอทำพิธีอัญเชิญปั๊บ ท่านลื่อตงปินก็มาประทับทรงทันทีและก็อกว่าจะช่วยให้คุณแม่ของอ.สง่าลุกเดิน ได้หายภายใน3เดือน แต่มีข้อแม้ว่าอ.สง่าจะต้องทำงานรับใช้ท่าน ซึ่งท่านอ.สง่าก็ได้ถามว่าจะให้ทำอะไรถ้าให้เป็นร่างทรงแบบนี้ท่านไม่เอาและ ท่านก็ไม่เคยศึกษาศาสตร์แนวนี้มาก่อน ม่านลื่อตงปินก็บอกว่าไม่เป็นไรท่านจะคอยช่วยบอกให้เองว่าจะต้องทำอะไร แล้วท่านก็ขียนฮู้ให้ อ.สง่าเก็บไว้เผาให้คุณแม่ของท่านละลายน้ำดื่ม ซึ่งก็ปรากฏว่าพอครบ3เดือนคุณแม่ท่านก็แข็งแรงเป็นปรกติเดินได้ดังเดิม ท่านลื่อตงปินก็มาทวงสัญญาอ.สง่าจึงต้องยอมทำงานรับใช้ท่านสงเคราะห์มนุษย์ โดยที่ท่านกับอ.จะสื่อสัมผัสทางใจกัน เหมือนเป็นอ.กับลูกศิษย์ อภินิหารขององค์เซียนลื่อตงปินที่วิหารเซียนมีเยอะครับ เอาไว้มีเวลาจะมาเล่าเป็นเรื่องๆไปครับ เช่นเรื่องตอนช่วยสร้างวัดญาณสังวร ชลบุรี ตอนปราบมังกรเขียว ตอนไฟไหม้โรงแรมที่พัทยา ตอนที่ช่วยกิจการของเจ้าของผลิตภัณฑ์จากไก่รายใหญ่ ตอนช่วยเจ้าของตึกใบหยกทาวเวอร์ ตอนช่วยแบงค์กสิกรที่จะล่มช่วงIMF

    [​IMG]

    อีก อย่างหนึ่งคือเพื่อนผมคนหนึ่งเขาบูชาพระผงท่านลื่อตงปินจากที่วิหารเซียนที่ ชลบุรีไป วันหนึ่งก็เจอนักจับพลังพระ ขณะที่นักจับพลังพระกำลังตรวจพระของคนอื่นอยู่ว่าดียังไง จู่ๆเขาก็หันมาที่เพื่อนของกระผมแล้วถามว่เขาห้อยพระอะไรอยู่(พระอยู่ใน เสื้อ ไม่ได้ห้อยออกมาข้างนอก)เพราะเขาเห็นรัศมีสีชมพูพุ่งออกมาดีทางเมตตาร่มเย็น และพลังนี้หมุนวนกลับไปกลับมาเหมือนหยินและหยาง ซึ่งตั้งแต่เขาตรวจพระมาไม่เคยเจอบบนี้เขาก็เลยขอดูพระของเพื่อนผม พอเขาเห็นพระเเล้วเขาก็เลยหายสงสัยว่าทำไมจึงมีพลังแบบนี้ พระนี้คิดว่าที่ทางวิหารเซียนยังมีอยู่นะครับ ผมเองยังเคยไปงานวันที่เขาอัญเชิญท่านองค์ลื่อตงปินมาประทับทรงที่วิหาร เซียนเลย

    อาเตียเล่าให้พวกเราฟังว่า สถานที่ตั้งวิหารเซียนแห่งนี้ท่านไม่ได้เป็นผู้มาพบเอง เดิมท่านมาช่วยงานวัดญาณสังวรารามวรวิหาร พอสร้างวัดญาณฯเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระราชทานที่ดินผืนนี้ให้ ซึ่งท่านคิดว่าที่ดินผืนนี้เป็นที่ที่มีคุณค่า สมควรจะสร้างเป็นที่เผยแพร่วัฒนธรรมไทยและจีน

    ที่ดินผืนนี้ได้รับพระราชทานในปี ๒๕๓๑ ซึ่งเป็นปีมังกรทอง..

    จึงได้เริ่มสร้างในวันที่ ๖ มิถุนายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานศิลาฤกษ์ลอย ทางวิหารจึงได้นำไปแกะลงบนแผ่นไม้และอัญเชิญไปติดไว้บนผนังทางเข้าวิหาร และในปี ๒๕๓๖ ได้นำขึ้นทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใช้ชื่อชาวไทยเชื้อสายจีนทั้งหมด ร่วมจิตร่วมใจกันสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ ๖๐ พรรษา
    [​IMG]

    สมัยที่สร้างวัดญาณสังวรวราราม ชลบุรีใหม่ๆนั้น ได้ประสบปัญหาและอุปสรรคนานาชนิดทั้งที่เกิดจากคนงานก่อสร้าง และจากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน จึงได้เชิญผู้ที่มีสมาธิจิตดีมาตรวจดูว่าเป็นเพราะเหตุใด ก็พบว่าบริเวณที่สร้างวัดนั้นมีความสัมพันธ์กับพระนเรศวรมากและมีดวงวิญญาณ ของผู้ที่ตายจากสงครามอยู่มากเป็นเหตุให้กานทำงานมีอุปสรรค ความทราบถึงองค์สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชท่านก็เลยได้เดินทางมาทำ พิธีแผ่เมตตาให้แก่ดวงวิญญาณเหล่านั้นด้วยพระองค์เองแต่ปรากฏว่า ยิ่งแผ่เมตตาก็ยิ่งมีดวงวิญญาณพากันมามากขึ้นจนท่านต้องมีบัญชาให้ไปตามตัว ซินแสสง่า(ผู้ก่อตั้งวิหารเซียน)มาช่วยตรวจดูให้ ซึ่งเมื่อท่านมาตรวจดูแล้วก็รู้ว่าจุดที่สร้างวัดเคยเป็นที่เดินทัพและเกิด สงครามมาก่อน ท่านจึงได้เผาฮู้ตรงใจกลางของที่นั้นซึ่งก็ได้มีคนที่ตาดีได้เห็นองค์ท่าน ลื่อตงปินสด็จมาบนหลังมังกร ซึ่งเมื่อท่านมาถึงพวกวิญญาณทั้งหลายก็กระเจิงหมด ซึ่งสถานที่ท่านได้เผาฮุ้นั้นได้กลายเป็นใจกลางพระอุโบสถในปัจจุบันนี้ครับ

    [​IMG]

    สำหรับพระพุทธรูปที่อยู่ในโบสถ์เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มากชื่อ"พระ พุทธหทัยนเรศวร์"สร้างขึ้นจากฝาบาตรพระที่ลงอักขระถึง84000ฝาด้วยกัน อีกทั้งยังได้อัญเชิญเทพระดับพรหมมารักษาพระพุทธรูป และภายในองค์ท่านยังได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุถึง84000องค์ ซึ่งเท่าที่ผมทราบมาน่าจะเป็นพระพุทธรูปที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุมากที่สุด เพราะพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุเกือบเต็มบาตรพระเลยครับ ใครผ่านไปก็ลองแวะไปขอพรท่านดูนะครับและอย่าลืมแวะชมวิหารเซียนกับพระพุทธ รูปเขาชีจรรย์ที่แกะสักด้วยเลเซอร์ด้วยครับ

    ช่วงที่สร้างวัดญาณสังวรใหม่ๆ นอกจากจะประสบปัญหาจากดวงวิญญาณเก่าแก่แล้ว ยังมีปัญหาเรื่องเวลาฝนตกแล้วน้ำจะท่วมถนนทางเข้าขาดทำให้การก่อสร้างต้อง หยุดชะงักและไม่คืบหน้า ทางอ.สง่าได้พิจารณาดูแล้วพบว่าเขาที่อยู่เบื้องหลังของวิหารเซียนในตอนนี้ (ตอนนั้นวิหารเซียนยังไม่ได้ก่อตั้ง)เป็นที่อยู่ของมังกรเขียวที่ดุร้ายตัว หนึ่งเวลาฝนตกจะชอบออกมาเล่นน้ำฝนเป็นประจำ จึงทำให้เกิดน้ำท่วมทางขาดเป็นประจำ มังกรเขียวตัวนี้มีหน้าที่เฝ้าบ่อเงินกับบ่อทอง(ตอนนี้ได้กลายเป็นที่ตั้ง ของวิหารเซียนไปแล้ว)ท่านจึงมีความคิดที่จะปิดปากถ้ำพญามังกรตัวนี้ไว้ ซึ่งท่านลื่อตงปินก็ได้มาแนะนำว่าให้เอาดินทับฟ้าไว้จึงจะปิดปากถ้ำไม่ให้ พญามังกรตัวนี้ออกมาอาละวาดได้ ดังนั้นถ้าใครพอมีความรู้เรื่องฮวงจุ้ยจะต้องเคยเห็นรูปปลาดำปลาขาว (สัญลักษณ์หยิน-หยางที่หน้าอกนักพรตไท้ก๊ก)ซึ่งแทนความหมายฟ้า-ดิน โดยสีขาวหมายถึงฟ้า สีดำหมายถึงดิน ตามปกติเครื่องหมายนี้สีขาวจะต้องอยู่ข้างบนและสีดำจะต้องอยู่ข้างล่าง แต่ที่วิหารเซียนจะกลับกันจากที่อื่นคือสีดำจะอยู่บนสีขาวจะอยู่ข้างล่าง เคยมีนักดูฮวงจุ้ยชื่อดังที่รับดูฮวงจุ้ยเป็นอาชีพได้ไปที่วิหารเซียนและ คยปรามาสท่านอ.สง่าว่าไม่รู้จริงสร้างผิดหลัก ท่านก็ได้แต่หัวเราะไม่ว่าอะไร ท่านมาเฉลยให้ผมฟังว่าที่ท่านทำอย่างนี้พื่อจะได้เอาดินทับฟ้าสะกดปิดปากถ้ำ มังกรเขียวไว้นั่นเอง และตอนนี้มังกรเขียวตัวนั้นก็ได้กลายเป็นพาหนะของท่านลื่อตงปินไปแล้ว

    อ.สง่าท่านจึงเขียนฮู้มังกรเขียวแจกฟรี ใครสนใจไปขอได้ที่วิหารเซียนครับ และมีอย่างผ้ายันต์มังกรเขียวด้วย ท่านบอกว่าถ้ามีเรื่องเดือดร้อนอะไรให้เผาฮู้กลางแจ้งจุดธู)บอกองค์เซียน ลื่อตงปินท่านแล้วอธิษฐานครับ

    ฮู้นี้มีผู้เคยประสบเหตุบ่อย ๆ คือมีอยู่ท่านหนึ่งได้รับฮู้แบบผ้ายันต์ไปซึ่งตามปกติท่านจะแจกแบบกระดาษซะ เป็นส่วนใหญ่ ก็พับเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ ระหว่างทางขับรถกลับบ้านก็ประสบอุบัติเหตรถพังยับแต่ตนเองไม่เป็นอะไร ก็ไม่ได้เอะใจอะไรแต่เมื่อกลับไปถึงบ้านเอาอู้ออกมาจากกระเป๋าเสื้อปรากฏว่า ฮู้ขาดเป็นสองท่อน ก็เลยรีบมาเล่าให้ท่านอ.สง่าฟัง ท่านก็บอกว่ามังกรเขียวเขาออกไปรับแทนไม่งั้นจะเจ็บหนักแน่ ที่น่าแปลกคืออู้นั้นเป็นผ้ายันต์แต่ขาดเหมือนโดนฉีกออกจากกันอย่างแรง ผมเองเคยได้มาเป็นปึกๆสมัยท่านยังอยู่แต่ก็แจกไปซะเกือบหมดแล้ว อย่างกระดาษคิดว่าที่วิหารเซียนยังคงมีอยู่แต่แบบผ้ายันต์ไม่แน่ใจครับ



    อาเตีย ท่านเป็นผู้ที่มีบุคลิกลักษณะอันโดดเด่น คิ้วโค้งเปี่ยมด้วยความกรุณา นัยน์ตาแฝงด้วยความอารีย์โอบอ้อม จิตใจร่าเริง ถ้อยคำวาจาก็ล้วนเป็นความสัจตรง

    อย่างที่ผมบอกในตอนต้นครับว่าคนทั่วๆไป ต่างมีความเห็นว่าอาเตียมีความสามารถพิเศษในการดูทำเลที่ตั้ง รู้ทิศทางของลมและน้ำ ว่าตรงไหนเป็นทำเลที่ให้คุณ ตรงไหนเป็นทำเลที่ให้โทษ หรือทำเลนั้นควรเป็นไปเพื่อที่อยู่อาศัย ที่ทำมาหากินหรือที่ฝังศพ....

    ซึ่งในเรื่องความสามารถพิเศษของอาเตียตรงนี้ อาจารย์สุลักษณ์ ศิวลักษณ์(ส.ศิวลักษณ์) เคยกล่าวถึงไว้ว่า..


    “ที่น่าอัศจรรย์ อันคนทั่วๆไปยากจะเข้าใจได้ ก็ตรงที่ท่านมีคุณวิเศษทางด้านติดต่อกับสิ่งมหัศจรรย์ สิ่งลี้ลับต่างๆ ไม่ใช่ในทางของไสยศาสตร์ หากเป็นไปในแนวทางของศาสนธรรม....”

    “นายสง่า เป็นบุคคลจำนวนน้อยในเมืองไทย ที่เข้าถึงคุณธรรมอันล้ำลึกของลัทธิเต๋าและขงจื้อ พร้อมๆกับความเป็นพุทธศาสนิกของท่าน โดยท่านเข้าใจประวัติศาสตร์และวรรณคดีของจีน ที่เป็นองค์ประกอบของลัทธิศาสนาและวัฒนธรรมของจีนเป็นอย่างดี....

    พร้อมๆกันนี้ ท่านก็เข้าถึงวรรณคดีและวัฒนธรรมไทย โดยมีความจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ของไทยอย่างลึกซึ้งอีกด้วย..”

    ว่ากันว่า..“ความเมตตา เป็นเครื่องค้ำจุนโลก ไม่สามารถหาขอบเขตสิ้นสุดได้”..

    ดังนั้นความหมายของคำว่า ความเมตตานั้น จึงมิใช่เพียงแค่สงสาร เห็นอกเห็นใจเท่านั้น หากแต่หมายรวมถึง

    ”การเอาใจใส่ การใส่ใจและการปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย...”

    อาเตียชอบที่จะปฏิบัติต่อผู้คนที่เข้ามาหาท่านด้วยความเมตตา ไม่คิดเอารัดเอาเปรียบ และไม่ฉกฉวยของผู้อื่นไปเป็นของตน....

    ดังนั้นเวลาที่คนมีความทุกข์ร้อนและเข้าไปหาอาเตีย อาเตียจะแนะนำให้เขาเหล่านั้นสวดมนต์ ภาวนา ทำบุญและบริจาคทาน พร้อมกับให้เผา “ยันต์จีน” หรือที่เราเรียกกันว่า “แชเล้งฮู้” ตามความเชื่อของคนจีน..

    สร้างน้อยหายาก แจกจ่ายกันเป็นการภายในครับ
    แค่มีเกศาและอังคารธาตุของเซียนอย่างอ.สง่าก็หาค่ามิได้แล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2016
  11. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    ปิดรายการที่ 27ให้สมาชิกทางpmแล้วครับ
     
  12. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    ***หมดแล้วครับ***
    รายการที่ 28 แชเล้งฮู้ กระดาษยันต์มังกรเขียว ท่านอาจารย์สง่า กุลกอบเกียรติ แห่งอเนกกุศลศาลา (วิหารเซียน)


    [​IMG]


    ประวัติเซียน ลื้อท๊งปิง วิหารเซียน จ.ชลบุรี


    [​IMG]
    กระผมเคยคุยกับท่านอ.สง่า ที่เป็นผู้ก่อตั้งวิหารเซียนที่ชลบุรี ท่านบอกว่า องค์ลื่อตงปินสามารถสื่อกับท่านได้โดยทางจิตแต่ท่านไม่เคยเห็นตัวองค์ท่าน ทางนิมิตเลย ท่านบอกว่าตำแหน่งของท่านลื่อตงปินมีหน้าที่เหมือนรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยมี หน้าที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อยและปรามปรามผู้ร้าย

    มูลเหตุที่ท่านได้รู้จักกับองค์ท่านนั้นเนื่องมาจากคุณแม่ของอ.สง่าท่านป่วย เป็นโรคทานอะไรไม่ได้ ทำให้ไม่มีกำลังแม้แต่จะลุกยืน ตอนนั้นพวกญาติท่านก็พาไปหาซินแสหรือหมอแผนปัจจุบันมาหลายท่านก็ไม่ดีขึ้น ประจวบกับท่านอ.สง่าในสมัยนั้นไม่ค่อยเชื่อในเรื่องการเผาฮู้ต้มกินแล้วจะ หาย ยิ่งพวกเข้าทรงเจ้าต่างๆท่านไม่เชื่อเลย แต่เมื่อเป็นความต้องกรของญาติๆก็เลยได้แตลองทำดูเพราะไม่มีวิธีอื่นแล้ว จนวันหนึ่งได้เชิญคนทรงมาซึ่งคนทรงนี้ตามปกติจะไม่ใช่ร่างทรงของท่านองค์ เซียนลื่อตงปิน แต่เป็นร่างทรงเทพองค์อื่น แต่วันนั้นพอทำพิธีอัญเชิญปั๊บ ท่านลื่อตงปินก็มาประทับทรงทันทีและก็อกว่าจะช่วยให้คุณแม่ของอ.สง่าลุกเดิน ได้หายภายใน3เดือน แต่มีข้อแม้ว่าอ.สง่าจะต้องทำงานรับใช้ท่าน ซึ่งท่านอ.สง่าก็ได้ถามว่าจะให้ทำอะไรถ้าให้เป็นร่างทรงแบบนี้ท่านไม่เอาและ ท่านก็ไม่เคยศึกษาศาสตร์แนวนี้มาก่อน ม่านลื่อตงปินก็บอกว่าไม่เป็นไรท่านจะคอยช่วยบอกให้เองว่าจะต้องทำอะไร แล้วท่านก็ขียนฮู้ให้ อ.สง่าเก็บไว้เผาให้คุณแม่ของท่านละลายน้ำดื่ม ซึ่งก็ปรากฏว่าพอครบ3เดือนคุณแม่ท่านก็แข็งแรงเป็นปรกติเดินได้ดังเดิม ท่านลื่อตงปินก็มาทวงสัญญาอ.สง่าจึงต้องยอมทำงานรับใช้ท่านสงเคราะห์มนุษย์ โดยที่ท่านกับอ.จะสื่อสัมผัสทางใจกัน เหมือนเป็นอ.กับลูกศิษย์ อภินิหารขององค์เซียนลื่อตงปินที่วิหารเซียนมีเยอะครับ เอาไว้มีเวลาจะมาเล่าเป็นเรื่องๆไปครับ เช่นเรื่องตอนช่วยสร้างวัดญาณสังวร ชลบุรี ตอนปราบมังกรเขียว ตอนไฟไหม้โรงแรมที่พัทยา ตอนที่ช่วยกิจการของเจ้าของผลิตภัณฑ์จากไก่รายใหญ่ ตอนช่วยเจ้าของตึกใบหยกทาวเวอร์ ตอนช่วยแบงค์กสิกรที่จะล่มช่วงIMF

    [​IMG]

    อีก อย่างหนึ่งคือเพื่อนผมคนหนึ่งเขาบูชาพระผงท่านลื่อตงปินจากที่วิหารเซียนที่ ชลบุรีไป วันหนึ่งก็เจอนักจับพลังพระ ขณะที่นักจับพลังพระกำลังตรวจพระของคนอื่นอยู่ว่าดียังไง จู่ๆเขาก็หันมาที่เพื่อนของกระผมแล้วถามว่เขาห้อยพระอะไรอยู่(พระอยู่ใน เสื้อ ไม่ได้ห้อยออกมาข้างนอก)เพราะเขาเห็นรัศมีสีชมพูพุ่งออกมาดีทางเมตตาร่มเย็น และพลังนี้หมุนวนกลับไปกลับมาเหมือนหยินและหยาง ซึ่งตั้งแต่เขาตรวจพระมาไม่เคยเจอบบนี้เขาก็เลยขอดูพระของเพื่อนผม พอเขาเห็นพระเเล้วเขาก็เลยหายสงสัยว่าทำไมจึงมีพลังแบบนี้ พระนี้คิดว่าที่ทางวิหารเซียนยังมีอยู่นะครับ ผมเองยังเคยไปงานวันที่เขาอัญเชิญท่านองค์ลื่อตงปินมาประทับทรงที่วิหาร เซียนเลย

    อาเตียเล่าให้พวกเราฟังว่า สถานที่ตั้งวิหารเซียนแห่งนี้ท่านไม่ได้เป็นผู้มาพบเอง เดิมท่านมาช่วยงานวัดญาณสังวรารามวรวิหาร พอสร้างวัดญาณฯเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระราชทานที่ดินผืนนี้ให้ ซึ่งท่านคิดว่าที่ดินผืนนี้เป็นที่ที่มีคุณค่า สมควรจะสร้างเป็นที่เผยแพร่วัฒนธรรมไทยและจีน

    ที่ดินผืนนี้ได้รับพระราชทานในปี ๒๕๓๑ ซึ่งเป็นปีมังกรทอง..

    จึงได้เริ่มสร้างในวันที่ ๖ มิถุนายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานศิลาฤกษ์ลอย ทางวิหารจึงได้นำไปแกะลงบนแผ่นไม้และอัญเชิญไปติดไว้บนผนังทางเข้าวิหาร และในปี ๒๕๓๖ ได้นำขึ้นทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใช้ชื่อชาวไทยเชื้อสายจีนทั้งหมด ร่วมจิตร่วมใจกันสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ ๖๐ พรรษา
    [​IMG]

    สมัยที่สร้างวัดญาณสังวรวราราม ชลบุรีใหม่ๆนั้น ได้ประสบปัญหาและอุปสรรคนานาชนิดทั้งที่เกิดจากคนงานก่อสร้าง และจากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน จึงได้เชิญผู้ที่มีสมาธิจิตดีมาตรวจดูว่าเป็นเพราะเหตุใด ก็พบว่าบริเวณที่สร้างวัดนั้นมีความสัมพันธ์กับพระนเรศวรมากและมีดวงวิญญาณ ของผู้ที่ตายจากสงครามอยู่มากเป็นเหตุให้กานทำงานมีอุปสรรค ความทราบถึงองค์สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชท่านก็เลยได้เดินทางมาทำ พิธีแผ่เมตตาให้แก่ดวงวิญญาณเหล่านั้นด้วยพระองค์เองแต่ปรากฏว่า ยิ่งแผ่เมตตาก็ยิ่งมีดวงวิญญาณพากันมามากขึ้นจนท่านต้องมีบัญชาให้ไปตามตัว ซินแสสง่า(ผู้ก่อตั้งวิหารเซียน)มาช่วยตรวจดูให้ ซึ่งเมื่อท่านมาตรวจดูแล้วก็รู้ว่าจุดที่สร้างวัดเคยเป็นที่เดินทัพและเกิด สงครามมาก่อน ท่านจึงได้เผาฮู้ตรงใจกลางของที่นั้นซึ่งก็ได้มีคนที่ตาดีได้เห็นองค์ท่าน ลื่อตงปินสด็จมาบนหลังมังกร ซึ่งเมื่อท่านมาถึงพวกวิญญาณทั้งหลายก็กระเจิงหมด ซึ่งสถานที่ท่านได้เผาฮุ้นั้นได้กลายเป็นใจกลางพระอุโบสถในปัจจุบันนี้ครับ

    [​IMG]

    สำหรับพระพุทธรูปที่อยู่ในโบสถ์เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มากชื่อ"พระ พุทธหทัยนเรศวร์"สร้างขึ้นจากฝาบาตรพระที่ลงอักขระถึง84000ฝาด้วยกัน อีกทั้งยังได้อัญเชิญเทพระดับพรหมมารักษาพระพุทธรูป และภายในองค์ท่านยังได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุถึง84000องค์ ซึ่งเท่าที่ผมทราบมาน่าจะเป็นพระพุทธรูปที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุมากที่สุด เพราะพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุเกือบเต็มบาตรพระเลยครับ ใครผ่านไปก็ลองแวะไปขอพรท่านดูนะครับและอย่าลืมแวะชมวิหารเซียนกับพระพุทธ รูปเขาชีจรรย์ที่แกะสักด้วยเลเซอร์ด้วยครับ

    ช่วงที่สร้างวัดญาณสังวรใหม่ๆ นอกจากจะประสบปัญหาจากดวงวิญญาณเก่าแก่แล้ว ยังมีปัญหาเรื่องเวลาฝนตกแล้วน้ำจะท่วมถนนทางเข้าขาดทำให้การก่อสร้างต้อง หยุดชะงักและไม่คืบหน้า ทางอ.สง่าได้พิจารณาดูแล้วพบว่าเขาที่อยู่เบื้องหลังของวิหารเซียนในตอนนี้ (ตอนนั้นวิหารเซียนยังไม่ได้ก่อตั้ง)เป็นที่อยู่ของมังกรเขียวที่ดุร้ายตัว หนึ่งเวลาฝนตกจะชอบออกมาเล่นน้ำฝนเป็นประจำ จึงทำให้เกิดน้ำท่วมทางขาดเป็นประจำ มังกรเขียวตัวนี้มีหน้าที่เฝ้าบ่อเงินกับบ่อทอง(ตอนนี้ได้กลายเป็นที่ตั้ง ของวิหารเซียนไปแล้ว)ท่านจึงมีความคิดที่จะปิดปากถ้ำพญามังกรตัวนี้ไว้ ซึ่งท่านลื่อตงปินก็ได้มาแนะนำว่าให้เอาดินทับฟ้าไว้จึงจะปิดปากถ้ำไม่ให้ พญามังกรตัวนี้ออกมาอาละวาดได้ ดังนั้นถ้าใครพอมีความรู้เรื่องฮวงจุ้ยจะต้องเคยเห็นรูปปลาดำปลาขาว (สัญลักษณ์หยิน-หยางที่หน้าอกนักพรตไท้ก๊ก)ซึ่งแทนความหมายฟ้า-ดิน โดยสีขาวหมายถึงฟ้า สีดำหมายถึงดิน ตามปกติเครื่องหมายนี้สีขาวจะต้องอยู่ข้างบนและสีดำจะต้องอยู่ข้างล่าง แต่ที่วิหารเซียนจะกลับกันจากที่อื่นคือสีดำจะอยู่บนสีขาวจะอยู่ข้างล่าง เคยมีนักดูฮวงจุ้ยชื่อดังที่รับดูฮวงจุ้ยเป็นอาชีพได้ไปที่วิหารเซียนและ คยปรามาสท่านอ.สง่าว่าไม่รู้จริงสร้างผิดหลัก ท่านก็ได้แต่หัวเราะไม่ว่าอะไร ท่านมาเฉลยให้ผมฟังว่าที่ท่านทำอย่างนี้พื่อจะได้เอาดินทับฟ้าสะกดปิดปากถ้ำ มังกรเขียวไว้นั่นเอง และตอนนี้มังกรเขียวตัวนั้นก็ได้กลายเป็นพาหนะของท่านลื่อตงปินไปแล้ว

    อ.สง่าท่านจึงเขียนฮู้มังกรเขียวแจกฟรี ใครสนใจไปขอได้ที่วิหารเซียนครับ และมีอย่างผ้ายันต์มังกรเขียวด้วย ท่านบอกว่าถ้ามีเรื่องเดือดร้อนอะไรให้เผาฮู้กลางแจ้งจุดธู)บอกองค์เซียน ลื่อตงปินท่านแล้วอธิษฐานครับ

    ฮู้นี้มีผู้เคยประสบเหตุบ่อย ๆ คือมีอยู่ท่านหนึ่งได้รับฮู้แบบผ้ายันต์ไปซึ่งตามปกติท่านจะแจกแบบกระดาษซะ เป็นส่วนใหญ่ ก็พับเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ ระหว่างทางขับรถกลับบ้านก็ประสบอุบัติเหตรถพังยับแต่ตนเองไม่เป็นอะไร ก็ไม่ได้เอะใจอะไรแต่เมื่อกลับไปถึงบ้านเอาอู้ออกมาจากกระเป๋าเสื้อปรากฏว่า ฮู้ขาดเป็นสองท่อน ก็เลยรีบมาเล่าให้ท่านอ.สง่าฟัง ท่านก็บอกว่ามังกรเขียวเขาออกไปรับแทนไม่งั้นจะเจ็บหนักแน่ ที่น่าแปลกคืออู้นั้นเป็นผ้ายันต์แต่ขาดเหมือนโดนฉีกออกจากกันอย่างแรง ผมเองเคยได้มาเป็นปึกๆสมัยท่านยังอยู่แต่ก็แจกไปซะเกือบหมดแล้ว อย่างกระดาษคิดว่าที่วิหารเซียนยังคงมีอยู่แต่แบบผ้ายันต์ไม่แน่ใจครับ



    อาเตีย ท่านเป็นผู้ที่มีบุคลิกลักษณะอันโดดเด่น คิ้วโค้งเปี่ยมด้วยความกรุณา นัยน์ตาแฝงด้วยความอารีย์โอบอ้อม จิตใจร่าเริง ถ้อยคำวาจาก็ล้วนเป็นความสัจตรง

    อย่างที่ผมบอกในตอนต้นครับว่าคนทั่วๆไป ต่างมีความเห็นว่าอาเตียมีความสามารถพิเศษในการดูทำเลที่ตั้ง รู้ทิศทางของลมและน้ำ ว่าตรงไหนเป็นทำเลที่ให้คุณ ตรงไหนเป็นทำเลที่ให้โทษ หรือทำเลนั้นควรเป็นไปเพื่อที่อยู่อาศัย ที่ทำมาหากินหรือที่ฝังศพ....

    ซึ่งในเรื่องความสามารถพิเศษของอาเตียตรงนี้ อาจารย์สุลักษณ์ ศิวลักษณ์(ส.ศิวลักษณ์) เคยกล่าวถึงไว้ว่า..


    “ที่น่าอัศจรรย์ อันคนทั่วๆไปยากจะเข้าใจได้ ก็ตรงที่ท่านมีคุณวิเศษทางด้านติดต่อกับสิ่งมหัศจรรย์ สิ่งลี้ลับต่างๆ ไม่ใช่ในทางของไสยศาสตร์ หากเป็นไปในแนวทางของศาสนธรรม....”

    “นายสง่า เป็นบุคคลจำนวนน้อยในเมืองไทย ที่เข้าถึงคุณธรรมอันล้ำลึกของลัทธิเต๋าและขงจื้อ พร้อมๆกับความเป็นพุทธศาสนิกของท่าน โดยท่านเข้าใจประวัติศาสตร์และวรรณคดีของจีน ที่เป็นองค์ประกอบของลัทธิศาสนาและวัฒนธรรมของจีนเป็นอย่างดี....

    พร้อมๆกันนี้ ท่านก็เข้าถึงวรรณคดีและวัฒนธรรมไทย โดยมีความจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ของไทยอย่างลึกซึ้งอีกด้วย..”

    ว่ากันว่า..“ความเมตตา เป็นเครื่องค้ำจุนโลก ไม่สามารถหาขอบเขตสิ้นสุดได้”..

    ดังนั้นความหมายของคำว่า ความเมตตานั้น จึงมิใช่เพียงแค่สงสาร เห็นอกเห็นใจเท่านั้น หากแต่หมายรวมถึง

    ”การเอาใจใส่ การใส่ใจและการปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย...”

    อาเตียชอบที่จะปฏิบัติต่อผู้คนที่เข้ามาหาท่านด้วยความเมตตา ไม่คิดเอารัดเอาเปรียบ และไม่ฉกฉวยของผู้อื่นไปเป็นของตน....

    ดังนั้นเวลาที่คนมีความทุกข์ร้อนและเข้าไปหาอาเตีย อาเตียจะแนะนำให้เขาเหล่านั้นสวดมนต์ ภาวนา ทำบุญและบริจาคทาน พร้อมกับให้เผา “ยันต์จีน” หรือที่เราเรียกกันว่า “แชเล้งฮู้” ตามความเชื่อของคนจีน..

    ขอบคุณข้อมูลจาก

    ให้ร่วมบุญ 350 บาท
    ได้มาใหม่ 10แผ่นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2016
  13. runkey

    runkey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,114
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ขอร่วมบุญ รายการที่ 28 แชเล้งฮู้ กระดาษยันต์มังกรเขียว ท่านอาจารย์สง่า กุลกอบเกียรติ แห่งอเนกกุศลศาลา (วิหารเซียน) 1 แผ่นครับ
    ขอบคุณครับ
     
  14. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    กระดาษยันต์เหลือ 2แผ่นครับ
     
  15. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    รับทราบครับผม
     
  16. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    ขณะนี้งานปั้นหุ่นหลวงปู่เทพฯ ได้ว่าจ้างช่างใหม่แล้วนะครับ
    เนื่องจากช่างที่ติดต่อไว้ปั้นออกมาไม่เรียบร้อย และก็ไม่แก้งาน แต่ทิ้งงานไปเลยติดต่อไม่ได้

    สำหรับช่างใหม่ที่ปั้นงานให้นี้มีดีกรีปั้นหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ องค์ใหญ่
    และหลวงปู่แผ้วองค์ใหญ่มาแล้ว ประวัติความรับผิดชอบดีมาก
    น่าจะได้เห็นแบบต้นเดือนหน้านี้ครับ

    โมทนาบุญกันทุกท่านอีกรอบนะครับที่มาร่วมบุญกัน และก็ได้รับพระเครื่องวัตถุมงคลอันศักดิ์สิทธิ์ของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ไว้กราบไหว้บูชาเป็นที่ระลึกสำหรับงานบุญนี้ครับ
     
  17. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    เลขที่ขัดส่งครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,075
    ค่าพลัง:
    +22,256
    รายการที่ 25 เหรียญจตุคามรามเทพ รุ่น บุญญฤทธิ์ ประสิทธิพรชัย
    สร้างโดย อ.ศุภรัตน์ แสงจันทร์

    วันนี้เวลา ๑๓.๒๖ น. โอนเงินแล้วครับ ยอด ๗๕๐ บาท
    รายละเอียดอื่นในPM...
     
  19. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    รับทราบการโอนเงินครับผม
    จัดส่งได้สัปดาห์หน้า:cool:
     
  20. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    ***ปิดรายการให้คุณKachin***
    รายการที่ 29 เจ้าพ่อเสือ รุ่น2 สมาคมจีจินเกาะ

    ปั้นโดยอ.อำพลเจน งานศิลป์สวยงามเป็นหนึ่ง แถมออกที่สมาคมจีจินเกาะเรื่องความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังหายห่วง

    [​IMG]

    [​IMG]
    ด้านหลังฝังปฐวีธาตุหลวงพ่ออุตตมะ

    ขอยกเรื่องราวของ "พระอาจารย์จี้กง" ที่เสกโดยสมาคมจีจินเกาะ
    งานเขียนอ.อำพลเจน มาเป็นข้อมูลประกอบครับ

    [​IMG]

    ผมรู้จักนับถือกันกับคุณธำรง ปัทมภาส มานานพอสมควร แต่ไม่เคยรู้ว่าคุณธำรง มีชื่อเล่นว่า มิ้งค์

    "คนเข้าทรงที่มีคุณภาพที่สุดในเวลานี้คือเฮียมิ้งค์" ท่านเมี่ยง วรมันว่า

    "ไม่จริ๊ง ไม่จริง" ผมเถียง "คนเข้าทรงที่ผมเห็นว่าพอจะเชื่อถือได้คือคุณธำรง"

    "สู้เฮียมิ้งค์ของผมไม่ได้หรอก"ท่านเมี่ยงไม่ยอม

    "เฮียมิ้ง เฮียเม้งอะไรผมไม่รู้จัก ถ้าจะต้องสู้กันเป็นอันเสร็จคุณธำรงแน่" ผมไม่ยอม

    เรื่องของเรื่องก็คือ ท่านเมี่ยง วรมัน ก็ไม่เคยรู้จักว่าเฮียมิ้งค์มีชื่อจริงว่า ธำรง

    ทีหลังความจริงปรากฏ ทั้งผม ทั้งท่านเมี่ยงหัวเราะเกือบตาย

    คุณธำรง ปัทมภาส หรือเฮียมิ้งค์ เป็นร่างทรงของท่านอาจารย์จี้กง อยู่ที่สมาคมเผยแพร่คุณธรรม "เต็กก่า" จีจินเกาะ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ซอยวัดทองนพคุณ ถนนสมเด็จเจ้าพระยา คลองสาน

    ใครไม่รู้จักว่าอยู่ที่ไหน ให้หาโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาฯ ปากคลองสานให้เจอ ก็จะหาซอยวัดทองนพคุณได้ไม่ยาก

    คุณธำรงจะเริ่มเป็นร่างทรงมาแต่ไหนไม่ทราบ คงทราบแต่ว่า แม้วิหารเซียนของอาจารย์สง่า ที่ชลบุรี ก็ได้เชิญคุณธำรงไปเข้าทรงท่านลื่อโจ๊ว และเซียนต่างๆอีกหลายองค์เป็นประจำ

    ข้อที่น่าสังเกตุก็คือว่า เมื่อเวลาคุณธำรงเข้าทรงท่านอาจารย์จี้กงจะกินเหล้า ไม่เลือกว่าจะต้องเป็นเหล้าชนิดไหน แล้วแต่ลูกศิษย์จะหามาถวาย ไม่ได้กินแต่น้อยหรือแค่จิบ เรียกว่าตลอดเวลาที่เข้าทรงครั้งละหลายชั่วโมง กินเหล้าทุกระยะ กระทั่งคอแข็งๆเห็นแล้วยังต้องส่ายหน้าบอกว่า ถ้าตนกินเหล้าขนาดนั้นมีหวังหงายท้อง แต่แปลกที่เมื่อออกจากเข้าทรงแล้ว คุณธำรงดูปกติดี ไม่มีอาการเมามาย หรือได้ผ่านการกินเหล้ามาก่อนแต่อย่างใด

    ท่านอาจารย์จี้กง เป็นภิกษุที่อายุอยู่เมื่อ 800 กว่าปีมาแล้ว เกิดอยู่ที่ตำบลเทียนไท้ อำเภอไตโจว จังหวัดเชอเจียง ประเทศจีน เข้าใจว่าทุกวันนี้จะเป็นเมืองหังโจวหรือเปล่าไม่ทราบ เพราะว่าวัดหลงหยิ่น ที่ท่านบวชและพำนักอยู่แต่เบื้องต้นกับวัดจิ้งฉือ ที่ท่านมรณภาพก็อยู่ในเมืงหังโจว ทั้ง 2 วัดนี้ผมเคยไปมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน เสียแต่ว่าขณะที่ไปนั้น ผมไม่รู้ว่าเป็นวัดของท่านอาจารย์จี้กง

    สมัยที่ท่านอาจารย์จี้กงยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านมีชื่อเสียงระบือไกลแล้ว คนเชื่อถือว่าท่านมีความสามารถหลายแนว ทั้งเจ้าปัญญา เจ้าบทเจ้ากลอน และมีอภินิหารแบบที่ชาวสวนขลังชอบนักชอบหนา จึงเป็นที่เคารพทั่วไป แต่ว่าท่านก็เป็นคนที่มีอารมณ์ผันแปรไม่แน่นอน ใช้ชีวิตแบบอิสระเต็มที่ ไม่อยู่ในระเบียบหรือวินัย กินทั้งเนื้อสัตว์และเหล้า วันๆเดินท่อมๆพร้อมกับโบกพัดขาดๆเก่าๆ คนเขาจึงเห็นว่าท่านเป็นพระบ้า แต่เห็นเช่นนั้นแล้วก็ให้ความนับถือท่านด้วยเพราะว่า ท่านเป็นผู้มีเมตตากรุณาธิคุณไม่มีประมาณ ชอบช่วยเหลือคนทุกข์ทั้งหลาย คนยากคนจน คนเจ็บป่วย ผู้ถูกกดขี่

    ตลอดชีวิตของท่านก็ทำแต่เรื่องแก้ทุกข์ให้มวลชน จนแม้ทุกวันนี้ท่านกลายเป็นเสมือนเทพอีกองค์หนึ่งที่คนยุคปัจจุบันยังเคารพกราบไหว้ ท่านยังช่วยสงเคราะห์ผู้คน โดยผ่านร่างทรงของคุณธำรงอยู่แทบทุกวัน

    เพราะเหตุที่ท่านอาจารย์จี้กงชอบกินเหล้า และเจ้าบทเจ้ากลอน ดังนั้นเวลาเข้าทรงบุคลิกนี้จึงเห็นได้เด่นชัด คือลูกศิษย์ถวายเหล้าเมื่อไหร่ก็จะรับ และซดรวดเดียวหมดจอก และโต้ตอบผู้คนด้วยบทกลอน ทั้งภาษาจีนและภาษาไทย

    เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2544 ผมได้พบคุณธำรงที่วัดหลวง จังหวัดอุบลฯ และได้เห็นการเข้าทรงของคุณธำรงเป็นครั้งแรก ก็มีความประทับใจเกิดขึ้น คือท่านอาจารย์จี้กงได้เขียนกลอนกระทู้ผ่านร่างทรงของคุณธำรงให้ผมโดยเฉพาะ กลอนนั้นว่าอย่างนี้

    อำ นาจธรรมเข้มขลังกว่าอำนาจใด

    พล กำลังอันยิ่งใหญ่จากใจหนอ

    เจน จบระบบรู้ยังไม่พอ

    จง ขวนขวายอย่ารีรอเร่งบำเพ็ญ

    เห็น เป็นเพียงมายาภาพฉาบสมมุติ

    จริง กับเท็จ คือจุดร่วมควรชัดเห็น

    ทุก ทุกอย่างล้วนว่างเปล่าดังเงาเพ็ญ

    สรรพ ชีวิตจึงอยู่เป็นเช่นธรรมดา

    สิ่ง ทั้งหลายคล้ายหมอกควันพลันจางหาย

    ทิ้ง การเกิดละการตายไร้กังขา

    ผ่าน ชีวิตพึงตั้งจิตพิจารณา

    ไป ให้พ้นอวิชชาพาเบิกบาน

    ***************

    กลอนที่เห็นนี้เป็นกลอนสดช่จะแอบแต่งเอาไว้ก่อนก็หาไม่ เพราะถ้าจะแอบแต่งเอาไว้ล่วงหน้า เห็นจะจำกันไม่หวาดไหว เพราะว่ามากมายเหลือคณา ใครถามอะไรก็ตอบเป็นกลอนทุกคราวไป จะรู้ล่วงหน้าหรือว่าใครจะถามอะไร นี่ก็เป็นเรื่องน่าแปลกใจอีกข้อหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกนับถือจริงๆ

    ผมเคยถามคุณธำรงว่า เวลาเข้าทรงนั้น คุณธำรงรู้สึกอย่างไร คุณธำรงบอกว่า คล้ายๆกับเข้าสมาธิ ซึ่งผมคิดไม่ออกว่าเป็นสมาธิแบบใด คุณธำรงก็กรุณาอธิบายเรื่องการเข้าทรงให้ผมทราบพอประมาณดังนี้

    การเข้าทรงมี 2 แบบ

    แชกี ร่างทรงยังจะพอรู้ตัวอยู่บ้าง สามารถเคลื่อนไหวแต่บังคับตัวเองไม่ได้ แล้วแต่ว่าไม้หลิวที่ร่างทรงจับไว้ในมือจะพาไป

    จุ้ยกี ร่างทรงจะเหมือนหลับไปเลย ไม่รู้ตัวว่าได้ทำอะไรไปบ้าง

    การเข้าทรงของจีนนั้น จะต้องมีไม้หลิวศักดิ์สิทธิ์เป็นอุปกรณ์สำคัญ ลักษณะไม้หลิวก็เป็นง่ามจับ 2 อัน คนเข้าทรงจับด้ามหนึ่ง ผู้ช่วยจับอีกด้ามหนึ่ง ใครเคยไปร่วมงานพิธีล้างป่าช้า จะรู้จักไม้หลิว ที่ร่างทรง 2 คนวิ่งถือไม้ไปชี้จุดที่มีศพฝังเป็นอย่างดี ใครไม่รู้จักก็เห็นจะต้องหาโอกาสไปดูที่สมาคมฯจีจินเกาะด้วยตัวเองจะเข้าใจ

    นอกจากไม้หลิวเป็นอุปกรณ์สำคัญแล้ว ในกรณีของคูณธำรงจะมีกระบะไม้ ที่พื้นกระบะเป็นแผ่นทองเหลือง เอาไว้สำหรับให้ไม้หลิววิ่งเป็นตัวหนังสือ สมัยก่อนใช้กระบะทราย ทุกวันนี้พัฒนามาให้สะดวกขึ้น คือกลายเป็นกระบะทองเหลือง

    ท่านอาจารย์จี้กงเมื่อเข้าทรงจะไม่พูดโต้ตอบกับคนด้วยวาจา แต่จะโต้ตอบด้วยการเขียนหนังสือ ซึ่งต้องอาศัยล่าม หรือคนอ่านตัวหนังสือที่คุณธำรงเขียนคนหนึ่ง และต้องมีคนจดข้อความอีกคนหนึ่ง

    นัยว่าการเข้าทรงแบบที่มีไม้หลิวนี้จะน่าศรัทธากว่าแบบอื่น

    หลังจากได้พบคุณธำรงเป็นครั้งแรกแล้ว ไม่นานเดือนต่อมา ดูเหมือนจะเป็นวันที่ 19 มกราคม 2545 ก็ได้พบกับคุณธำรงอีกเป็นครั้งที่ 2 ที่วัดแก่งตอย อ.ดอนมดแดง จ.อุบลฯ การเข้าทรงที่นี่มีเรื่องแปลกซึ่งจะได้เล่ากันต่อไป

    คุณธำรงกับคณะญาติธรรมของสมาคมฯจีจินเกาะ และจีตัมเกาะ (อุบลฯ) รวมทั้งชมรมศิษย์พระอรหันต์จี้กง(อุบลฯ) ก็มาร่วมกันเพื่อบริจาคทานแก่คนยากไร้ ในละแวกนั้นหลายคน ซึ่งถือว่าเป็นการบำเพ็ญบุญทานตามปกติของสมาคมที่จัดขึ้นบ่อยๆตลอดปี

    ในการเข้าทรงที่วัดแก่งตอย ท่านอาจารย์จี้กงได้เล่าเรื่องวัดแก่งตอยในรูปแบบของกลอนแปดซึ่งค่อนข้างยาว ผมจึงไม่นำมาลง แต่จะจับเอาเนื้อหาใจความสำคัญ 2 - 3 แง่มาให้พิจารณาดู

    อย่างแรกท่านอาจารย์จี้กงบอกว่า เดิมวัดแก่งตอยเป็นสถานที่ซึ่งกษัตริย์ขอมโบราณ ใช้เป็นที่พักทัพระหว่างเดินทาง

    อย่างที่ 2 บอกว่าเคยมีเจดีย์สีทององค์หนึ่งกลางวัดแก่งตอย

    อย่างที่ 3 บอกว่าในอดีตที่นี่มีมโหรีเภรีกลอง

    ท่านอาจารย์เวท เจ้าอาวาสวัดแก่งตอย ในขณะนั้นรับว่าจริงทุกประการ โดยเฉพาะเรื่องเสียงกลองในวัดแก่งตอย คุณธำรงไม่น่าจะทราบว่ามี คนแก่ 80 - 90 ปีเท่านั้นจึงจะพอรู้เรื่องนี้

    เสียงกลองนี่จะดังระงมเป็นประเพณี ที่เกิดจากการแข่งตีกลอง คนอีสานเรียกว่า "เส็งกลอง" เพื่อถวายเทพเทวดา หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัด ที่เขาลือว่าชอบเสียงกลองเป็นพิเศษ แม้ว่าทุกวันนี้จะไม่มีเสงกลองแล้ว แต่คำเล่าขานยังพอมีให้ได้ยิน

    คุณธำรงคงไม่มีเวลาแอบมาสืบสาวราวเรื่องล่วงหน้าเป็นแน่แท้ เพราะว่าแม้ผมเอง หรือชาวบ้านละแวกวัดยังหาตัวผู้รู้ได้ยากมาก

    ระหว่างการเข้าทรงซึ่งใช้เวลานานชั่วโมงนั้น ท่านอาจารย์ได้ลุกออกไปนอกศาลาที่กำลังเข้าทรง เพื่อไปดูการก่อสร้างกุฏิถวายหลวงปู่คำพันธ์

    ลูกศิษย์ที่อยู่ตรงบริเวณก่อสร้างก็ปรารภว่า "ร่างทรงกินเหล้าไปด้วย มันยังไงอยู่นา ไม่รู้ว่าร่างทรงอยากจะกินเหล้าเอง หรือท่านอาจารย์จี้กงกินเองก็ไม่ทราบ"

    เมื่อท่านอาจารย์เวทกลับเข้ามาในศาลา คุณธำรงก็ถามท่านอาจารย์เวทเป็นบทกลอนทันที

    พระ จี้กงกินเหล้าผิดศีลไหม

    เวทย์ มนต์ไซร้ล้วนจากใจใช่อื่นหนอ

    จง มีธรรมเพียงคืบใจเท่านั้นพอ

    จำ ไว้เถิดรู้เล่นล้อกับโลกธรรม

    นับว่าแปลกมากที่ท่านทำเหมือนรู้ว่าใครจะแอบนินทาเป็นไม่ได้

    โปรดสังเกตุตรงบาทสี่ "จำไว้เถิดรู้เล่นล้อกับโลกธรรม" นับว่าลึกซึ้งมาก


    โลกธรรมทั้ง 8 ซึ่งก็คือ มีสรรเสริญ ย่อมมีนินทารวมอยู่ด้วย

    ต่อจากนั้นท่านก็เขียนกลอนให้ผมอีกเป็นครั้งที่ 2 กลอนนั้นมี 2 บทดังนี้

    อำ นวยชัยให้ประสบพบวิถี

    พล กำลังจงมากมีอย่าเฉไฉ

    ศิษย์ ตระหนักชัดแจ้งเห็นแทงใจ

    ข้า จี้กงบ้าใบ้ใช่แท้จริง

    เริง รื่นไปกับความไม่เที่ยง

    ร่า อารมณ์เป็นแต่เพียงเล่นสุงสิง

    ใน วิถีสู่ความเห็นแจ้งจริง

    ธรรม ทุกสิ่งไม่เที่ยงแท้แค่ผ่านเลย

    ถึงตรงนี้ผมเข้าใจในทันใดว่า ท่านอาจารย์จี้กงท่านรับผมเป็นศิษย์ หรือจะเห็นผมเป็นศิษย์อยู่แล้วนั่นเอง จึงเมตตากรุณาให้ข้อคิดทางธรรมไว้พอประมาณ

    จะว่าไปแล้วผมชักอยากแต่งกลอนซะแล้วซี

    มีครูเป็นอาจารย์กลอนขนาดนี้ใครบ้างจะไม่อยากหัด

    เมื่อจะทึกทักเอาตัวเองเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์จี้กง ก็จะต้องพูดถึงงานชิ้นหนึ่งที่ได้ทำเอาไว้นั่นคือ รูปเหมือนท่านอาจารย์จี้กง เนื้อผงลอยองค์ ขนาดแขวนสร้อยคอได้

    เรื่องของเรื่องนั้น เกิดจากคุณธำรงได้ว่าจ้างให้ผมทำขึ้นเป็นจำนวน 60 องค์ ด้วยผงสำคัญที่ได้รวบรวมมาทั่วโลก โดยเฉพาะผงธูปจากเมืองจีนในวัดของท่านอาจารย์จี้กงเอง

    ไหนๆก็ไหนๆจะขอโอกาสบันทึกเอาไว้เป็นพระอีกรุ่นที่หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ ได้อธิฐานจิตปลุกเสกไว้อีกรุ่น ที่ใช่แต่จะเป็นของน่าสนใจในหมู่ลูกศิษย์ผู้นิยมการสะสม ก็ยังเป็นของที่ทั้งคุณธำรงและผมภูมิใจอีกด้วย

    รูปท่านอาจารย์จี้กงนี้สร้างและเสกตั้งแต่ราวๆปี2540คงจะกลายเป็นของหายากไปแล้ว

    เมื่อได้พูดถึงรูปเหมือนท่านอาจารย์จี้กงแล้วก็รู้สึกเหมือนตัวเองหมดภาระ โล่งใจเบาตัวบอกไม่ถก

    ตบท้ายด้วยบทกลอนอำลาของท่านอาจารย์จี้กงสักบท เผื่อเอาไว้คราวหน้า จะได้กลับมาคุยเรื่องของท่านกันอีก

    เต๋า คือทางย่ำย่างหว่างวิถี

    จี้ มนุษย์ให้ทำดีมีกุศล

    ไป สู่ทางสงบเย็นเห็นกมล

    แล้ว จะพ้นวงวัฏฏ์ไปไม่กลับมา



    ร่วมบุญ 1,200 บาท
    รุ่นนี้สวย หายากครับ นานๆจะเจอสักองค์
    ใครศรัทธาองค์ตั่วเหล่าเอี๊ยไม่ควรพลาดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2016
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...